ด้อมส้มโคราช พร้อมร่วมชุมนุมแสดงพลังที่ กทม. ก่อนโหวตนายกรัฐมนตรี วอน สว.ฟังเสียงของประชาชน
วันที่ 9 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวทางการเมือง ภายหลังจากที่เมื่อวานนี้ (8 ก.ค.66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเยือนเมืองโคราช กราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือย่าโม ก่อนขึ้นขบวนรถแห่รอบเมืองโคราช เพื่อขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้กับพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ที่เป็นพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ รวมกว่า 1 ล้านเสียง
ก่อนเปิดเวทีปราศรัยที่บริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีมวลชนด้อมส้ม แห่มาต้อนรับและฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก ขณะที่ประชาชนชาวด้อมส้ม ที่มาร่วมให้การต้อนรับนายพิธาฯ หลายคนก็ยืนยันว่าพร้อมที่จะเดินทางไปร่วมชุมนุมเพื่อแสดงพลังของประชาชน ให้ผู้มีอำนาจทุกคนฟังเสียงของประชาชน ก่อนโหวตนายกรัฐมนตรี โดยพรรคก้าวไกล มีนัดชุมนุมที่บริเวณลานหน้า เซ็นทรัลเวิลด์ วันนี้ (9 ก.ค.66) เวลา 16.30 น. ซึ่งจะมีนายพิธาฯ และ ส.ส.พรรคก้าวไกล เดินทางไปร่วมแสดงพลังในครั้งนี้ด้วย
โดยหนึ่งในประชาชนที่มาต้อนรับนายพิธาฯ ที่โคราช กล่าวว่า ตนเองมั่นใจว่า นายพิธาฯ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน เพราะถือว่าเป็นผู้ที่ประชาชนส่วนใหญ่มีมติเห็นชอบเลือกตั้งเข้ามาแล้ว และอยากให้ ส.ว.ฟังเสียงของประชาชนบ้าง เนื่องจากประชาชนรอนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งมานานแล้ว เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าไปได้ และประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา และถ้า ส.ว.ยังจะขวางอยู่ ตนเองก็พร้อมที่จะส่งกำลังใจให้กับผู้ที่ร่วมชุมนุมแสดงพลังของประชาชน และถ้ามีโอกาสก็จะไปร่วมชุมนุมแสดงพลังด้วยแน่นอน
ด้านหมอเพลงที่ร้องเพลงโคราชข้างลานย่าโม กล่าวว่า ตนเองเชื่อว่านายพิธาฯ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน เพราะด้วยคุณสมบัติ และความรู้ ความสามารถ เพียบพร้อมทุกอย่าง ซึ่งการเลือกตั้งที่ผ่านมา ครอบครัวของตนเองก็ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งพรรคก้าวไกลทั้งครอบครัว เพราะต้องการให้นายพิธาฯ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีมาบริหารประเทศไทยให้ดีขึ้น และถ้า ส.ว.ไม่ยกมือโหวตให้นายพิธาฯ เป็นนายกรัฐมนตรี ตามมติของเสียงประชาชนที่เลือกตั้งเข้ามาแล้ว ตนเองและครอบครัวก็พร้อมที่จะเดินทางไปร่วมชุมชนที่หน้ารัฐสภาแน่นอน
จึงขอวิงวอน ส.ว.ให้เห็นแก่เสียงของประชาชน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้
ด้านนายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ อดีตเลขาธิการหอการค้าภาคอีสาน กล่าวว่า ก่อนการเดินทางมาโคราช ของนายพิธาฯ ก็มีคนปล่อยข่าวว่าจะมีการจ้างคนมาฟังการปราศรัย หัวละ 500 บาท ซึ่งอาจจะเป็นการดิสเครดิตกันเป็นเรื่องปกติ เพราะตนมองว่าไม่มีเหตุผลอะไร เพราะถ้าจะจ้างมาก็ต้องจ้างมาช่วงก่อนที่จะลงคะแนนเลือกตั้งมากกว่า ซึ่งถ้ามองการเมืองในอดีตก็จะเป็นการต่อสู้กันระหว่างกลุ่มเสื้อแดงกับกลุ่มเสื้อเหลือง
แต่มาในตอนนี้ได้เกิดกลุ่มคนสีส้มขึ้นมาอีกกลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ตั้งแต่ระดับมัธยม มหาวิทยาลัย ไปจนถึงกลุ่มคนกำลังสร้างตัว หรือที่เรียกว่าสตาร์ทอัพ แต่เมื่อมีหลักการใหม่ คือใครมีเสียงข้างมากของทั้ง 2 สภา ก็จะมีสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี และได้จัดตั้งรัฐบาล แต่ขณะนี้ ส.ว.ไม่เห็นด้วยกับเสียงของประชาชนที่เลือกตั้งเข้ามา จึงทำให้เกิดปัญหา ขณะที่มีข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐ จะเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ มาชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่คะแนนพรรค มีแค่ 1 คน ขณะที่พรรคก้าวไกลมีคะแนนพรรคมากกว่า 30 คน ซึ่งถ้ายึดตามหลักการประชาธิปไตย ไม่น่าที่จะเป็นไปได้ จึงส่งผลให้นักธุรกิจ นักลงทุนไม่เชื่อมั่น พากันเทขายหุ้นกันเป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกันพรรคก้าวไกล ก็ได้กลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาเป็นแนวร่วมอีกด้วย ตนเองก็เกรงว่าจะเกิดการลงถนนชุมนุมใหญ่อีกแน่นอน ทั้งนี้ตนมองว่า ระบอบประชาธิปไตยของไทยบกพร่องมานานแล้วถึง 91 ปี เพราะถูกทหารยึดอำนาจประชาชนมาโดยตลอด รวม 13 ครั้งแล้ว เราอยู่ในระบอบที่เป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ เหมือนผีดิบ ครึ่งผีครึ่งคน ไม่มีความแน่นอน เราควรที่จะเลือกให้ชัดเจนว่าเราจะเป็นอะไรกันแน่ อย่างประเทศจีน เขาบอกว่าจะเป็นระบบคอมมิวนิสต์ พม่าบอกเป็นเผด็จการทหาร สหรัฐอเมริกา เป็นประชาธิปไตย ก็ชัดเจนไปเลย แต่ของไทยสับสนไปหมด ในรัฐธรรมนูญก็ต้องตีความทุกบท อย่างเช่นหุ้นสื่อ จะต้องมีสัมปทานและเผยแพร่สื่อ แต่เมื่อไม่มีการเผยแพร่สื่อ จะเรียกสื่อได้อยู่หรือไม่ ซึ่งไม่น่าที่จะต้องมาตีความกันอีกเลย การโหวตนายกรัฐมนตรีก็เช่นกัน จะโหวตกี่ครั้งก็ได้ ก็ไม่ชัดเจนอีก ทำให้ตอนนี้คนไทยสับสนกันมาก ดังนั้นเรื่องนี้ตนมองว่าต้องแก้ปัญหากันทั้งระบบเลย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
