เพื่อไทย แถลงไม่ทรยศประชาชนเดินหน้าจับมือก้าวไกลตั้งรัฐบาล ปฏิเสธดีลลับ ย้ำเศรษฐา-อนุทิน แค่ดูบอล โยนถามชูวิทย์ปูดดีลเกาะลังกาวี แจงคุย 8 พรรคร่วมรัฐบาลไม่ควรคุยตำแหน่งในวงประชุม หวั่นไม่จบ
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายประเสิรฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงข่าว กรณีกลุ่มแฟนคลับเสื้อแดงพรรคเพื่อไทยยื่นข้อเสนอแนะและข้อเรียกร้องต่อพรรคเพื่อไทย 5 ข้อ นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หนึ่งในข้อเสนอคือทบทวนให้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลนี้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยโดยคณะกรรมการบริหารได้มีมติยอมรับความต้องการของประชาชนที่เลือกพรรคก้าวไกลกว่า 14 ล้านเสียง และเลือกพรรคเพื่อไทยกว่า 10 ล้านเสียง จึงยืนยันที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล รวมทั้งหมด 8 พรรคที่ได้ลงนาม MOU ไปแล้ว พร้อมมั่นใจว่าจะทำงานกับพรรคก้าวไกลเป็นประชาธิปไตยที่สนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีให้จนได้
ส่วนข้อเรียกร้องในข้อที่ 5 คือหากพรรคอันดับ 1 ไม่สามารถรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลได้ขอให้พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคอันดับ 2 รวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลเพื่อผลักดันนโยบายที่ได้หาเสียงไว้นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรายังมีเจตจำนงยึดมั่นที่จะทำตามแนวทางที่1 ให้สำเร็จลุล่วง และไม่คาดหวังว่าพรรคก้าวไกลจะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จึงขอรับฟังไว้ ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้เรามีความมุ่งมั่นจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลภายใต้ 8 พรรคร่วมให้จนได้
ส่วนกรณีมีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยมีดีลลับจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคก้าวไกลและผลักให้พรรคก้าวไกลเป็นพรรคฝ่ายค้าน นพ.ชลน่าน ระบุว่า พรรคเพื่อไทยขอปฏิเสธ หลังจากการเลือกตั้งไม่เคยมีดีลลับกับใคร มีดีลที่เปิดเผยให้ประชาชนเห็นคือการลงนาม MOU กับ 8 พรรคการเมือง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน
“ดังนั้นประเด็นที่เสนอก็ชัดเจนว่าเป็นดีลลับ ถ้าอยากทราบคงต้องไปถามคนที่นำเสนอว่าเป็นดีลลับแล้วทำไมเขาถึงรู้ได้ พวกเราต้องขออนุญาต เพราะจนใจที่จะตอบ และไม่รู้จริงๆ”
ส่วนกรณีปรากฎภาพนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ไปดูฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษ และมีภาพถ่ายกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ทำให้มีคนไปเชื่อมโยงกับข่าวดีลลับนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า
นายเศรษฐาเคยประกาศมาเป็นเดือนแล้วว่าจะไปดูฟุตบอลที่อังกฤษ ซึ่งนายเศรษฐาได้ชี้แจงในทวิตเตอร์แล้ว อีกทั้งนายเศรษฐาเป็นคนที่ตรงไปตรงมาไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อนซึ่งการดูฟุตบอลเป็นสิทธิเสรีภาพจึงขอปฏิเสธในนามของพรรคเพื่อไทยไม่มีดีลลับระหว่างนายเศรษฐาและนายอนุทิน
ส่วนนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ เปิดเผยว่ามีดีลลับลังกาวี นพ.ชลน่าน หัวเราะ พร้อมระบุว่า ผู้สื่อข่าวต้องไปถามนายชูวิทย์ เพราะเป็นคนเปิดเผยตนในนามพรรคเพื่อไทยเรียนว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่มีดีลลับเรื่องพวกนี้ ส่วนได้วิเคราะห์สถานการณ์หรือไม่ที่ช่วงนี้มีกระแวสข่าวดีลลับตลอดแม้เพื่อไทยปฏิเสธข่าว นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองแบบนี้ย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ส่วนจะมีข้อมูลข้อเท็จจริงหรือไม่ก็อีกประเด็นหนึ่ง ถ้ามองในมุมที่เป็นบวกเป็นประโยชน์กับประเทศชาติประชาชนก็เป็นเรื่องดี แต่ต้องดูว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่
ในนามพรรคเพื่อไทยที่ถูกกล่าวหานั้นต้องบอกว่าสิ่งที่เขาพยายามพูดออกมาไม่ใช่ข้อเท็จจริง และยืนยันตลอดว่าเราไม่มีพฤติกรรมแบบนั้น เพราะสิ่งที่เราได้รับมาจากประชาชนทั้ง 2 พรรค 25 ล้านเสียง มันเป็นสัญญานที่ยิ่งใหญ่ เป็นการมอบหมายภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าจะทำอย่างนั้นได้ ประชาชนมีข้อตัดสินชัดเจนไม่เอาเผด็จการ ซึ่งทั้ง 2 พรรคมีจิตสำนึกเรื่องนี้ ดังนั้นหน้าที่คือจะทำอย่างไรให้บรรลุเจตจำนงของประชาชน เพื่อไทยจึงยืนยันว่าเราไม่มีวันทรยศประชาชน
ส่วนที่มีกระแสข่าวต่างๆออกมา ถือเป็นมิติทางการเมือง ตนเป็นหัวหน้าพรรคมองเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเกิดก่อนหรือหลังเลือกตั้ง หรือแม้เป็นรัฐบาลไปแล้วก็จะมีการแสดงความคิดเห็นต่างๆ
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) จะหารือกันเรื่องตำแหน่งต่างๆในการคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรคหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตามที่เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้เสนอมาคือระบุถึงเรื่องทิศทางการทำงานร่วมกันที่จะจัดตั้งรัฐบาล และเตรียมตัวเป็นรัฐบาลในช่วงเปลี่ยผ่านว่ามีการทำงานรูปแบบไหน และมีคณะกรรมการร่วมกันที่จะทำหน้าที่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพื่อให้การทำงานต่อเนื่องกับรัฐบาลชุดเดิมกรณีที่ได้รับตำแหน่งหน้าที่แล้วให้เป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องหลัก สำหรับเรื่องตำแหน่งในมุมของตน เห็นว่าไม่ควรคุยกันในเวที 8 พรรค นั้น
ซึ่งการเจรจาการทำงานร่วมกันมีกรอบแล้วว่าทำอย่างไร ทางพรรคแกนนำควรไปคุยกับพรรคร่วมต่างๆให้ได้ข้อสรุป แล้วจึงค่อยนำขึ้นมาพูดคุยกันบนเวที 8 พรรค เรื่องตำแหน่งต่างๆ อีกครั้ง และขณะนี้ยังไม่คุยกันอย่างเป็นทางการหากพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ได้หารือเรื่องประธานสภาแล้วหรือยัง นพ.ชลน่าน ระบุว่า คณะทำงาน 2 พรรคกำลังประสานอยู่ รวมถึงตำแหน่งอื่นๆเช่นกัน ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร เป็นไปตามที่คุยหรือไม่ มีข้อเสนออย่างไร รับได้ไม่ได้อย่างไร หลังจากนั้นจะเอามาพูดคุยกัน เพื่อประกอบการตัดสินใจและตอบ ทั้งนี้ เรื่องตำแหน่งประธานสภา รีบคุย รีบจบมีคำตอบ จะดีที่สุด ทีมเจรจากำลังพยายามกันอยู่ และมั่นใจว่าไม่บานปลายจนไม่สามารถขัดตั้งรัฐบาลได้
ส่วนการนัดหารือในวันพรุ่งนี้ของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล นายประเสริฐ กล่าวว่า เท่าที่ได้ประสานงานกับเลขาธิการพรรคก้าวไกลจะหารือ กรอบการทำงาน เรื่องการขับเคลื่อนภารกิจ แบบไร้รอยต่อ ที่จะต้องคุยกันในรายละเอียด
ส่วนจะมีการหารือเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือตำแหน่งรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หัวข้อระบุชัดว่าจะหารือเรื่องทิศทางการทำงานร่วมกันของรัฐบาลในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยเฉพาะประเด็นตั้งคณะ กรรมการร่วมกันที่จะทำหน้าที่ ดำเนินการในช่วงเปลี่ยนผ่านเพื่อให้การทำงานต่อเนื่อง เพื่อให้ราบรื่นรวดเร็วตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน ส่วนเรื่องตำแหน่งในมุมของพรรคเพื่อไทยเห็นว่าไม่ควรจะไปคุยในเวที 8 พรรคตรงนั้น เพราะมีกรอบการทำงานแล้ว ใน MOU
ที่จะต้องไปพูดคุยในรายละเอียดว่าจะแบ่งงานตามลักษณะวาระงานอย่างไร เมื่อได้ข้อสรุปพอสมควรแล้วจึงจะ นำมาพูดคุยในเวทีของ 8 พรรคการเมือง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มพูดคุยเรื่องตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เพราะอาจจะมีประเด็นหลากหลายและคุยกันไม่จบ เพราะถ้าแปลงข้อเท็จจริงไปในทางลบก็จะเป็นมุมลบ ไม่ควรคุยกันบนโต๊ะที่ไม่จบหรือคุยผ่านสื่อ ประสบการณ์มีมาแล้ว 3-4 วันที่ผ่านมา เพราะจะทำให้ เกิดความกังวลประชาชนไม่สบายใจจึงพยายามลดเงื่อนไขตรงนั้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
