รัฐสภาเตรียมพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ขณะ ด้อมส้ม เริ่มรวมตัวหน้าสภา
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา มีคำสั่งนัดสมาชิกประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในเวลา 09.30 น. วันนี้ (13 ก.ค.66) วาระสำคัญ คือ พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยขั้นตอนตามบทเฉพาะการของรัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดให้ ส.ส. เสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีจากบัญชีรายชื่อแคนดิเดตของพรรคที่มีจำนวน ส.ส. ตั้งแต่ 25 คนขึ้นไป
ซึ่งการเสนอชื่อต้องมี ส.ส. รับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวน ส.ส. ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ และสามารถเสนอชื่อให้เลือกได้มากกว่า 1 คน จากนั้น เปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาอภิปรายถึงความเหมาะสมและคุณสมบัติได้ ซึ่งวิปวุฒิสภาและพรรคการเมือง กำหนดกรอบการอภิปรายไว้ 6 ชั่วโมง แบ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภา 2 ชั่วโมง และ ส.ส. 4 ชั่วโมง
โดยคาดว่า จะเริ่มลงมติได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น. เป็นต้นไป ทั้งนี้ การเลือกนายกรัฐมนตรีให้กระทำเป็นการเปิดเผย โดยเรียกชื่อสมาชิก ส.ส. และ ส.ว. ตามลำดับอักษรเป็นรายบุคคล และให้ออกเสียงโดยการกล่าวชื่อบุคคลที่เห็นชอบ ซึ่งผู้ที่ได้คะแนน 376 เสียงขึ้นไป จะได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี
ขณะเดียวกัน บรรยากาศบริเวณถนนทหาร มุ่งหน้าวัดแก้วฟ้าจุฬามณี เริ่มมีมวลชนด้อมส้ม เดินทางมาปักหลักให้กำลังใจนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลแล้ว ซึ่งทางสภาฯ และกรุงเทพมหานคร ได้จัดพื้นที่บริเวณศูนย์ราชการ กรุงเทพมหานคร (เกียกกาย)
สำหรับแนวทางการโหวตของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล มีมติเป็นไปในทิศทางเดียวกันที่จะสนับสนันนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ยกเว้น ประธานรัฐสภา และรองประธานรัฐสภา ที่จะต้องงดออกเสียง เพื่อความเป็นกลาง
ส่วนพรรคขั้วรัฐบาลเดิมส่วนใหญ่ อาทิ พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ มีมติไม่โหวตสนับสนุนนายกรัฐมนตรีหรือพรรคการเมืองที่แก้ไข หรือยกเลิก ม.112 และไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลเสียงข้างน้อย ขณะพรรคประชาธิปัตย์ มีมติงดออกเสียง ด้านพรรคชาติไทยพัฒนา นัดประชุมเช้าวันนี้ ในเวลา 08.30 น. และจะแถลงแนวทางชัดเจนในเวลา 09.30 น.
อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาฝั่ง สว. วันนี้ ว่าจะลงมติไปในทิศทางใด เพราะคณะเจรจาของพรรคก้าวไกลก็ให้ความมั่นใจกับพรรคร่วมรัฐบาลมาตลอดว่า มีสัญญาณที่ดี แต่ไม่เคยเปิดจำนวน สว. ซึ่งการลงมติครั้งนี้ ต้องการ สว. ประมาณ 65 คนขึ้นไป ก็สามารถทำให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ในการโหวตครั้งเดียว แต่ขณะนี้ มีหลายปัจจัยเข้ามาให้ สว.พิจารณาตัดสินใจ
ขณะที่การจราจรโดยรอบสภาฯ ติดขัด ทั้งรถมอเตอร์ไซต์และรถยนต์ เคลื่อนตัวได้ช้าสลับหยุดนิ่ง ซึ่งตรงกับช่วงเวลาเข้างานและไปโรงเรียน ทั้งนี้ มีประชาชนต้องยอมเดินและมีมอเตอร์ไซต์ส่วนหนึ่งยอมขับบนฟุตบาต
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
