“กัญจนา” บอกชาติไทยพัฒนา ขออยู่นิ่งๆ รอดูพรรคที่ทำMOU ตั้งรัฐบาล โนคอมเมนต์ สาระ 23 ข้อ ย้ำ ม.112 ไม่ใช่ตัวปัญหา ยังไม่ถึงเวลาตัดสินใจโหวตนายกฯ
นางกัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงท่าทีของพรรคชาติไทยพัฒนาต่อการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลว่า ขณะนี้พรรคชาติไทยพัฒนาขออยู่นิ่ง เพราะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาลขอเป็นฝ่ายดูทางพรรคที่มีการเซ็น MOUกัน ว่า จะดำเนินการอย่างไร ซึ่งส่วนตัวได้อ่านรายละเอียดของMOUแล้ว แต่ไม่ขอออกความเห็น ขอให้เป็นเรื่องของพรรคที่ไปลงนามว่าจะดำเนินการอย่างไรใน 23 ข้อเพราะเราเป็นคนนอก
ส่วนจะกังวลในนโยบายใดนั้น ก็ไม่ขอออกความเห็น เพียงแต่คอยรับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งก็มีทั้งบวกและลบเป็นเรื่องธรรมดา มีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ ก็ขึ้นอยู่กับพรรคที่ไปเซ็นMOUร่วมกันว่าจะรับฟังหรือไม่อย่างไร
และการที่ไม่ได้มีการระบุเรื่องแก้ไขมาตรา112 ไว้ในMOUนั้น เรื่องนี้หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาได้พูดถึงจุดยืนไว้แล้วหลายครั้ง หากมีการเสนอเข้าไปในสภา ก็ย้ำว่า กฎหมายนี้ไม่ใช่ตัวปัญหา แต่อาจจะมีปัญหาบ้างในการบังคับใช้ ซึ่งก็ต้องไปพูดคุยกัน
สำหรับการโหวตเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี นางกัญจนา กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เพราะยังมีขั้นตอนอีกหลายอย่าง ทั้งต้องรอ กกต.รับรอง ส.ส.และต้องโหวตหาประธานสภาฯ ก่อน และเมื่อถึงเวลาแล้ว ทางพรรคจะมีการประชุมกันอีกทีว่าจะมีท่าทีอย่างไร
ขณะคนที่มาเป็นผู้นำรัฐบาลควรมีคุณสมบัติอย่างไรนั้น นางกัญจนากล่าวว่า แค่ทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองเจริญ ให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ดูแลระดับรากหญ้า จนไปถึงระดับสากล และทำในสิ่งที่ยั่งยืน ส่งต่ประเทศที่ดีงามไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ซึ่งคิดว่านักการเมืองทุกคนน่าจะคิดดีกับประเทศไทยอยู่แล้ว แต่คนที่จะมาเป็นนายก จะต้องมีระดับดีกรีเรื่องนี้ที่สูงกว่านักการเมืองทั่วไป
ส่วนการโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ยังมีความไม่ชัดเจนระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลนั้น นางกัญจนา ยืนยันไม่ขอออกความคิดเห็น เพราะต้องเป็นเรื่องของ2พรรคที่จะต้องไปพิจราณากัน ในการวางตัวและคุณสมบัติ ของผู้ที่จะมาเป็นประธานสภาฯ แต่ส่วนเห็นว่าผู้ที่จะมาเป็นประธานสภาฯ จะต้องเก่งในเรื่องกฎหมายพอสมควร ต้องบอกตรงๆ ว่าที่ผ่านมา นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ
ทำมาตราฐานไว้ดีมาก ทั้งเรื่องตัวบทกฎหมายและการแม่นข้อบังคับต่างๆ และยังมีลูกล่อลูกชน ในการควบคุมการประชุม ทำให้บรรยากาศการประชุมที่ตึงเครียดได้ผ่อนคลายลง รวมถึงบารมีของนายชวน ที่จะเบรกเรื่องต่างๆ ที่ดูไม่เหมาะสม ถือเป็นการวางมาตราฐานประธานสภาฯ ไว้สูงมาก จึงน่าจะเป็นตัวอย่างคนที่จะมาเป็นประธานสภาฯ คนต่อไป ที่จะได้ยึดนายชวน หลีกภัยเป็นตัวอย่าง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews