Home
|
ข่าว

“พิธา” ย้ำไม่ปลุกมวลชนเป็นเกราะกำบังคดี

Featured Image
“พิธา” ย้ำไม่ปลุกมวลชนเป็นเกราะกำบังคดี ชี้ ปล่อยให้เป็นกระบวนการตามกฎหมาย หลัง “เรืองไกร” ยื่นเพิ่มหนุน กกต. สอบ 151 ลั่น มาเหนือไม่ได้วัดพลัง “เพื่อไทย”

 

 

 

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค กล่าวถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม กับกกต.หนุนประเด็นการสอบสวนนายพิธา ตามม.151 ว่า ขณะนี้ตนยังไม่เห็นรายละเอียดของเอกสาร แต่ไม่ว่าจะมีความเคลื่อนไหนยังไง ก็ไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่อยู่ในกระบวนการทางกฎหมายอยู่แล้ว ว่าทางกกต.จะต้องการข้อมูลอย่างไร ก็ให้อยู่ในกระบวนการและการต่อสู่ทางกฎหมายไป

 

 

ส่วนมองยังไงที่คนตั้งข้อสังเกตุใช้ประชาชนมาเป็นเกราะกำบัง นายพิธากล่าวว่า ตั้งใจทำงาน ตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ทุกการประชุมมีการเตรียมล่วงหน้ามาตลอด เพื่อให้ใช้เวลาการประชุมอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เชียงใหม่รายได้การท่องเที่ยวหายไปครึ่งหนึ่งจากช่วงก่อนโควิด ทำให้ปัญหาการท่องเที่ยวเป็นตัวอย่างที่จะต้องแก้ไข ไม่ใช่เป็นเรื่องเอาประชาชนมาเป็นเกราะกำบัง แต่ต้องการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนจริง ๆ ถ้าเอามาเป็นเกราะกำบัง ก็คงไม่ต้องทำการบ้านหาข้อมูลมา

 

 

เมื่อถามว่า การมาเยือนลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ เป็นการวัดพลังในพื้นที่บ้านเดิมของเพื่อไทยที่ก้าวไกลตีแตกแล้วหรือไม่ นายพิธา ตอบว่า

 

 

“ เป็นการมาวัดปัญหา วัดศักยภาพของแต่ละพื้นที่ พอมา ก็รู้ว่าลำปาง สังคมสูงวัยเป็นเป็นปัญหาสำคัญ ลำพูนพี่น้องแรงงานและเกษตรกรลำไย เป็นปัญหาสำคัญ มาเชียงใหม่ปัญหาฝุ่น pm2.5 ปัญหาสาธารณะ ความเหลื่อมล้ำบนดอยกับพื้นราบ และปัญหาการท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งมาแต่ละครั้งต้องการรู้ว่า ปัญหาที่ต้องแก้คืออะไร และจะพลิกปัญหาเป็นโอกาสได้อย่างไร ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่า”

 

 

ส่วนจะมีโอกาสเลือกตั้งผู้ว่าเชียงใหม่หรือไม่ นายพิธา ตอบว่า แน่นอนไม่ใช่แค่เลือกตั้งอย่างเดียว แต่การกระจายงบประมาณ กระจายอำนาจ และกระจายภารกิจออกมาเพื่อยึดโยงกับพี่น้องประชาชน

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube