Home
|
ข่าว

“สามารถ” ไล่ “เศรษฐา” ไปศึกษากลไกเลือกนายกฯ

Featured Image
“สามารถ” ไล่ “เศรษฐา” ไปศึกษากลไกเลือกนายกฯ ของรัฐสภา ไม่ได้เลือกจากน้ำลายของใคร ย้ำ “บิ๊กป้อม” มีคุณสมบัติครบถ้วน แต่ไม่เคยจัดรัฐบาลแข่ง

 

 

 

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน กล่าวพาดพิงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ให้เกิดความเสียหาย ว่า การที่นายเศรษฐา บอกว่าให้พล.อ.ประวิตร ไปนับนิ้วมือ หมายความว่าได้คะแนนเพียงห้าแสนกว่าคะแนน จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี คนอื่นเขาได้กันหลักล้าน

 

 

จึงอยากบอกนายเศรษฐา ว่าคุณควรไปเรียนรัฐศาสตร์ จะได้รู้ว่าประเทศไทยนั้นเป็นการปกครองแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข และเป็นการปกครองโดยเลือก ส.ส. เป็นผู้แทนของประชาชน แล้วผู้แทนนั้นก็มาเลือกนายกรัฐมนตรีโดยใช้กลไกของรัฐสภา ในอดีตนั้นมี ส.ว. มาร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจ มาร่วมโหวดนายกรัฐมนตรีด้วย แล้วแต่รัฐธรรมนูญแต่ละฉบับที่เขียนไว้

 

 

ซึ่งฉบับ 2560 นั้น เขียนไว้ว่า ส.ว.นั้น มาร่วมกลั่นกรองแต่ไม่ได้เสนอนายกรัฐมนตรี ให้ ส.ส.เป็นคนเลือกนายกรัฐมนตรีจากบัญชีพรรคการเมืองที่มี ส.ส. เกิน 25 เสียง ฉะนั้นการเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เลือกจากนิ้วมือ และ ไม่ได้เลือกจากน้ำลายของนายเศรษฐา แต่เลือกจากกลไกของรัฐสภา โดย ส.ส.เป็นผู้เสนอชื่อ แล้วให้สภาเห็นชอบ

 

 

นายสามารถ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประวิตร เป็นชายชาติทหาร เป็นสุภาพบุรุษ ไม่เคยออกมาให้จัดรัฐบาลแข่ง ไม่เคยไปบอกให้ใครไปเดินล็อบบี้ตั้งรัฐบาล ท่านอยู่อย่างสงบเงียบ และก็บอกว่าเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่ได้อันดับ1 และ2 ไปจัดการ แต่ปรากฎว่าพรรคการเมืองอันดับ1 พรรคก้าวไกล และพรรคอันดับ 2 ของ นายเศรษฐา นั่งทะเลาะกันอยู่ ตำแหน่งประธานสภาฯ ก็ยังไม่ลงตัว มันเลยทำให้พรรคเพื่อไทยกับก้าวไกลจัดกันไม่ได้

 

 

แล้วคนก็ไปมโนว่า พล.อ.ประวิตร จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งการจะเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องเป็นกลไกของรัฐสภา ซึ่งพล.อ.ประวิตร ก็มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ต้องให้สภาเป็นผู้เลือก ไม่ใช่นายเศรษฐาเป็นคนเลือก

 

 

“การที่คุณเศรษฐา มาพยายามจะชี้นำให้คนเข้าใจว่า พล.อ.ประวิตร มีเพียงแต่ห้าแสนกว่าคะแนน มันไม่ใช่เพราะตัวพล.อ.ประวิตร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ และพรรคพลังประชารัฐก็มีส.ส.เกิน 25 คน สามารถเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร ก็มีสิทธิ์จะเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจจะไม่ใช่คนของพรรคพลังประชารัฐเสนอก็ได้

 

 

แต่อาจจะเป็น ส.ส.ของพรรคนายเศรษฐา มาเสนอพล.อ.ประวิตร ก็เป็นได้ นายเศรษฐา ต้องเข้าใจเรื่องนี้ เรื่องแค่นี้ยังไม่เข้าใจ จะแก้ปัญหาแบบคนตาบอดคลำช้าง ท่านไม่รู้เลยว่ากลไกของการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีต้องใช้สภาเป็นคนเลือก หมายความว่า ส.ส.ต้องเลือก ส.ว.ต้องเห็นชอบ นั่นคือกลไกของรัฐสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี หาใช่น้ำลายของนายเศรษฐา”

 

 

นายสามารถ กล่าวทิ้งท้ายว่า นายเศรษฐา ควรจะรับผิดชอบในเรื่องของประธานสภาฯ ให้แล้วเสร็จก่อนว่า สรุปจะยกให้ของพรรคก้าวไกลหรือไม่ หรือว่าพรรคก้าวไกลจะให้คนของพรรคเพื่อไทยหรือเปล่า ไปคุยกันตรงนี้ให้จบ อย่าพึ่งมโนคิดว่าตัวเองจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ตัวเองจะเป็นแคนดิเดตของพรรคเพื่อนไทย แต่ตนคิดว่าพรรคเพื่อไทย อาจจะไม่เลือกนายเศรษฐา ก็ได้ ขอให้รอดูวันเลือกนายกรัฐมนตรี

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube