Home
|
ข่าว

“ปดิพัทธ์” ลาออกรองปธ.สภาตอนไหนให้พรรคชี้ขาด

Featured Image
“ปดิพัทธ์” ลาออกรองปธ.สภาตอนไหนให้พรรคชี้ขาด พร้อมทำหน้าที่ทุกบทบาท ไม่เสียใจ ยังเพื่อไทยจะกลับมาง้อขอร่วมรัฐบาล

 

 

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา กรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กล่าวถึงกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม ระบุว่าตามรัฐธรรมนูญหากพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน นายปดิพัทธ์ จะต้องออกจากตำแหน่งรองประธานสภาฯ ว่า สิ่งที่นายวิษณุ พูดถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเหตุใดรัฐธรรมนูญ 60 จึงเขียนแบบนี้ ตนไม่ทราบเจตนารมณ์ ซึ่งประเทศอื่นก็ไม่ได้ห้ามเอาไว้

 

 

แต่ก็แน่นอนว่าในรัฐธรรมนูญได้บันทึกเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน ส่วนพรรคก้าวไกล คงให้ทางพรรคหารือกันเอง เพราะกลายเป็นว่าจะต้องเลือกตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง เนื่องจากตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จะต้องไม่มีสมาชิกพรรคที่มีตำแหน่งในครม. ประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร

 

 

ซึ่งถือว่าเป็นกิจการภายในของพรรคก้าวไกล ตนไม่ขอก้าวล่วง และไม่ทราบรายละเอียดว่ามีการหารือกันหรือยัง เนื่องจากตนไม่ได้เข้าประชุมพรรค และเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรค

 

 

ส่วนมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้างนั้น นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ตนพร้อมในทุกบทบาทแล้ว ตอนนี้ยังเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรอยู่ ก็ได้ทำตามวิสัยทัศน์ที่ได้ประกาศเอาไว้ให้เรียบร้อย ทั้ง Smart และ Open pariment และหากไม่เป็นรอประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ยังมีบทบาทของส.ส. และกรรมาธิการฯ สามารถ ทำหน้าที่ได้อย่างเต็มภาคภูมิเช่นกัน ไม่ได้รู้สึกเสียดาย เมื่อถามว่า กรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ หากรับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรจะมีเงื่อนไขอย่างไรนั้น

 

 

นายปะดิพัทธ์ กล่าวว่า ค่อยว่ากัน เพราะเรื่องของนายพิธา ก็กำลังเจออยู่ว่าเป็นความไม่แน่นอนของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ส่วนจะมีโอกาสเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคเพื่อรับตำแหน่งหรือไม่ นายปะดิพัทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ

 

 

ทั้งนี้ จะทำให้สภา เป็นสภาของประชาชนอย่างไรนั้น หากต้องออก ตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น นายปะดิพัทธ์ กล่าวว่า ตนจะไปผลักดันต่อในคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร และข้อเสนอหลายอย่างนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรก็เห็นด้วย และตรงกับวิสัยทัศน์ของเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรอยู่แล้วจึงคิดว่า สิ่งที่ตนเสนอสามารถไปต่อได้

 

 

ขณะจะตั้งหลักอย่างไร เมื่อเพื่อไทยไปเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ขอโฟกัสที่งานของตัวเอง และย้ำว่าไม่มีความเสียใจ นายปดิพัทธ์กล่าวย้ำด้วยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 ที่มีปมปัญหาเยอะไปหมด ดังนั้นกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะมาจากประชาชนจริงๆและเข้าใจกระบวนการ ว่าประเทศเราควรจะไปอย่างไร สร้างรัฐสภาแบบไหน ซึ่งไม่ใช่มีเฉพาะปมนี้ แต่ยังมีปมให้ สว. มาแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ซึ่งฝ่ายที่เครียดไม่ใช่ตนแต่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้และประชาชนที่จับตาดูอยู่

 

 

ขณะเดียวกัน ยังหวังหรือไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะกลับมาง้อขอร่วมรัฐบาล นายปดิพัทธ์ ระบุ ตนไม่มีความเห็น และเป็นงานของฝ่ายเจรจาที่จะไปเจรจากันเอง

 

 

อย่างไรก็ตาม หากพรรคเพื่อไทยพร้อมขอโทษและขอขมาพรรคก้าวไกลเพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้นั้น นายปดิพัทธ์ ย้ำว่า ทุกอย่างเต็มเรื่องของทีมเจรจา ซึ่งตนเป็นคนวงนอกมากๆ ก็ขอทำงานของตัวเองหากมี 1วัน ก็ทำ 1 วัน หากที 4 ปีก็ทำ 4 ปี และตนก็ไม่ได้คิดอะไร และคิดว่าตอนนี้หลายอย่างก็ผลักดันได้เร็วกว่าที่คิด ดังนั้น ก็ยังทำงานเต็มที่ ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็ตาม

 

 

แต่ก็รู้สึกแปลกที่พรรคอันดับ 1 ชนะการเลือกตั้ง เสียงอันดับ 1 ไม่ได้เป็น แกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และคิดว่าความแปลกพวกนี้เกิดจากรัฐธรรมนูญปี 60 กับการสืบทอดอำนาจของคสช. ซึ่งคิดว่าอย่าไปคิดเป็นสาระที่จะต้องยึดเอาไว้

 

 

ทั้งนี้ รู้สึกว่า พรรคก้าวไกลพลาดตั้งแต่ต้นที่ปล่อยตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรให้กับพรรคอื่นหรือไม่ นายปดิพัทธ์ ระบุว่า ไม่มีอะไรพลาด ทุกอย่างเป็นการเจรจาที่ดีที่สุดในตอนนั้นและอยากบอกกับประชาชนว่าการเมืองตอนนี้ หลายท่านก็เครียด เพราะมีการเปลี่ยนแปลงรายวัน ก็อยากให้ติดตามการเมืองและเชื่อใจว่ากระบวนการต่างๆ เดินหน้าได้

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube