Home
|
ข่าว

“สนธิญา” ยื่น กกต. เร่งสอยส.ส.ถูกร้องเรียน

Featured Image
“สนธิญา” ยื่น กกต. เร่งปิดเผยจำนวนเรื่องร้องเรียน สส. หวั่น ทำรัฐบาลเสียเสถียรภาพ ทวงถามสมาชิกภาพสส. ของ “พิธา” สิ้นสุดตั้งแต่ปี 62 หรือไม่ ชี้ อาจส่งผลเลือกตั้งโมฆะ พร้อมยื่นอุทธรณ์ คำสั่งนายทะเบียนตีตกยุบเพื่อไทย ปม “อุ๊งอิ๊ง” บินพบทักษิณ

 

 

 

นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางยื่นหนังสือต่อกกต. ขอให้เปิดเผยจำนวนเรื่องร้องเรียนการเลือกตั้งสส. เนื่องจากในวันที่ 14 ส.ค. นี้ จะครบ 3 เดือนที่กกต. มีมติประกาศรับรองสส. 500 คน โดยขณะนั้นมีการระบุว่ามีผู้ได้รับเลือกตั้ง 71-100 คนที่มีเรื่องร้องทุจริต

 

 

จึงต้องการให้กกต.เปิดเผยว่าเรื่องทุจริตดังกล่าวนั้นมีพยานหลักฐานเพียงพอหรือไม่อย่างไร เพราะหากกกต.พิจารณาแล้วเห็นว่าคนเหล่านั้นมีการกระทำทุจริตจริง และต้องสั่งเพิกถอนสิทธิและเลือกตั้งใหม่ ก็จะทำให้บางพรรคการเมืองที่นำเสียงไปสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลมีปัญหา หรือถ้าหากจะตั้งรัฐบาลไปแล้วกกต.มีการดำเนินการกับผู้ที่ทุจริตในภายหลัง ก็จะอาจทำให้เสียงในรัฐบาลลดลง ทำให้รัฐบาลมีปัญหาเรื่องเสถียรภาพได้

 

 

นายสนธิญา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังต้องการทวงถามกรณีที่ได้เคยยื่นให้กกต.ตรวจสอบ ว่าการที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีลักษณะต้องห้ามของการลงสมัครรับเลือกตั้งสส. เนื่องจากถือหุ้นไอทีวี และกกต.ก็ได้มีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะสส.ของนายพิธา แล้วนั้น จึงต้องการทราบว่ากกต.เห็นว่าสมาชิกภาพสส.ของนายพิธา สิ้นสุดตั้งแต่เมื่อใด ปี 2562 หรือไม่

 

 

เพราะหากสิ้นสุดไปก่อนจะมีผลให้การที่นายพิธา ในฐานะหัวหน้าพรรค ซึ่งเซ็นรับรองส่งผู้สมัคร สส.ของพรรคก้าวไกลทั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และแบบบัญชีรายชื่อในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะไปด้วยหรือไม่ โดยประเด็นนี้จะมีผลไปถึงคุณสมบัติของสส.ก้าวไกลทั้ง 151 คน และอาจนำไปสู่การเลือกตั้งที่เป็นโมฆะ ซึ่งต้องนำไปสู่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่เบื้องต้นอยากให้กกต.ชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจน

 

 

นายสนธิญา ยังระบุว่า ได้ยื่นคำร้องต่อประธานกกต.เพื่ออุทธรณ์คำสั่งของนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่ให้ยุติเรื่องกรณีที่ตนได้ร้องขอให้ตรวจสอบการกระทำของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ว่าเข้าข่ายเป็นการยินยอมให้บุคคลซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเข้ามาชี้นำครอบงำการดำเนินกิจการของพรรค และเป็นเหตุให้ต้องถูกยุบพรรคตามมาตรา 28,29 ประกอบมาตรา 92 กรมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 จากเหตุที่น.ส.แพทองธาร บินไปพบนายทักษิณ ที่ฮ่องกง

 

 

อีกทั้งไปปราศรัยที่จ.อุดรธานี โดยระบุว่าจะพานายทักษิณ กลับบ้านมาเลี้ยงหลาน รวมถึงข้อความ “พรุ่งนี้เพื่อไทย” ที่คล้ายลายมือของนายทักษิณ เนื่องจากเห็นว่าตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส. ฉบับที่ 2 มาตรา 132 ,136 ,137 ได้ระบุไว้เกี่ยวกับการพิจารณาเรื่องร้องทุจริตโดยใช้คำว่า “หลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า” เท่านั้น

 

 

ซึ่งพยานหลักฐานต่างๆที่ตนได้ยื่นให้กกต.พิจารณาทั้ง 3 ประเด็น ทั้งการที่น.ส.แพทองธาร มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น แต่กลับเดินทางไปพบนายทักษิณที่ฮ่องกง จึงอยากให้ประธานกกต.ได้พิจารณาหลักฐานรวมถึงความเห็นต่างๆของนายทะเบียน ว่ามีการเชิญน.ส.แพทองธาร มาให้ถ้อยคำจริงหรือไม่ และพิสูจน์ว่าข้อความ “พรุ่งนี้เพื่อไทย” ไม่ใช่ลายมือของนายทักษิณ จริงหรือไม่

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube