“ธนพร”มองปมประธานสภา “เพื่อไทย เดินตามหลัง ก้าวไกล หลายช่วงตัว ชี้ เอ็มโอยูเสี่ยงถูกฉีกหาก ยังชิงเก้าอี้ รับอาจเข้าทางจับมือขั้วรัฐบาลเดิม
ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะ 1 ในคณะทำงานเปลี่ยนผ่าน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมองท่าทีที่เกิดขึ้น จะทำให้พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย (พท.) ไม่ลงตัวในเรื่องการตกลงตำแหน่งประธานสภา ว่า วันนี้จุดยืนของก้าวไกลใช้ 3 คำว่า “กูไม่กลัวมึง” ซึ่งเป็นประโยคที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมตรี
เคยใช้ด่าอดีตผบทบ. คนหนึ่งที่เสียชีวิตด้วยข้าวเหนียวมะม่วง เพราะฉะนั้นแล้วการที่พรรคก้าวไกลประกาศแคนดิเดตประธานสภา หมายความว่าเขากำลังะโยนโจทย์เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องของคนเพียง 500 คน แต่เป็นเรื่องของคนไทย 70 ล้านคน ว่าคนไทยจะเอาหรือไม่ว่ามีประธานสภาที่มีแนวคิดการทำงานแบบนี้ นี่คือสิ่งที่พรรคก.ก. ทำอยู่ ในส่วนของพรรค พท. เป็นเรื่องของการต่อรอง มติ 14+1 คือการยื่นข้อเสนอ พรรค ก.ก. เลือกใช้วิธีว่า ในเมื่อเป็นข้อเสนอเขาก็ขอเวลาเลยมีการเลื่อนการประชุม แต่ในภาพรวมคือการอยู่ระหว่างการต่อรอง
เมื่อถามว่า ตอนนี้กระแสตีกลับไปที่พรรคใด รศ.ดร.ธนพร กล่าวว่า อยู่ที่พรรคเพื่อไทยพูดตรงๆ ว่า วันนี้พรรคก้าวไกลมีความชอบธรรมที่เป็นพรรคอันดับ 1 เพราะฉะนั้นถ้าเพื่อไทยจะฉีกเอ็มโอยูก็ประกาศไปเลย พรรคก้าวไกล ก็ทำหน้าที่ของเขา คณะกรรมการเปลี่ยนผ่านที่ตนไปประชุมเมื่อเช้าก็ทำหน้าที่ปกติ ภาระไม่ได้อยู่ที่ก้าวไกล เพราะเกมนี้ถูกจุดโดยเพื่อไทย ก็ต้องเลือกเอา ถ้าจะให้ดีที่สุด ก็ควรประกาศก่อนวันที่ 4 กรกฎาคมก็ดี เพราะประชาชนจะได้รับรู้
เมื่อถามว่า ทางพรรคเพื่อไทยจะมีการปรับสูตรเป็น 13+1 หรือ 15+1 หรือไม่ รศ.ดร.ธนพรกล่าวว่า ไม่มี เพราะถ้าจะปรับสูตรเขาคงไม่เสนอสูตร 14+1 และในการเสนอสูตรก็มีการเสนอแบบเปิดเผย สำหรับตนในภาพรวมตนถือว่าเป็นเรื่องดี ก่อนหน้าปี 2566 เราไม่เคยเห็นการเจรขาทางการเมืองแบบเปิดเผยมาก่อน จึงเป็นประโยชน์กับประชาชนทุกคน
รศ.ดร.ธนพรกล่าวต่อว่า หากให้คาดการณ์ว่าวันข้างหน้าที่ใกล้จะเปิดประชุมสภา สถานการณ์จะเป็นอย่างไรนั้น พรรคก้าวไกลก็ชัดเจนเพราะมีการเปิดตัวประธานสภาแล้ว เพราะฉะนั้นแปลว่าไม่เปลี่ยนแน่ อย่าลืมว่าการเปิดตัวประธานสภาคือพันธะสัญญาที่มีต่อสังคม ดังนั้นจะมายกเลิกพันธะสัญญาไม่ได้แล้ว เคยคิดว่าเพื่อไทย ตามหลังก้าวไกล 1 ก้าวเสมอ แต่ตอนนี้กำลังจะตามหลังหลายช่วงตัว ถ้าดูฉาบฉวยเหมือนกับผู้ใหญ่รังแกเด็ก แต่ถ้ามองให้ลึก วันนี้ยังมองไม่เห็นแอคชั่นของก้าวไกล นอกจากขอเลื่อนการประชุมไปก่อน เมื่อเลื่อนการประชุมแล้ว โจทย์ก็กลับไปที่เพื่อไทย
เมื่อถามว่า จะเข้าทาง 3 ปัจจัยที่ทำให้เพื่อไทย เสนอพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกฯ ผลักก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน และพานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศไทยหรือไม่ รศ.ดร.ธนพร กล่าวว่า เกมมันเข้าทางหมด แต่ไม่ใช่ปัญหาของก้าวไกล เพราะก้าวไกลโยนโจทย์ให้เป็นปัญหาของเพื่อไทย ก็ต้องไปแก้ เพราะก้าวไกล ประกาศแคนดิเดตประธานสภาต่อสาธารณะไปแล้ว
เมื่อถามว่า เพื่อไทยจะยอมถอยเรื่องประธานสภาหรือไม่ เมื่อเจอไม้นี้ รศ.ดร.ธนพร กล่าวว่า ฟันธงไปแล้วว่าถ้านายทักษิณกลับบ้าน เพื่อไทยก็ต้องเดินแบบนี้ ความต้องการของนายทักษิณย่อมเหนือกว่าความต้องการของคนเลือกพรรคเพื่อไทย ก็เข้าใจได้เพราะนายทักษิณเป็นเจ้าของพรรค ตนยืนยันคำนี้มาตลอด
เมื่อถามว่า หากมีการฉีกเอ็มโอยูจะเข้าแผนพรรคเพื่อไทย จับมือกับขั้วรัฐบาลเดิมหรือไม่ รศ.ดร.ธนพรก ล่าวว่า ใช่ เป็นเรื่องของคำอธิบายขอเพื่อไทย เพราะสังคมก็จับตามองอยู่ว่า ถ้าตัดสินใจเช่นนี้ก็เป็นสิทธิ์ของพรรค แต่อย่างที่ตนวิเคราะห์ว่า ภาระอธิบายก็เป็นของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องอธิบายกับสังคม
เมื่อถามว่า คิดว่าพรรค พท. จะยอมเล่นเกมสั้นเพื่อพานายทักษิณ กลับประเทศไทยมากกว่าที่จะเล่นเกมยาวหรือไม่ รศ.ดร.ธนพรกล่าวว่า ความต้องการของเจ้าของพรรคต้องมาก่อน คนจ่ายเงินสำคัญเสมอสำคัญตน พรรคนี้ก็เป็นตามที่รู้นัยยะกัน
เมื่อถามว่า การที่นายทักษิณตัดสินใจจะกลับมา เป็นการทิ้งไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ใช่หรือไม่ รศ.ดร.ธนพรกล่าวว่า ถ้านายทักษิณกลับประเทศ สิ่งหนึ่งที่ต้องทำ คือจะต้องเลิกเล่นการเมือง ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่นายทักษิณคนเดียว แต่หมายถึงตระกูลชินวัตรทั้งหมด หมายความว่า เพื่อไทยต้องได้รับผลกระทบเพราะถือว่าเป็นเครือข่ายครอบครัว ในเมื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ตัดสินใจเช่นนั้น ผลกระทบต่อพรรคก็ต้องเตรียมการรองรับ ตนมองว่าพรรค เพื่อไทยก็คงมีแผนรองรับ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเกมสั้นหรือยาว แต่อาจจะเป็นเกมยาวก็ได้ เพราะอย่าลืมว่า เพื่อไทยตัดสินใจเดินเกมนี้ ก็ต้องข้ามขั้ว แต่ตนคิดว่ารัฐบาลผสมหลายๆ พรรค อายุยืนก็มีความเสี่ยง
เมื่อถามว่า ในวันพรุ่งนี้ (29 มิถุนายน) หากมีการประชุม 8 พรรคร่วม รศ.ดร.ธนพร กล่าวว่า เขาก็ต้องประชุม ซึ่งตนไม่ได้อยู่ในวงนั้น เพียงแต่มองจากสายตาของนักสังเกตการณ์ ว่าก็คงมีการต่อรองกัน ซึ่งจุดยืนของพรรคก้าวไกลก็คงไม่เปลี่ยน ส่วนของบรรยากาศในที่ประชุมของคณะทำงานเปลี่ยนผ่าน ไม่ค่อยมีผลต่อคณะทำงาน อย่างเมื่อเช้าที่ประชุมคณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อม ที่พรรคเพื่อไทย ก็เป็นไปด้วยดี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews