Home
|
ข่าว

“พิธา” หารือแก้ฝุ่น PM 2.5 ชี้ ผลกระทบหลักหมื่นล้าน

Featured Image
“พิธา” หารือแก้ฝุ่น PM 2.5 ลั่นจะยกศูนย์ปฏิบัติงานอาเซียนมาตั้งที่เชียงใหม่ บอกตัวเองเป็นผู้ประสบภัย ชี้ ผลกระทบหลักหมื่นล้าน เหตุโครงสร้างงบประมาณไม่ดี

 

 

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายนิติพล ผิวเหมาะ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ สัดส่วนสิ่งแวดล้อม นายเดชรัต สุขกำเนิด ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อและผู้อำนวยการ Think Forward Center นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล ได้หารือเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือฝุ่น PM 2.5 ในปี 2567 โดยมีภาคประชาสังคม ภาคธุรกิจ ภาคการท่องเที่ยว และภาคเอกชนจากส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 เข้าร่วมหารือ

 

 

ทันทีที่นายพิธา มาถึงไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด โดยรีบเข้าไปประชุมทันที พร้อมกล่าวในที่ประชุมหารือ ว่า ปัญหา PM 2.5 ส่วนใหญ่เกิดขึ้นทุกปีที่จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน ส่วนตัวแล้วถึงแม้จะไม่ใช่คนจังหวัดเชียงใหม่แต่ก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับ PM 2.5 อย่างน้อยใน 3 บริบท

 

 

บริบทแรกตอนที่เป็นอดีต ส.ส.อนาคตใหม่ ได้มีโอกาสเป็นประธานกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ทำให้มีโอกาสเข้าถึงข้อมูล มีโอกาสพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ

 

 

บริบทต่อมา พอเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็เป็น ส.ส. ที่ต้องดูแลเกี่ยวกับกรรมาธิการงบประมาณ ทำให้ได้เห็นว่างบประมาณที่ลงมายังผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในเรื่องสิ่งแวดล้อมมีอยู่เท่าไหร่ จะเห็นว่าเป็นเบี้ยหัวแตกแค่ไหน ไปอยู่ที่ตรงไหน มูลค่าเท่าไหร่

 

 

นายพิธา กล่าวต่อว่า บริบทที่สาม ตนเป็นผู้ประสบภัย ตอนนี้พอยุบสภาแล้วลงพื้นที่หาเสียง ต้องลงพื้นที่ภาคเหนือในช่วงกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม นายพิธา กล่าวว่า หากใครกล่าวสรุปสั้นๆ ตั้งรัฐบาลได้เมื่อไหร่ จะแก้ปัญหาตรงนี้ได้ต้องแบ่งออกเป็น 3 ขยัก ขยักแรกคือระดับนานาชาติ ขยักที่ 2 คือระดับประเทศ และขยักที่ 3 คือท้องถิ่น ตนต้องการตั้งกรอบให้ได้ เพื่อทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาล แล้วใส่ข้อมูลว่าปัญหาและความท้าทายคืออะไร รวมถึงต้องเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งกลายเป็นเรื่องเดียวกันไปหมดแล้ว

 

 

นายพิธา สอบถามถึงงบประมาณ และตั้งคำถามถึงผลกระทบ โดยผลการวิจัยร่วมกับการธนาคารแห่งประเทศไทย ผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 เฉพาะจังหวัดเชียงใหม่มาถึง 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งรวมผลกระทบทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม

 

 

นายพิธา ย้ำว่าเรื่องนี้ไม่สามารถที่จะรวมพลังได้ ซึ่งข้อเท็จจริงมีงบประมาณสิ่งแวดล้อมทั้งหมด 85 ล้านบาท เป็นงบไฟป่า อยู่ที่กรมป่าไม้ 14 ล้าน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 3 ล้านบาท งบกลุ่มจังหวัด 58 ล้าน และลงมาที่จังหวัด 10 ล้านบาท เพราะฉะนั้นเราคุยกับผลกระทบของปัญหาที่มีประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

 

 

“เพราะฉะนั้นคุณเห็นแค่นี้ก็รู้อยู่แล้วว่าแก้ไม่ได้ คนที่เป็นผู้นำคนต่อไปเข้าใจแล้วแหละว่าเรื่องเศรษฐกิจเรื่องสิ่งแวดล้อมและเรื่องสาธารณสุขเป็นเรื่องเดียวกันไปหมด สงกรานต์เชียงใหม่ โควิด PM 2.5 ต่อให้นโยบายเศรษฐกิจดีแค่ไหน การท่องเที่ยวดีแค่ไหน เจอปัญหาอันนี้ติดกัน คุณจะเห็นแล้วแหละว่าโลกใบใหม่ที่เชียงใหม่เกิดขึ้นชัดเจนที่สุด เพราะฉะนั้นการที่จะเอางบประมาณไปอยู่ในความท้าทายแบบเก่า ไม่ได้อยู่ความท้าทายแบบใหม่ แก้อย่างไรก็แก้ไม่ได้” นายพิธา กล่าว

 

 

นายพิธา เปิดเผยว่า พรรคก้าวไกลเคยเสนอกฎหมาย แต่ทุกอย่างจะจบลงที่อำนาจ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษไม่มีอำนาจในการสั่งกระทรวงการต่างประเทศให้ไปคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่มีอำนาจในการบอกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมให้หยุดปล่อยควันพิษ ไม่มีอำนาจในการบอกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้หยุดเผาป่า

 

 

รวมถึงกระทรวงคมนาคมเรื่องรถที่มีควันดำ เพราะฉะนั้นจึงได้แต่ขอความร่วมมือ ซึ่งในระดับประเทศยังไม่มี จะไปสั่งระดับนานาชาติได้หรือไม่ เพราะฉะนั้นโครงสร้างอำนาจจะทำให้ปัญหาฝุ่นไม่หมดไป นอกจากนี้ยังมีกองทุนมลพิษข้ามชาติ ที่ตั้งไว้แล้วแต่ยังไม่มีใครนำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นกองทุน กฎหมาย ศูนย์ปฏิบัติงาน มันมีเชื้ออยู่แล้ว เพียงแต่คนที่เป็นผู้นำไม่ได้เห็นภาพ และไม่สามารถช่วยได้

 

 

นายพิธา ย้ำว่าในอาเซียนมีการตั้งเป็นพหุภาคีข้ามชาติ เพียงแต่ไม่มีผู้นำประเทศคนไหนไปทำให้เป็นรูปธรรม รวมถึงศูนย์ปฏิบัติงานมลพิษทางอากาศในอาเซียน ก็มีตั้งแล้ว แต่ยังไม่มีสถานที่ปฏิบัติงาน ต้นคิดว่านายกฯคนต่อไปควรจะต้องนำศูนย์ปฏิบัติการดังกล่าวมาตั้งที่จังหวัดเชียงใหม่ให้ได้

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube