“ชลน่าน” ย้ำ ไม่มีดีลลับจัดตั้งรัฐบาล หลัง มีภาพ “เศรษฐา” ดูฟุตบอลกับ อนุทินเผย ประชุมพรรคร่วมพรุ่งนี้ คาด หารือแนวทางการทำงานร่วมกัน ยัน ก้าวไกล-เพื่อไทย ไม่มีความขัดแย้ง แนะ ตำแหน่งครม.ต้องแบ่งกันทำงานตามวาระงาน มองเสียงข้างมากควรมิสิทธิกำหนดหน้าที่ แต่ต้องมีการถ่วงดุลอำนาจด้วย
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่างถึงกรณีที่มีภาพนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางไปดูฟุตบอลด้วยกันที่สหราชอาณาจักร ทำให้มีกระแสตีกลับย้ำว่ามีดีลลับการจัดตั้งรัฐบาล ว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องนี้จากสื่อมวลชน แต่นายเศรษฐา เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเดินทางไปดูฟุตบอล จึงไม่อยากแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้และไปตั้งสมมุติฐานขึ้นมา
เพราะส่วนตัวเชื่อว่าท่านคงไม่เป็นคนแบบนั้น แม้ว่าอะไรที่เกิดขึ้นในสังคมก็สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นด้วย เช่นเดียวกับกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าขณะนี้กำลังมีการเตรียมตั้งจัดรัฐบาลใหม่โดยไม่มีพรรคก้าวไกล เรื่องนี้ตนขอไม่ออกรวามเห็น เนื่องจากเป็นภารกิจส่วนตัวของนายเศรษฐาไม่ใช่ภารกิจของพรรค แต่ขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่มีเรื่องดีลลับอะไรแบบที่เป็นข่าวทั้งสิ้น
ส่วนในวันพรุ่งนี้ที่จะมีการประชุมร่วมรัฐบาลที่พรรคประชาชาตินั้น ขณะนี้พรรคแกนนำได้ประสานมายังเลขาธิการพรรคให้แจ้งตนแล้วว่าให้เข้าร่วมประชุมด้วย เวลา 14.30 น. แต่ยังไม่ทราบว่าจะหารือประเด็นอะไร หรือมีเรื่องตำแหน่งคณะรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะต้องรอเลขาธิการพรรคชี้แจงในที่ประชุมในช่วงบ่ายวันนี้ เบื้องต้นจึงน่าจะเป็นเรื่องแนวทางการทำงานร่วมกันเป็นหลัก
แต่สำหรับกรณีความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลนั้น ย้ำว่าเรามีคณะเจรจาอยู่ แต่ยังไม่ได้พูดคุยกันอย่างเป็นทางการ จึงอยากให้มองมิติการแสดงความคิดเห็นในสังคมประชาธิปไตยว่าเป็นสิทธิเสรีภาพของทุกคนที่จะแสดงออกมา ดังนั้นความคิดเห็นเหล่านั้นจึงเป็นเพียงประเด็นภายนอกเท่านั้นและต้องยึดเอาความเห็นของคณะเจรจาเป็นหลัก พร้อมยืนยันว่าทั้งสองพรรคไม่มีความขัดแย้งใดๆ แต่สิ่งที่ลงบนสื่อทำให้คนเข้าใจแบบนั้น
ส่วนเกมอาจจะพลิกหรือไม่เพราะอีกฝ่ายรอส้มหล่น นายพิชัย มองว่า คงไม่ง่าย เพราะเรายึดหลักประชาธิปไตยมาโดยตลอด ต้องสนับสนุนพรรคก้าวไกลให้ตั้งรัฐบาลได้ให้ถึงที่สุด ตนห่วงนายพิธากรณีหุ้นสื่อ ไอทีวี เพราะมีการปล่อยข่าวออกมาเยอะ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับศาลว่าจะตัดสินอย่างไร
แต่ก็เป็นห่วงเพราะเรื่องนี้อาจจะเป็นจุดที่ทำให้นายพิธาไม่ได้เป็นนายกฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะนายพิธาเป็นคนเก่ง เป็นคนฉลาด และสภาอุตสาหกรรมก็ชื่นชมนายพิธาว่าเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจดี ตอนนี้ประเทศเราต้องการคนเก่งคนฉลาด จึงไม่ได้มีการโทรคุยเคลียร์ใจอะไรส่วนตัวและก็ไม่ขอไปก้าวล่วงด้วย
ทั้งนี้เรื่องตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกันอย่างเป็นทางการ เพราะต้องรอให้การหารือเรื่อง MOU เสร็จสิ้นเสียก่อน แต่อยากให้จัดสรรตำแหน่งตามวาระงาน หน้าที่ และนโยบายที่แต่ละพรรคเหมาะสมที่สุด โดยเน้นเรื่องแบ่งงานกันทำ ไม่ใช่แย่งงานกันทำ สำหรับจุดยืนในตำแหน่งประธานสภา ย้ำว่าคณะเจรจาก็ต้องไปพูดคุยกันต่อ แต่ด้วยตนมีชื่อเสนอในตำแหน่งประธานสภาด้วย จึงไม่อยากแสดงความคิดเห็นมากนัก แต่ย้ำว่าเป้าหมายที่สำคัญคือเราต้องทำงานร่วมกันในระบอบประชาธิปไตยให้ได้
เพื่อหาทางออกและบรรลุตรงตามความต้องการของประชาชนกว่า 25 ล้านเสียง ส่วนตำแหน่งประธานสภาจะใช้รูปแบบฟรีโหวตหรือไม่ อันนี้ก็ต้องไปพูดคุยกันอีกที แต่เป็นหนึ่งในแนวทางที่หลายๆฝ่ายเสนอมา ดังนั้นก็ต้องไปหารือกันโดยไม่เอาปัจจัยแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่าการรวมตัวตั้งรัฐบาล ตามหลักแล้ว ใครได้รับเสียงข้างมากควรจะมีสิทธิกำหนดตำแหน่งต่างๆในการทำหน้าที่
เพื่อขับเคลื่อนการทำงาน แต่ตามระบบรัฐสภา เราก็ต้องต้องยึดหลักในการเบ่งแยกอำนาจและถ่วงดุลกันระหว่างบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการร่วมด้วย จึงเชื่อว่าความเห็นต่างคงไม่ทำให้ความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลคลายออกจากกันหรอก ไม่เช่นนั้นเราก็จะทำให้ความต้องการของพี่น้องประชาชนกว่า 25 ล้านเสียงหลุดลอยไป เพราะความเห็นต่างของเรา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews