Home
|
ข่าว

เปลี่ยนแผน!ม็อบไม่ไปราบ11ไปศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

Featured Image
ม็อบไม่ไปแล้ว ราบ11 บอก จนท.มาก เปลี่ยนแผนการเดินทางไปเป็นศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เยี่ยมบ้าน”สิระ”แทน

นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง แกนนำกลุ่มราษฎร กล่าวก่อนการเริ่มเดินขบวนรวมพลคนเสื้อแดง ว่า จากที่ได้ประเมินสถานการณ์จากฝั่งกรมทหารราบที่ 11 แล้ว เห็นว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมความกำลังและอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนไว้เป็นจำนวนมาก ทางกลุ่มจึงเปลี่ยนแผนการเดินทางไปเป็นศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และที่ทำการพรรคพลังประชารัฐของ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ที่เคยพูดดูถูกกลุ่มราษฎร แทนเพื่อแสดงสัญลักษณ์บางอย่าง ให้ นายสิระ เห็นว่าม็อบราษฎรไม่เคยใช้ความรุนแรง และยืนยันจะไม่เกิดเหตุวุ่นวายรุนแรงแน่นอน วันนี้จึงทำให้รู้ว่าอย่าดูถูกพลังราษฎร

“ไผ่ ดาวดิน” นำมวลชนเดินทะลุฟ้าเข้ากรุงเทพแล้ว ใช้ถนนวิภาวดีขาเข้า ปลายทาง ม.เกษตรฯ

นายจตุรภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ได้เดินนำขบวน เดินทะลุฟ้า เข้ากรุงเทพมหานคร โดยเริ่มเดินตั้งแต่หน้าศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต โดยใช้ถนนวิภาวดีขาเข้าโดยมีกลุ่มมวลชนเกือบ 100 คน ร่วมการเดินในครั้งนี้ซึ่งขณะที่กลุ่มมวลชนจะเดินเข้าเส้นทางถนนวิภาวดีรังสิตนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนของจังหวัดปทุมธานีจำนวน 1กองร้อยได้นำรถตู้และเจ้าหน้าที่ตำรวจมาปิดถนนเพื่อให้กลุ่มมวลชนได้ใช้เส้นทางถนนพหลโยธินแทน  แต่กลุ่มมวลชนไม่ยอมไปใช้เส้นทางถนนพหลโยธินยืนยันว่าจะใช้เส้นทางถนนวิภาวดีรังสิต กลุ่มมวลชนจึงได้พากันนั่งลงและตะโกนกล่าวคำเรียกร้องทั้ง 3 ข้อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ฟัง

 

“สิระ”เตือนม็อบ ไม่รับประกันความปลอดภัย หากล้ำเส้นบุกเข้าบ้านทรงไทย ขอใช้สิทธิตามกฎหมายปกป้องชีวิต-ทรัพย์สิน

นาย สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดง เปลี่ยนแผน เคลื่อนขบวนออกจากท่ารถตู้รังสิต มุ่งหน้าไปศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป้าหมายบ้านคือบ้านทรงไทยของตนว่า ถ้ามาเพื่อแสดงออกกิจกรรมทางการเมืองอยู่บริเวณถนนหน้าบ้านตน ก็ถือว่าอยู่ในพื้นที่สาธารณะ แต่หากมีการบุกรุกเข้ามาในบริเวณด้านในบ้าน ตนก็จะดำเนินการทันที ซึ่งตนไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของใครได้

“ผมขอเตือนว่าอย่าล้ำเส้น ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้กลัวการมาชุมนุมหน้าบ้านผม แต่ไม่อยากให้เกิดการสูญเสียขึ้น เพราะหากคุณรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ส่วนบุคคล ด้วยเจตนาปองร้ายต่อตัวผมหรือทรัพย์สิน ผมก็สามารถใช้อาวุธป้องกันความปลอดภัยให้กับชีวิตและทรัพย์สินของผมได้ตามกฎหมาย” นายสิระ กล่าว

เมื่อถามว่ามีความกังวลใจหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า ตนได้รับรายงานมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าจะมีการชุมนุมหน้าบ้านตน โดยน่าจะมีมวลชนประมาณ 70-80 คน มาตรการรักษาความปลอดภัยภายนอกก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เขาเตรียมรับมืออยู่แล้ว ตนไม่กังวลอะไร

ศาลอาญา กางลวดหนาม ขึงสแลนรับม็อบ REDEM นัดรวมตัววันนี้ หวั่นขว้างปาสิ่งของเข้าพื้นที่

บรรยากาศที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ล่าสุด ฝ่ายรักษาความปลอดภัยบริเวณศาลอาญา ได้มีการกางลวดหนามหีบเพลงบริเวณริมรั้วทางเข้า-ออก พร้อมกับมีการกางตาข่ายสแลนสีฟ้าเพื่อป้องกันการขว้างปาสิ่งของของกลุ่มผู้ชุมนุม “กลุ่มประชาชนสร้างตัว” หรือ ม็อบ REDEM ซึ่งมีการนัดรวมตัวกันบริเวณห้าแยกลาดพร้าว ใน เวลา 14.00 น.ของวันนี้ เพื่อเดินทางมายังศาลอาญา

นอกจากนี้ ยังได้ประเมินสถานการณ์หากมีการขว้างปาสิ่งของ เช่น ขยะ ไข่ ไว้โดยการซักซ้อมของพนักงานทำความสะอาดไวด้วย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะมีการเคลียร์พื้นที่ ขอให้นำรถที่จอดบริเวณลานจอดรถหน้าศาลอาญาไปจอดบริเวณอื่น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย

ศูนย์ราชการ กั้นรั้วเหล็ก มี ตชด.1 กองร้อย รอรับม็อบ ขณะ บ้าน “สิระ” ติดประกาศห้ามบุคคลภายเข้าพื้นที่

ภายหลังจากกลุ่มแนวร่วมแดงก้าวหน้า 63 ได้เปลี่ยนเส้นทางการเดินขบวนจากเดิมจะเดินทางไปยังกรมทหารราบที่11 เป็นศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะและที่ทำการพรรคพลังประชารัฐของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ แทนนั้น บริเวณศูนย์ราชการฯ ก็ได้มีการนำรั้วเหล็กมาปิดกั้นไม่ให้รถเข้า พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่และตำรวจตระเวณชายแดน (ตชด.)ประมาณ 1กองร้อย มาประจำอยู่ในพื้นที่

ขณะเดียวกัน ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐของนายสิระ ก็ได้มีการปิดรั้วเหล็กและแผ่นป้ายไม่ให้บุคคลภายเข้าพื้นที่แล้ว

 

ตำรวจตรึงกำลังเข้มศาลอาญารับม็อบREDEM เตรียมมาตรการ 3ขั้น หากเริ่มมีความรุนแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ ตำรวจ เตรียมความพร้อมรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมรีสตาร์ทเดโมเครซี่(REDEM) นัดรวมตัวที่ห้าแยกลาดพร้าว ก่อนเท้ามายังศาลอาญา เพื่อจัดกิจกรรมทิ้งขยะหน้าศาล

โดยเจ้าหน้าที่ได้เตรียมมุ้งตาข่ายสีฟ้ามาขึงเป็นแนวยาวตลอดพื้นที่ภายในศาล เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมขว้างปาสิ่งของหรือวัตถุอันตรายเข้ามาภายใน ส่วนบริเวณสะพานลอยข้ามถนนช่วงหน้าศาลอาญา เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามหีบเพลงวางปิดทางขึ้นลง นอกจากนี้ ยังนำแผงเหล็กกั้นรอบฐานพระบรมสาทิสลักษณ์ที่ตั้งอยู่หน้าศาลอาญาด้วย นอกจากนี้ ยังมีกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนประจำการอยู่ภายในศาล รวมถึงรถควบคุมผู้ต้องหา และรถดับเพลิงจอดเรียงกันนับสิบคัน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่ได้ประกาศมาตรการควบคุมสถานการณ์การชุมนุมครั้งนี้ไว้ 3 ขั้นตอน คือ

1.การรักษาพื้นที่ โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำการณ์ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

2.หากมีการปีนป่ายรั้วเข้ามาในเขตศาล ถือว่าผิดกฎหมายฐานบุกรุกสถานที่ราชการและละเมิดอำนาจศาล เจ้าหน้าที่สามารถเข้าจับกุมได้ทันที ส่วนขั้นตอนการควบคุมสถานการณ์ จะใช้วิธีเริ่มตั้งแต่การใช้น้ำแรงดันสูงฉีด การใช้แก๊ส และ กระสุนยาง

3.หากมีการเผารูปหน้าศาล หรือขว้างระเบิดเพลิงเข้ามา ต้องใช้ถังดับเพลิงรีบเข้าฉีดสกัดทันที

บรรยากาศที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยล่าสุด เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่พบกลุ่มอาชีวะไล่เผด็จการรวมตัวกันตามนัดเวลา 17.00 น.

บรรยากาศโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ล่าสุดยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้ในช่วงเวลา 17.00 น. ของวันนี้จะมีการนัดรวมตัวของกลุ่มอาชีวะไล่เผด็จการเพื่อเรียกร้องใน 2 ข้อทางการเมืองคือให้รัฐบาลลาออก และแก้ไขรัฐธรรมนูญคืนอำนาจให้ประชาชน แต่ยังไม่มีการเดินทางมารวมตัวกันในจุดนี้

ขณะที่การจราจรในทุกช่องทางทั้งขาเข้าและขาออกยังคงใช้การได้ตามปกติ

 

ตร.ขอความร่วมมือผู้ชุมนุมปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ยันไม่ให้รวมตัวในพื้นที่แยกราชประสงค์

พันตำรวจเอกพันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับสถานีตำรวจปทุมวัน เข้ามาติดตามความเรียบร้อย การชุมนุมของกลุ่ม “อาชีวะศึกษาปกป้องสถาบัน” ที่แยกราชประสงค์ ที่หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เพื่อประกาศจุดยืนปกป้องสถาบัน

พร้อมกล่าวว่า ยืนยันว่าไม่อนุญาตให้ชุมนุมในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในทุกกรณี และตามพรก. ฉุกเฉินและ พรบ.ควบคุมโรค ไม่ได้มีการอนุญาตให้มีการชุมนุม แม้ว่าจะมีการอนุญาตขอใช้พื้นที่ชุมนุมในบริเวณดังกล่าวแล้ว แต่กฎหมายไม่อนุญาตให้สามารถชุมนุมได้ แต่ไม่สามารถที่จะขัดขวางการชุมนุมได้เพียงขอความร่วมมือกลุ่มผู้ชุมนุมให้ปฎิบัติตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คือการ สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาพกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เว้นระยะห่างทางสังคม

ทั้งนี้ จากการสอบถามตัวแทนในกลุ่มที่มารวมตัวกันวันนี้เบื้องต้นทราบว่าจะทำการชุมนุมตั้งแต่เวลา 13.00 – 18.00 น. ไม่เกิน 19.00 น. พร้อมยืนยันว่าจะไม่เคลื่อนพลไปที่อื่นและจะไม่กีดขวางการจราจรที่จะส่งผลกระทบทำให้ประชาชนบริเวณโดยรอบได้รับความเดือดร้อนและการทำกิจกรรมระหว่างการชุมนุมจะมีผู้แทนพลัดเปลี่ยนกันขึ้นกล่าวคำปราศรัยในประเด็น “เราจะไม่ทนแล้ว”

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้ยื่นหนังสือขออนุญาตนัดรวมพลและทำกิจกรรมให้กับสถานีตำรวจปทุมวันและสถานีตำรวจลุมพินีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ธนกร”เตือนม็อบ ระวังละเมิดอำนาจศาล วอนชุมนุมสงบอย่าใช้ความรุนแรง

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มรีเด็ม(redem)ที่จะเดินทางมาชุมนุมที่หน้าศาลอาญาว่า อยากเตือนน้องๆ ด้วยความหวังดี ขอให้ระวังการละเมิดอำนาจศาล ขอให้ชุมนุมอย่างสงบสันติ ไม่ใช้ความรุนแรงเหมือนครั้งก่อน และการเคลื่อนไหวชุมนุมกดดันให้ศาลปล่อยตัว 4 แกนนำคณะราษฏรนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะ 4 แกนนำกระทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ทุกคนเสมอภาค เท่าเทียม นอกจากนั้น ต้องระวังการปราศรัยต่างๆ อาจเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลได้ อย่างไรก็ตาม การชุมนุมควรมีแกนนำ ไม่เช่นนั้นจะควบคุมไม่อยู่ สถานการณ์อาจจะบานปลายได้ รวมไปถึงการชุมนุมอีกหลายจุดก็ควรจะชุมนุมอย่างสงบ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำงานด้วยความระวัง ใช้ความอดทนอดกลั้นเพื่อควบคุมสถานการณ์ต่างๆ

นายธนกร กล่าวอีกว่า ในความเป็นจริงสถานการณ์ตอนนี้ไม่ควรมีการชุมนุม เพราะประเทศประสบปัญหาโควิด-19 อยากให้คนไทยมีความรักความสามัคคี ความรับผิดชอบต่อประเทศ ไม่แตกแยก เหมือนที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้กล่าวไว้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถเดินหน้าประเทศได้ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ประเทศมีสัญญาณที่ดีขึ้น เพราะนโยบายโครงการคนละครึ่ง และโครงการเราชนะ ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เงินคงคลังไม่ถังแตก รวมไปถึงเริ่มมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์เดินมาถูกทางแล้ว ทุกนโยบายแก้ปัญหาให้ประเทศได้ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ขอให้คนไทยสู้ไปด้วยกัน

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube