“ชัยธวัช” เชื่อ ก้าวไกล-เพื่อไทย ไร้รอยร้าว ปัดฉีก MOU แจง เคยเสนอให้ “เสรีพิศุทธ์” นั่งรองนายกฯ เพราะให้เกียรติ ชี้ ตีความเสนอชื่อ “พิธา” ซ้ำ ใช้กลไกรัฐสภาหาทางออกได้ ไม่จำเป็นต้องถึงศาล รธน.
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่วันนี้ทางพรรคเพื่อไทย มีการแจ้งยกเลิกการประชุม 8 พรรคร่วมกระทันหัน ว่า ตนได้รับแจ้งจากพรรคเพื่อไทยว่า ภารกิจที่ได้รับมอบหมายยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ส่วนจะมีการนัด 8 พรรคร่วมหารือกันอีกครั้งนั้น ทางพรรรคเพื่อไทยยังไม่แจ้งมา ประกอบกับคิดว่า จะมีการเลื่อนประชุมรัฐสภาวาระพิจารณาบุคคลผู้จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ในสัปดาห์นี้ ล่าสุดได้รับแจจากทางสภาว่าการประชุมวิป 3 ฝ่าย ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ก็ของดไปแล้ว ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ประธานสภาจะเลื่อนวันประชุมในวันที่ 27 นี้ด้วย แต่จะด้วยเหตุผลใดนั้นยังไม่ได้รับการแจ้ง
ส่วนตอนนี้ท่าทีของ 8 พรรคร่วม ยังคงจับมือกันเหนียวแน่นใช่หรือไม่นั้น เนื่องจากมีข่าวหรือว่า ”ข้าวต้มมัดปริ” นายชัยธวัช ยืนยันว่า อย่าเพิ่งรีบสรุปแบบนั้นเมื่อถามถึงกรณีที่พรรคไทยสร้างไทยมี การแถลง ออกมาว่าไม่สนับสนุนการแก้ไข ม. 112 เป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่นายชัยธวัชกล่าวว่า ตนคิดว่า สิ่งที่เราได้คุยกันมาโดยตลอดตั้งแต่ตอนลงนาม MOU ซึ่งในเรื่อง ม.112 นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลงนามร่วมของ 8 พรรคอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าจากกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ขอให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ในการทำ MOU ใหม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ต้องรอฟังจากพรรคเพื่อไทยดีกว่า ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่ได้ส่งสัญญาณอะไรมา นายชัยธวัช ยังเปิดเผยว่ามีสัญญาณที่ดีจาก สว. ว่าอาจจะมีผู้โหวตเห็นชอบมากกว่าเดิม หากมีการเปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และยืนยันว่า พรรคก้าวไกลจะพยายามให้ดีที่สุด เพื่อจัดตั้งรัฐบาลตามเจตจำนงของประชาชน
เมื่อถามถึง กรณี สส.พรรคก้าวไกลออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับคดีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แสดงว่าไม่สามารถร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่ นายชัยธวัช ตอบว่า ตามที่พรรคเพื่อไทยชี้แจงว่า เชิญมาหารือยังไม่ใช่การเชิญร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ นายชัยธวัช ยังมั่นใจว่า หากพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลยังจับมือกันแน่นอยู่ จะไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้ และสิ่งที่จะทำให้การจับมือเป็นไปได้ คือ ประชาชน
ส่วนกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ออกมาเปิดเผยว่าพรรคก้าวไกลได้เคยเสนอให้ตนเป็นรองนายกฯแลกกับการร่วมรัฐบาล นายชัยธวัช ชี้แจงว่า เป็นช่วงต้นของการจัดตั้งรัฐบาล แม้พรรคเสรีรวมไทยจะมีเพียงเสียงเดียว แต่ได้ให้เกียรติ์กัน เพราะเห็นว่าเป็นผู้ใหญ่ และมีประสบการณ์จึงคิดว่าสามารถมาช่วยภารกิจรัฐบาลได้โดยเฉพาะในด้านการปราบปรามกระทำผิดกฏหมายที่สำคัญ ส่วนที่พล.ต.อ. เสรีพิสุทธิ์ ระบุว่า พรรคก้าวไกลต้องเสียสละนั้น นายชัยธวัชกล่าวว่า อยู่ที่การหารือของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้กังวลต่อท่าทีของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์
เมื่อถามถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยเรื่องการเสนอชื่อนายก ถือเป็นญัตติ ไม่สามารถเสนอซ้ำได้ นายชัยธวัช ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วย กับการให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพราะถือว่าอยู่ในอำนาจของรัฐสภา จึงเป็นเหตุให้ ไม่มี สส.พรรคก้าวไกลไปยื่นเรื่องนี้ ทั้งนี้เชื่อว่าสภายังคงมีทางออก หากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง สามารถใช้ระบบสภามาหารือร่วมกันได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ช่องทางศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น
ส่วนจากกรณีมีข้อเสนอให้รอการเลือกนายกรัฐมนตรีออกไป 10 เดือน หลัง สว.หมดวาระ นายชัยธวัช ระบุว่า เป็นการแสดงออกถึงว่ามีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่รอได้ แต่ 10 เดือน มันอาจจะนานเกินไป ทางที่ดีควรมีทางออกโดยที่ไม่ยืดเวลาออกไปนานขนาดนั้น ซึ่งการปลดล็อคข้อบังคับที่ 41 จะช่วยได้มาก
“ตราบใดที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจับมือกันแน่น รัฐบาลเสียงข้างน้อยจะไม่มีทางเกิดขึ้น และถึงที่สุด สว.อาจจะมีวิจารณญาณทำตามเสียงประชาชน” นายชัยธวัชกล่าว
เมื่อถามว่าหากถึงที่สุดพรรคก้าวไกลต้องเสียสละไปเป็นฝ่ายค้าน จะเลือกเดินออกไปเองหรือให้พรรคเพื่อไทยเป็ยผู้เชิญออก นายชัยธวัช กล่าวว่า หากเมื่อถึงสถานการณ์นั้นจริง เป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทยที่จะต้องเลือก ส่วนสิ่งที่พรรคก้าวไกลเลือก พยายามทำให้ดีที่สุด ให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปได้ตามเสียงของประชาชน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews