8 พรรคร่วมให้สิทธิ์ เพื่อไทย รวมคะแนนเสียง สว.-สส. หนุนโหวตนายกฯ พร้อมเป็นตัวแทนเจรจารับเงื่อนไขลดเพดานมาตรา 112 ก่อนเสนอให้ ก้าวไกล ยอมรับ หากรวมเสียงไม่สำเร็จ อาจมีทางเลือกอื่นที่ไม่มีบางพรรคอยู่ร่วมสมการ
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยหัวหน้าพรรค และตัวแทนพรรค 8 ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ว่า ที่ประชุมมีมติให้พรรคเพื่อไทย ส่งผู้ซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 27 ก.ค.นี้ โดยพรรคก้าวไกลจะเป็นผู้เสนอชื่อต่อที่ประชุมรัฐสภา
ขณะที่การไปเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมนั้น ที่ประชุม มี 3 แนวทาง คือ ขั้นตอนแรกจะไปหาเสียงจาก สว. อีก 63 เสียง เพื่อให้ได้ครบ 375 เสียง ที่ สว. อาจจะมีเงื่อนไขกรณีมาตรา 112 ก็เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะต้องไปพูดคุย และรับข้อเสนอแนะมาหารือกันกับพรรคก้าวไกล และ 8 พรรคร่วมต่อไป แต่หากยังได้เสียงไม่ครบ ขั้นตอนที่ 2 ก็จะไปหาเสียง สส. จากพรรคการเมืองขั้วรัฐบาลเดิม ส่วนแนวทางที่ 3 ที่ประชุมให้สิทธิ์พรรคแกนนำไปพิจารณาดำเนินการหาเสียงในแบบอื่น
ส่วนจะให้ก้าวไกลลดเพดาน ม.112 อย่างไรนั้น ที่ประชุมได้ยกเรื่องนี้มาหารือกัน และพรรคก้าวไกลอยากได้รายละเอียด ว่า เงื่อนไขให้ลดเพดานนั้นคืออะไร โดยให้พรรคเพื่อไทยไปประสานขอรายละเอียดจาก สว. และจะนำไปปรึกษากันในพรรคเพื่อไทยก่อนที่จะไปพูดคุยกับพรรคก้าวไกล และ 8 พรรคร่วมต่อไป
ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวเสริมว่า ต้องรอดูรายละเอียดจากพรรคเพื่อไทย ที่ได้ให้เวลาไปพูดคุยกัน สว. ถึงรูปแบบการปลดล็อกความไม่สบายใจของทุกฝ่าย รวมถึงแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลได้นั้นเป็นอย่างไร จากนั้นพรรคก้าวไกลจะนำไปพิจารณากันในพรรคอีกครั้ง พร้อมเห็นว่า เรื่องนี้เป็นแค่ข้ออ้าง แต่เป้าหมายสูงสุดตามเจตนารมณ์ของประชาชน คือ ต้องการเห็นการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล ส่วนเรื่องรายละเอียดนั้น โดยมารยาทต้องมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทย ในการบริหารจัดการเรื่องนี้ ที่ต้องไปพูดคุยกันสมาชิกรัฐสภา โดยเฉพาะสว.
ขณะที่การไปหาเสียงเพิ่มจากพรรคการเมืองอื่น ที่ล่าสุดขณะนี้พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคชาติไทยพัฒนา มีท่าที จะไม่ร่วมรัฐบาล หากยังมีพรรคก้าวไกล นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ประเด็นนี้ 8 พรรคร่วม ได้พูดคุยกันเป็นมุมแนวทางอื่น ซึ่งหากนอกเหนือจากจากแนวทางที่ 8 พรรคร่วมได้คุยกัน ที่ประชุมให้สิทธิ์พรรคเพื่อไทยไปพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร
นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงเงื่อนไขที่ระบุชัดห้ามแตะมาตรา 112 จะทำอย่างไรนั้น ต้องไปฟังให้ชัดเจน เพราะหน้าที่คือต้องไปพูดคุยหาข้อเท็จจริงให้รอบด้าน และแจ้งต่อพรรคก้าวไกล และที่ประชุม 8 พรรคร่วม เพื่อพิจารณาร่วมกัน
ส่วนจะยังคงมีแค่ 8 พรรคร่วม ไม่มีพรรคที่ 9 พรรคที่ 10 ใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ประเด็นนี้เป็นทางเลือกที่ 1
สำหรับการหาเสียงสนับสนุนจาก สส. จะต้องเข้าร่วมเป็นรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นรายละเอียดที่ต้องไปพูดคุยกัน แต่ถ้ามีพรรคการเมืองใดพร้อมยกคะแนนให้ โดยไม่ร่วมรัฐบาลก็เป็นมิติทางการเมืองใหม่ในประเทศไทย แต่ก็ขึ้นอยู่กับการพูดคุย
ทั้งนี้วันที่ 27 ก.ค.นี้ จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 1 ชื่อ และเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยจะพูดคุยกัน โดยจะประกาศอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ แต่ก่อนจะเสนอชื่อ ต้องทำให้มั่นใจว่าจะได้นับเสียงสนับสนุนเกิน 375 คนขึ้นไปก่อน และขณะนี้ไม่ได้ติดต่อไปพูดคุยกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งหลักการของพรรคเพื่อไทยนั้น จะไปเจรจาอยากเป็นทางการ
ส่วนทุกทางเลือกจะมีพรรคก้าวไกลอยู่ร่วมกันใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ทางเลือกนั้นอยู่ในแนวทางที่ 1 และ 2 ส่วนทางเลือกอื่น เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยที่ได้รับมอบหมายว่าจะไปดำเนินการอย่างไร โดยพยายามจะทำแนวทางที่ 1 และ 2 ให้สำเร็จให้ได้ก่อน โดยกรอบเวลาช้าสุด คือ วันที่ 25 ก.ค.
พรรคเพื่อไทยสามารถการันตีได้หรือไม่ว่าจะไม่ไปจับมือกับขั้วรัฐบาลเดิม นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สิ่งที่ได้แถลงไปในวันนี้ คือ คำมั่นสัญญาที่จะทำให้ดีที่สุดใน 8 พรรคร่วม นั่นคือเบื้องต้นในสิ่งที่พยายามทำ และจะสังเกตได้ว่า สิ่งที่แถลงในวันนี้ พรรคเพื่อไทยได้สิทธิ์จาก 8 พรรคร่วมในการไปดำเนินการ ส่วนมาตรการอื่นๆ นอกเหนือนอกจากที่จะจับมือกับ 8 พรรคร่วม เพียงแต่ได้สิทธิ์ให้พรรคเพื่อไทยไปดำเนินการ หลังจากกระบวนการทั้งหมดไม่เกิดขึ้น หากการดำเนินการของ 8 พรรคร่วมไม่สำเร็จ พรรคเพื่อไทยก็มีสิทธิ์ไปดำเนินการ
นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงทางเลือกที่ 3 คือ ทางเลือกอื่นๆ ก็คือ ไม่ใช่ทางเลือกที่เป็นการร่วมกันของ 8 พรรคร่วม ซึ่งอาจจะไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งอยู่ในสมการนี้ หรือการจับมือนี้ ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่พรรคเพื่อไทยได้รับจาก 8 พรรคร่วมไปดำเนินการ ก่อนนำมาหารือกันอีกครั้ง
ส่วนเงื่อนไข “มีเราไม่มีลุง” ของบางพรรคการเมืองนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะเป็นทางเลือกที่ต้องไปแสวงหาให้ได้
สำหรับกรณีการยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้พิจารณาเรื่องที่ประชุมรัฐสภาในการวินิจฉัยข้อบังคับที่ 41 ซึ่งอาจทำให้เสนอชื่อ นายพิธา รอบ 2 ได้นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คงต้องไปดูรายละเอียด เพราะอยู่คนละจังหวะเวลากัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews