Home
|
ข่าว

ครม. เห็นชอบร่าง MOU อาเซียน-WIPO

Featured Image
ครม. เห็นชอบร่าง MOU ระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และWIPO ขยายความร่วมมือในสาขาเฉพาะ ให้ความช่วยเหลือ SME และสตาร์ทอัพ

 

 

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ว่า ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization: WIPO) ว่าด้วยการขยายความร่วมมือในสาขาเฉพาะ และอนุมัติให้เลขาธิการอาเซียนลงนามในบันทึกความเข้าใจดังกล่าวในนามอาเซียน ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

 

 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 54 เมื่อวันที่ 14 -18 กันยายน 2565 รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้หารือร่วมกับผู้อำนวยการองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก และเห็นชอบให้มีการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างอาเซียนและองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ซึ่งต่อมาที่ประชุมคณะทำงานอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญา (คณะทางานอาเซียนฯ) ครั้งที่ 69 เมื่อวันที่ 14 – 17 มีนาคม 2566 มีมติเห็นชอบให้เลขาธิการอาเซียนเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ และแจ้งมายังประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อขอรับการอนุมัติให้เลขาธิการอาเซียนเป็นผู้ลงนาม

 

 

ร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างอาเซียนและองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก นอกเหนือจากที่ดำเนินการอยู่แล้ว ตามแผนปฏิบัติการด้านทรัพย์สินทางปัญญา 2559-2568 (The ASEAN Intellectual Property Rights Action Plan 2016 – 2025: AIPRAP) ที่อาเซียนดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน โดยสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

 

 

1. วัตถุประสงค์ และขอบเขตความร่วมมือเพื่อตอบสนองความต้องการและครอบคลุมสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ด้านทรัพย์สินทางปัญญาของภาคธุรกิจที่ยังไม่ได้รับการดูแล ได้แก่ 1.ให้ความช่วยเหลือ SME และสตาร์ทอัพในการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาสนับสนุนการค้าภายในภูมิภาคอาเซียนและระหว่างภูมิภาค ผ่านการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านทรัพย์สินทางปัญญา ตลอดจน การจัดหาโครงสร้างพื้นฐาน เครื่องมือ และทรัพยากรต่าง ๆ เช่น การอำนวยความสะดวกในการขึ้นทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น

 

 

2.ยกระดับเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อความสำเร็จทางธุรกิจด้วยการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการพัฒนาแอปพลิเคชันมือถือ วิดีโอเกม หรือเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้วยการวิเคราะห์สิทธิบัตรต่างๆ และปัญญาประดิษฐ์ 3.สำรวจและแบ่งปันแนวปฏิบัติที่มีอยู่ในอาเซียนเพื่อปลดล็อคการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาและสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ให้สามารถนำมาใช้เป็นหลักค้ำประกันเงินกู้เพื่อต่อยอดธุรกิจได้ และ 4.สนับสนุนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ตลอดจนส่งเสริมการเข้าถึงและการใช้แพลตฟอร์ม WIPO สำหรับนักสร้างสรรค์

 

 

2. ความรับผิดชอบทั่วไปของผู้เข้าร่วม (อาเซียนและ WIPO) ได้แก่ 1.ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายจะไม่กระทำการใดๆ ที่อาจส่งผลเสียต่อผลประโยชน์ต่างๆ ของผู้เข้าร่วมอีกฝ่าย และจะปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ ของร่างบันทึกความเข้าใจนี้อย่างเต็มที่ 2.ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายจะเก็บรักษาข้อมูลของผู้ที่เข้าร่วมไว้เป็นความลับภายใต้ร่างบันทึกความเข้าใจนี้ ยกเว้นได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เข้าร่วมที่เกี่ยวข้องแล้ว และ 3.ข่าวประชาสัมพันธ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบันทึกความเข้าใจนี้จะต้องได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายก่อนเผยแพร่หรือเปิดเผย

 

 

3. ระยะเวลาบังคับใช้ และการสิ้นสุดของบันทึกความเข้าใจฯ นี้มีผลใช้บังคับในวันที่ลงนาม และมีผลบังคับใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี โดยก่อนจะหมดอายุผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายอาจตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อต่ออายุต่อไปได้ และอาจสิ้นสุดโดยความยินยอมร่วมกันของผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายหรือโดยผู้เข้าร่วมฝ่ายหนึ่ง แจ้งให้ผู้เข้าร่วมอีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้า 3 เดือน

 

 

“การทำร่างบันทึกความเข้าใจฯ จะส่งเสริมให้เกิดการสร้างเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้และประสบการณ์ในด้านที่ไทยยังมีความพร้อมไม่มากพอ เช่น ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นต้น” น.ส.ทิพานัน กล่าว

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube