“พิธา” ถอยเพื่อชัยชนะ!?

ไม่มีประชาธิปไตยใดเกิดจาก เครือข่ายเผด็จการ สิ่งสวยงามไม่สามารถเกิดขึ้นจากการกระทำสกปรก การลงมติรับรอง ”นายกรัฐมนตรี” ที่มาจากการเลือกตั้งคนที่ 30 แห่ง ค่ายก้าวไกล พรรคคะแนนเสียงสูงสุด ”พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ไม่ผ่าน ด่านหิน วุฒิสมาชิก(สว.) ที่มาจากการ ลากตั้ง โดย คณะรัฐประหาร”คสช.” แบบฟอร์มโหดทิ้งขาด “พิธา” ได้เสียงสนับสนุนจากสว.เพียง 13 คะแนน จาก 249 คน เสียงรับรองจากสส. 311 คะแนนยกเว้น ”วันมูหะหมัดนอร์ มะฑา” ประธานรัฐสภางดออกเสียง รวมคะแนนได้ 324 เสียงจากสมาชิกรัฐสภา 749 คน ไม่เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนเท่าที่มีอยู่ ไม่ผ่านเป็นนายกฯ..

 

 

ผลไม้พิษ จาก ต้นไม้พิษ”คสช.”ยังออกฤทธิ์พ่นพิษแรงได้แกร่งทั่วแผ่น ทุกองค์อรหันต์ในแต่ละองค์กรเครือข่ายคสช.ทำหน้าที่ได้ดุดันไม่เกรงใจใคร คณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.)สั่งฟันกันซึ่งหน้าลงมติเร่งด่วนส่งคดีพิธาถือหุ้นสื่อitv.เป็นสารตั้งต้นให้ศาลรัฐธรรมนูญ(ศร.)รับลูกต่อกันเป็นทอดๆตามกระบวนการที่วางไว้ ”ศาลรธน.”ก็ผุดผลงานโบร์แดง รับคำร้อง ปมพิธาชูนโยบายแก้ ม.112 ตั้งข้อกล่าวหาล้มล้างการปกครองไว้พิจารณาก่อนวันนัดประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตรับรองนายกพิธาเพียงวันเดียว

 

 

เป็นมลทินเหตุผลให้บรรดาสว.ลากตั้งใช้ตอบแทนบุญคุณในคาถา คณะ คสช. ไม่รับรองนายกฯพิธา และ ตั้งคดีเอาคอพาดเขียงรอเชือด พรรคก้าวไกล ดาบต่อไป เป็นการทำตามหน้าที่ตาม บทเฉพาะกาล ตามรัฐธรรมนูญฉบับมัดมือชก ประชามติลักหลับประชาชนเป็นข้ออ้างลบล้าง16ล้านเสียงเหนือกว่าเสียงด้อมส้มกว่า14ล้านคะแนน ซึ่งยังเคยสร้างผลงานเนียนกริ๊บ ค้ำบัลลังค์ครองอำนาจนายกฯได้ยาวนานกว่า9ขวบปีที่เจ้าตัว”ลุงตู่ จันทร์โอชา”เองเพิ่งยอมรับ

 

 

ในวันอำลาวางมือทางการเมือง หลังวางใจในประสิทธิภาพเป็น กับดักทุ่นระเบิด ทำงานได้ทุกด่านอำนาจ รวมถึงด่านโหด 250สว. เป็น เบี้ย เดินหมาก ทำหน้าที่เกินคุ้มภาษีก่อนหน้าเคยหลับๆตื่นๆ ขึ้นตอบสนองได้ดีเยี่ยม ยกเว้นประชาชนเจ้าของเงินเดือนตัวจริง..

 

การออกมาใช้สิทธิ์เลือกผู้แทนฯของประชาชนกว่าร้อยละ75ไร้ความหมาย กว่า14ล้านเสียงที่เลือกพรรคก้าวไกล กว่า20ล้านคะแนนที่เลือก8พรรคร่วมรัฐบาลพิธาเป็นเสียงข้างมากแต่กลับถูกมองข้ามและตัดสินด้วย คนเพียงหยิบมือ จาก คณะเครือข่ายคสช. ซึ่งได้วางเกมซ้อนแผนไว้ค้ำยันอำนาจกันมาก่อนยึดอำนาจหลายปี ตั้งสำนักเขียนกฎกติกา โดย โครตเซียนกฏหมายมหาชน”มีชัย ฤชุพันธุ์”ผูกเงื่อนซ่อนปมที่สามารถใช้เป็นปฏิบัติการ “นิติสงคราม”ได้ทุกวรรคทุกตัวอักษรเพื่อรักษาไว้ซึ่งตำแหน่ง แต่กลับทำให้ประเทศชาติถอยหลังขณะต่างประเทศเขาเดินหน้าพัฒนาไปไกล..

 

การขับเคลื่อนเครือข่าย“นิติกรรมอำพราง”ของฝั่ง อำนาจเก่า เพียงเพื่อรักษาผลประโยชน์ ร่วมทศวรรษที่ผ่านมา หากแต่ไม่คำนึงถึงอนาคตต่อการดำรงไว้สิ่งซึ่งหวงแหนถูกใช้เป็นต้นทุนอันล้ำค่าโคตรเปลืองแลกกับคะแนนเสียง “ล้มพิธา” จะรักษาไว้ได้เฉกเช่นไร ในเมื่อ ตรรกะแห่งธรรมชาติย่อมเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาชีวิตจิตวิญญาณของผู้เฒ่าและลูกหลาน โดยเฉพาะด้อมส้มกว่า14ล้านและกำลังจะมากขึ้นเป็นทวี เมื่อสิทธิ์และเสียงที่ออกมาใช้เลือกผู้แทนฯพวกเขาไม่ดังพอ ถูกเมินเฉยด้อยค่ากว่าเพียงกลุ่มคนหยิบมือจากเครือข่ายคสช.

 

 

เฉกเช่นการทำหน้าที่ของ สส.จากการเลือกตั้ง บางขั้วกลับเก็บอุดมการณ์ใส่ชิ้นชัก ก็ไม่ได้ต่างจากการทำหน้าที่ของ สว.ลากตั้ง เพียงเพื่อ ผลประโยชน์ และ ชัยชนะ มิให้ฝ่ายตรงข้ามขึ้นสู่อำนาจได้สำเสร็จตามครรลองเสียงข้างมากในสภา ความเป็นสส.ที่ไม่ได้ยึดเสียงส่วนใหญ่เป็นเกณฑ์ตามหลักประชาธิปไตยที่ท่องบ่นเป็นอุดมคติของพรรค ยินยอมให้สภาแต่งตั้งข้ามฟากลงมาตัดสินชะตากรรมของสภาผู้แทนฯอันไร้ซึ่งศักดิ์และศรีตัวแทนประชาชนหรือไม่..

 

“ก้าวไกล”ยังมีทางเลือกที่จะเดินต่อ สุดยอดกลยุทธิ รุกได้ถอยเป็น เพื่อรุกสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่า การเสนอชื่อ”พิธา”เพื่อรับรองรอบ2 ซึ่ง ความเป็นไปได้เกือบจะไม่มี ถอยลดเงื่อนไขปมแก้กฏหมาย.112 เพื่อรุก เป้าหมาย การเป็น นายกฯฟอร์มทีมรัฐบาลก้าวไกล เดินนโยบายอย่างอื่นอีกมากมายแต่ก็ต้องยอมสูญเสีย ด้อมส้ม สายฮาร์ดคอร์ บางกลุ่มแต่ก็ได้เพิ่มกลุ่มเดินสายกลางแทน ถอยเพื่อรับไม้สองเป็น นายกคนละครึ่ง เศรษฐา แต่ก็คงโดยเชือดตามธง นิติกรรมอำพราง ถอยสละเก้าอี้นายกฯแต่ยังร่วมเป็นรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเพื่อขับเคลื่อนนโยบายบางด้านรอการกลับมาแต่ก็เสี่ยงความนิยมจะตกต่ำลงถอยดึงเช็งยาวไปรอเสนอญัตติเพื่อโหวตรับรองหลังสว.ลากตั้งพ้นวาระ 5 ปี

 

 

แม้จะเข้าทาง”ลุงตู่”แต่ก็ต้องวัดใจ พรรคผู้พี่เพื่อไทย หรือถอยสุดซอยโดยถอนยวงแยกวงออกจาก8พรรคร่วมรัฐบาลเป็นผู้นำฝ่ายค้าน สร้างผลงานรอการกลับมาที่ยิ่งใหญ่กว่า กับ สภาพ การนำแบบเต็มรูป แบบสรรพกำลังที่พร้อมแกนนำพรรคหลุดพ้นพันธนาการโทษเว้นวรรคทางการเมือง พุ้งเป้าแลนด์สไลต์ขับเคลื่อน300นโยบายได้อย่าง เข้มแข็งและเข้มข้นเกินต้าน ที่สำคัญไร้สว.ลากตั้ง..จะยกเลิกหรือแก้ไขปรับปรุงกฏหมายมาตราใดทางก็สะดวก..

 

ความเชื่อมั่นใน ระบอบประชาธิปไตย หากสูญไป ความเชื่อมั่นใน ระบบศาลยุติธรรม หากเหือดแห้งไปจากหัวใจคนไทยแล้ว ย่อมเป็นอันตราย การเลือกตั้งที่ผ่านมา “ประชาชน”เจ้าของอำนาจที่แท้จริงเขาพิพากษาไปแล้ว กลับให้ “สว.ลากตั้ง”เป็นผู้ตัดสินแก้ สภาพการเมืองกำลังเดินเข้าสู่วงจรอุบาทก์ลูปเดิมๆ งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข การต่อสู้ของ “พิธา”เหมือนปลาคนละน้ำ เกมเตะหมูเข้าปากหมา เข้าทางพรรคเพื่อไทยเต็มๆส้มหล่นให้”เศรษฐา”ถูกดันเสนอชื่อให้รัฐสภารับรองเป็นนายกฯคนที่30แทน เป็นวังวน”ธนกิจการเมือง”ตักตวงผลประโยชน์อ้างเหตุโกงกินคอรัปชั่นทำให้เกิดการปฏิวัติ รัฐประหาร..วนไป..!!

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews