“รอมฏอน”ชี้ ต้องมีการทบทวนดำเนินคดีต่อกลุ่มนักศึกษา ต้องเคารพต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน
นายรอมฎอน ปันจอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และคณะทำงานย่อยสันติภาพชายแดนใต้ กล่าวถึงกรณีการแจ้งความดำเนินคดีต่อกลุ่มนักศึกษา “ขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ” หลังจัดกิจกรรมทำแบบสอบถามประชามติแบ่งแยกดินแดน ว่า มีการแชร์ความคิดเห็น การให้แง่มุมซึ่งกันและกัน ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เรามีการประเมินสถานการณ์กันอยู่เรื่อย ๆ
ภายใต้การนำของรัฐบาลพลเรือนสถานการณ์ที่เรากำลังเจอ ความยากลำบากที่เรากำลังเจอ ความกังขาที่ทุกคนกำลังเจอ กับการจัดงานของนักศึกษา เรากำลังคิดถึงภาวะผู้นำของรัฐบาลพลเรือนที่เคารพต่อหลักการประชาธิปไตย เคารพต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน เคารพต่อหลักการบูรณภาพแห่งดินแดนในการกำหนดใจตนเอง ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในกรอบพระธรรมนูญของรัฐบาลไทย
นายรอมฎอน กล่าวต่อว่า ถ้าภายใต้การนำของรัฐบาลพลเรือน การฟ้องร้องในลักษณะนี้ต้องถูกทบทวนอย่างหนัก การทำกิจกรรมอย่างนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว มีกิจกรรมมีการสำรวจความคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ บนพื้นฐานที่ว่าการเมืองที่แตกต่างกันเป็นเรื่องปกติ ในฐานะที่เราเป็นรัฐบาล และหน่วยงานความมั่นคง จำเป็นต้องรับฟัง มีการตั้งข้อสังเกตว่า
ถ้าเราฟังนักศึกษากิจกรรมเหล่านั้นอาจเห็นรากเหง้าของปัญหา ทำไมถึงมีปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ทำไมเยาวชนถึงมีกิจกรรมเหล่านั้นเกิดขึ้น แทนที่จะปิดปิดปากเขาด้วยการฟ้องดำเนินคดี ถ้าเปิดใจกลับมาฟังมองจากมุมของรัฐที่เคารพในสิทธิเสรีภาพของประชาชนน ถือเป็นโอกาสในการทำความเข้าใจความคิดเห็นที่แตกต่าง และโอกาสในการที่สังคมไทยของ รัฐบาลไทยที่จะรับมือกับความคิดเห็นที่แตกต่างได้โดยสันติวิธี
เมื่อถามต่อว่าการแจ้งความของเจ้าหน้าที่เป็นการกระทำที่รีบเกินไปหรือไม่ นายรอมฎอน ระบุว่า มีการตั้งข้อสังเกต ว่าการแจ้งดำเนินคดีในช่วงเวลาสุญญากาศแบบนี้ เหมือนอยู่ระหว่างรัฐบาลเก่ายังไม่ไป รัฐบาลใหม่ยังไม่มา อาจเกิดความเคลือบแคลงใจต่อผู้มีอำนาจในการตัดสินใจในการโหวต ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาแบบนี้ ตนเองไม่แน่ใจในฝั่งเจ้าหน้าที่ว่าทำอย่างไร แต่ถ้าไปถาม เจ้าหน้าที่คงตอบว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ และเชื่อว่าภายใต้การเมืองแบบนี้ การนำโดยรัฐบาลพลเรือน ทิศทางใหม่ ๆ สิ่งที่เคยเห็นในอดีต คุ้นเคย คงไม่คิดแบบนั้นอีกต่อไป
เมื่อถามต่อว่าจากกิจกรรมในวันที่ 7 มิ.ย. บนภาพโปรโมทนั้นมีภาพของนายรอมฎอน อยู่ด้วย หากเข้าร่วมกิจกรรมนี้คงถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่ นายรอมฎอน ระบุว่า เป็นไปได้ เพราะมีการพูดชื่อตนอยู่แล้ว โดยถือเป็นข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเอง ทั้งข้อมูลของตนเองหรือคนที่เกี่ยวข้อง มีอย่างจำกัด ทำให้เห็นว่าหน่วยงานของเรามีปัญหาในการประเมินสถานการณ์ หรือเข้าถึงแหล่งข่าว ตนเองเชื่อว่าการทำกิจกรรมทางวิชาการแบบนี้ ตนเองพร้อมแลกเปลี่ยนถกเถียง เพราะเชื่อว่าการนั่งลงถกเถียง ดีกว่าการใช้กำลัง ใข้อำนาจกฎหมาย และอาวุธ การถกเถียงด้วยวุฒิภาวะ เข้าใจความต้องการของตนเอง เป็นประโยชน์ และสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews