“ส.ว.สมชาย” ชี้ควรยื่นตรวจสอบหุ้นสื่อ “พิธา” ตั้งนานแล้ว – ย้ำไม่ใช่เกมการเมือง-นิติสงคราม มั่นใจ ส.ว.ไม่รับอามิสสินจ้างแลกมติ
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการประชุมรัฐสภา ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) เพื่อพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรี หลัง กกต.มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยคุณสมบัติ การถือครองหุ้น ITV ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลว่า นายพิธา ยังคงสามารถเข้าชี้แจง และแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมรัฐสภาได้
ต่างจากการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2562 ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งการตัดสินใจของ ส.ว.ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) ก็จะเป็นไปตามข้อพิจารณา และวุฒิภาวะ ซึ่งการส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยของ กกต.นั้น ก็ยังจะต้องรอกระบวนการศาลรัฐธรรมนูญจนถึงสัปดาห์หน้า
ส่วนการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจะส่งผลต่อการตัดสินใจลงมติของ ส.ว.หรือไม่นั้น นายสมชาย ยอมรับว่า เป็นเรื่องปกติที่ควรดำเนินการตั้งนานแล้ว เนื่องจาก มีผู้ร้องเรียนตรวจสอบการถือครองหุ้นสื่อมวลชนตั้งแต่นายพิธา ยังเป็นผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์เดียวกับที่นายธนาธร และตนเองถูกยื่น ซึ่งก็จะต้องแล้วแต่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัน พร้อมย้ำว่า ไม่ใช่เรื่องเกมการเมือง หรือนิติสงครามใด ๆ เนื่องจาก ไม่ได้มีผู้ใดนำหุ้นไปให้นายพิธาครอบครอง แต่นายพิธา ครอบครองเอง เหมือนที่ตนเองเคยถือ และศาลฯ ก็คำวินิจฉัยไปแล้ว จึงขออย่ากังวลใด ๆ
นายสมชาย ยังกล่าวถึงคุณสมบัติที่บุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีควรมีว่า จะต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต มีวิสัยทัศน์ มีความรอบรู้ และสามารถสร้างแรงบันดาลใจได้ ส่วนหลักการสำคัญในการเป็นคณะรัฐมนตรี ก็จะต้องดูแลความมั่นคงของประเทศ ซึ่งไม่ใช่ความมั่นคงทางทหาร
แต่เป็นความเป็นชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เรื่องใดที่สุดโต่ง ควรลดเพดานลง หรือนโยบายพลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน โดยไม่ใช่เฉพาะแค่การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เท่านั้น แต่รวมไปถึงความเป็นปึกแผ่นของราชอาณาจักร การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ รวมถึงโครงสร้างการเมือง และดุลอำนาจขององค์กรอิสระ ซึ่งตนคิดว่า ส.ว.จะนำประเด็นเหล่านี้มาพิจารณาในการลงมติมากกว่า
ส่วนกรณีที่มี “2ส” ที่เป็นอดีตรัฐมนตรีแจกผลประโยชน์ให้กับวุฒิสภาในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น นายสมชาย ชี้แจงว่า ตนเองได้รับข้อความมา 2 วันแล้ว จากผู้ใหญ่ในแวดวงกาาเมือง ที่เตือนให้ระมัดระวัง จะมีขบวนการความพยายามจากพรรคก้าวไกล ซึ่งตนมั่นใจว่า นายพิธา และแกนนำพรรคไม่ได้เห็นด้วย แต่กรณีที่ ส.ว.บางคนออกมาระบุว่า ถูกทาบทามไม่ให้ลงมติให้กับนายพิธานั้น นายสมชาย ยืนยันว่า ไม่ทราบข่าวดังกล่าว และเป็นตรรกะที่ประหลาด ไม่น่าจะเป็นไปได้
นายสมชาย ยังแสดงความเชื่อมั่นต่อสมาชิกวุฒิสภา ทั้ง 250 คน ที่จะทุกคนจะปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่มีอามิสสินจ้าง ไม่รับสินบนใด ๆ และปฏิเสธอย่างจริงจัง พร้อมยืนยันว่า ไม่มี ส.ว.แม้แต่คนเดียว ที่จะไปรับผลประโยชน์เช่นนี้ เพราะหากไปรับผลประโยชน์ ก็เท่ากับการขายชาติ และสาเหตุที่ออกมาเปิดเผยขบวนการดังกล่าว ก็เพราะเชื่อว่า มีกลุ่มที่ไม่หวังดี
สำหรับการวิ่งเต้นขอคะแนนจากวุฒิสถาจะกระทบต่อภาพลักษณ์หรือไม่นั้น นายสมชาย ระบุว่า เป็นเรื่องธรรมดา เพราะพรรคการเมืองต้องการเสียงสนับสนุน ทั้งการไปพบที่บ้าน การติดต่อทางโทรศัพท์ การขอพบผ่านครอบครัว และคนสนิท หรือแม้แต่งานศพ และยังมีการใช้วิธีแบบเดิมทั้งการใช้มวลชนกดดัน และการใช้โซเชียลมีเดีย แต่ ส.ว.ก็ยังคงทำตามหน้าที่ อดทนหนักแน่น ไม่หวั่นไหวใด ๆ และแม้จะยากลำบาก แต่ประชาชนก็มอบคะแนนเสียง และอำนาจการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีให้ ส.ว.ผ่านการลงประชามติแล้ว 15 ล้านเสียง ดังนั้น จึงไม่สามารถปิดสวิซต์ได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews