“ชัชชาติ”เช็คร้านขาย”ประทัดพลุ-วัตถุอันตราย-สารเคมีทั่วกรุงฯ
วันนี้ (3 ส.ค. 66) ที่ศาลาว่าการกทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงาน ว่า จากเหตุโกดังเก็บพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง ระเบิดในชุมชนตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันเสาร์ที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
ดังนั้นจึงได้กำชับให้ทุกเขต ตรวจสอบ สถานที่เก็บ ทำ หรือขายดอกไม้เพลิง รวมทั้งการประกอบกิจการ เก็บและจำหน่ายวัตถุอันตราย ก๊าซแก๊ส และสารเคมี ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ มีร้านค้า 3 แห่ง ที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่าย จึงให้ทุกเขตไปตรวจสอบว่ามีจุดเสี่ยงอันตรายอื่นๆเพิ่มอีกหรือไม่
นอกจากนี้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ยังกล่าวภายหลังอีกว่าเป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงาน ว่า ได้เน้นย้ำในที่ประชุม เรื่องธุรกิจจีน ซึ่งมีกรณีเกิดในเขตห้วยขวาง ให้ทั้ง 50 เขต ตรวจสอบธุรกิจชาวต่างชาติ แต่ไม่ได้เน้นเป็นการไล่จับผิด เพราะจริงๆแล้วมองได้2มุม โดยเฉพาะมุมของการกระตุ้นการท่องเที่ยว เป็นเรื่องที่ดีที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจมาท่องเที่ยว แต่ให้ผอ.เขต ตรวจสอบเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย หากพบธุรกิจชาวต่างชาติ ที่เป็นนอมินี ให้แจ้งกระทรวงการพาณิชย์ ดำเนินการตรวจสอบโดยเฉพาะการนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายนั้น มีฉลากถูกต้องหรือไม่ โดยในเขตห้วยขวาง มีการนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายโดยไม่มีฉลากอย่างถูกต้อง ซึ่งกทม. ได้ดำเนินการไปแล้ว 4 ราย ส่วนเขตสัมพันธ์วงศ์ เป็นอีกเป้าหมายหนึ่งที่จะต้องดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้เขตห้วยขวาง จะเป็นเขตต้นแบบในการตรวจสอบธุรกิจชาวต่างชาติ จากการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สถานีตำรวจในพื้นที่ 5 สถานี กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณะ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา พบว่าการประกอบธุรกิจต่างชาติในพื้นที่ห้วยขวาง ล้วนเป็นนอมินีแทบทั้งสิ้น โดยส่วนใหญ่ขออนุญาตเปิดร้านสินค้าเบ็ดเตล็ด (กิ๊ฟชอป) แต่จริงๆแล้วกลับเปิดเป็นร้านอาหาร ดังนั้น กทม.จะเป็นเจ้าภาพในการจัดทำฐานข้อมูลธุรกิจต่างชาติ พร้อมทั้งลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจต่างชาติทุกแห่งในพื้นที่ โดยผอ.เขต ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ ในฐานะฝ่ายปกครอง หากพบทำผิด จะสั่งปิดทันที ฐานขออนุญาตผิดประเภท ก่อนดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบูรณาการกับทุกภาคส่วน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
