กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ นัดมวลชนร่วมเดินขบวน “ส่องไฟให้ทางประชาธิปไตย” จากแยกปทุมวัน-ราชประสงค์ รำลึกวีรชนเสื้อเสื้อแดง พร้อมปลุกระดมส่องไฟฉายที่ทำการพรรคเพื่อไทยทั่วประเทศ จี้ 8 พรรคเดิมกลับมาจับมือตั้งรัฐบาลฝั่งประชาธิปไตย
บรรยากาศที่บริเวณหอศิลปะวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร กลายเป็นจุดรวมตัวของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และ กลุ่มเสรีมวลชนเพื่อสังคม เนื่องจากฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อถึงเวลานัดหมาย 17.00 น. ก็ไม่สามารถเดินแสดงสัญลักษณ์ส่องไฟให้ทางประชาธิปไตย จากแยกปทุมวันไปยังแยกราชประสงค์ได้ โดยมีกลุ่มด้อมส้ม รวมสมทบจัดกิจกรรมด้วย ทั้งนี้ เมื่อฝนเริ่มซา มวลชลก็เคลื่อนขบวนทันที
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 16.00 น. กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และ กลุ่มเสรีมวลชนเพื่อสังคม โพสต์แถลงการณ์ผ่านเพจว่า หลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้น ผลสรุปว่สฝ่ายประชาธิปตยได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย แต่ก็ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาได้ เพราะเนื่องด้วยกลยุทธ์ของเผด็จการที่วางเหล่า สว. ไว้เป็นเครื่องมือขวางมติของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย โดยรัฐธรรมนูญที่ถูกสร้างมาเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการ มิหนำซ้ำ พรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายประชาธิปไตยอื่น ๆ เอง ก็ดันเริ่มไปเห็นตีเห็นงามพร้อม และมีแนวโน้มที่จะผสมพันธุ์กับพรรคการเมืองที่รับใช้เผด็จการ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ผลลัพธ์ที่จะได้กลับมาคือผลลัพธ์ที่ไม่น่าพึงประสงค์ กล่าวคือ การที่พรรคการเมืองที่เคยเป็น
นั่งร้านเผด็จการ หรือกล่าวให้ถึงที่สุดคือ พรรคพวกฝ่ายฝั่งเผด็จการจะได้กลับมาอำนาจในการบริหารประเทศอีกครั้ง อันขัดกับเจตจำนงค์ของประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา เมื่อไล่เรียงคะแนนและดูคะแนนภาพรวมจะพบว่าสิ่งหนึ่งที่สำคัญต่อการลงคะแนนเลือกตั้งครั้งนี้ คือ จุดยืนของพรรคการเมืองนั้น ! ยืนอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยหรือเผด็จการ โดยผลได้ออกมาชัดเจนว่า ประชาชนเลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตย
แต่ขณะนี้ เมื่อพรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายประชาธิปไตยอื่น เริ่มมีแนวโน้มที่จะตระบัดสัตย์ หักหลังประชาชนจากคำพูดที่ว่า “มีเรา ไม่มี
ลุง” ได้กลายเป็นเพียงเทคนิคการหาเสียง สังคมก็ได้เริ่มตั้งคำถามว่า อะไรกันทำให้ฝ่ายประซาธิปโตยหน้ามืดตามัว จนลืมสิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นทำไว้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องประชาชนที่สูญเสียทรัพย์สินหรือชีวิตไปในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ประชาซนที่จบชีวิตตัวเอง เพราะไม่สามารถหาเลี้ยงชีพได้ 99 ชีวิตที่สูญเสียไปในเหตุการณ์เรียกร้องประซาธิปตยของพี่น้องคนเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์ ตอนปี 53 ผู้ที่ถูกบังคับสูญหายอย่าง ต้าร์-วันเฉลิม ที่เป็นอดีตคนในพรรคเพื่อไทยเอง การจับกุมคุมขังเยาวชนที่เรียกร้องประชาธิปตย ผู้ที่ต้องลี้ภัยทางการเมือง และเรื่องเลวร้ายอีกมากมายที่ยังไม่ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนแล้วก็มาจากฝีมือเผด็จการและนักการเมืองที่รับใช้เผด็จการทั้งสิ้น
แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มเสรีมวลชนเพื่อสังคม จึงมีความคิดเห็นว่า มันถึงเวลาแล้วของประชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่จะออกมาอีกครั้งและร่วมกันส่องแสงสว่างให้ถึงหัวใจของสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพื่อเรียกขานมโนธรรม ความยึดมั่นในจิตวิญญาณประชาธิปไตย และคำสัญญาที่ให้ไว้แก่ประชาชน ด้วยความหวังที่ต้องการให้ 8 พรรคฝ่ายประชาธิปไตยกลับมาจับมือกันอีกครั้ง เพื่อลบล้างผลพวงรัฐประหารทั้งหมดที่ทำร้ายประชาชนมามากกว่าสิบปี
ดังนั้น แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มเสรีมวลชนเพื่อสังคม ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนและทุกกลุ่มองค์กรทั่วประเทศ มาร่วมแคมเปญส่องไฟให้ทางประชาธิปไตยด้วยการร่วมกันทำกิจกรรมรวมตัวส่องไฟฉาย ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยทุกสาขา หรือสถานที่สาธารณะต่าง ๆ
จนกว่าจิตวิญญาณประชาธิปไตยจะหวนกลับคืนสู่พรรคเพื่อไทย
จากนั้น 18.00น.กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ทำกิจกรรมที่ใช้ชื่อว่า ‘ส่องไฟให้ทางประชาธิปไตย’ เริ่มต้นกิจกรรมที่ แยกปทุมวัน ให้มวลชนมาร่วมกันเขียนข้อความระบายความรู้สึกบนผ้าแดง
จากนั้น ได้เริ่มเดินขบวนไปตามถนนพระรามที่ 1 ซึ่งมีการส่องไฟฉายเชิงสัญลักษณ์ และปราศรัยไปตลอดเส้นทาง จนไปถึงหน้าวัดปทุมวนาราม กลุ่มผู้ชุมนุมได้แวะทำกิจกรรมเพื่อรำลึกถึงวีรชนที่สูญเสียจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงปี 2553ในยุครัฐบาลประชาธิปัตย์ เพื่อสื่อให้เห็นว่า พวกเขายังไม่ได้รับความยุติธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่จะลืมไม่ได้
จากนั้น ได้เดินขบวนต่อไปยังแยกราชประสงค์ เพื่อทำกิจกรรม
โดย อัลเจลโลว์ สาธร หนึ่งในแกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เปิดเผยถึงการทำกิจกรรมในวันนี้ว่า การทำกิจกรรทในวันนี้เพื่อมากดดันพรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่เริ่มเห็นสัญญานการจับมือกับฝ่ายเผด็จการ จึงต้องออกมากดดันเพื่อให้พวกเขาเห็นว่าฝ่ายเผด็จการเคจทำอะไรกับฝ่ายประชาธิปไตยไว้บ้าง และวันนี้ที่เลือกเส้นทางจาก แยกปทุมวัน ไป แยกราชประสงค์ เพื่อจะได้ผ่านวัดปทุมวนารามฯ และจะใช้โอกาสนี้ในการรำลึกถึงคนเสื้อแดงปีที่เสียชีวิตจากการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเมื่อปี 2553 และอยากเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทย คิดถึงวีรกรรมของฝ่ายเผด็จการ รวมถึงหันมามือกับก้าวไกล และหันไปจับมือกับ8พรรคร่วมเช่นกัน
ส่วนการทำกิจกรรมการส่องไฟนั้น ต้องการจะสื่อว่า ในตอนนี้พรรคการเมืองเสียอุดมการณ์ที่สัญญาไว้กับประชาชน เริ่มลืมสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน จึงถึงเวลาของแนววร่วมจะต้องมาค้นหาความจริงว่าทำไมสถานการณ์ถึงเปลี่ยนไป เพราะพรรคเพื่อไทยเรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยมาโดยตลอดทั้งปี 49 และ ปี57 น่าจะเข้าใจการอยู่ภายใต้เผด็จการ แต่ดูเหมือนพรรคเพื่อไทยจะลืมทุกอย่าง ทั้งนี้ก็ยังมีความหวังให้พรรคเพื่อไทยเปลี่ยนใจ ก่อนวันโหวตนายกรัฐมนตรีก็อยากจะมีโอกาสได้พูดคุยและทำกิจกรรมเพื่อกดดันพรรคเพื่อไทย
ส่วนถ้าหากพรรคเพื่อไทยยังยืนยันจับมือกับเผด็จการ จะยกระดับการชุมนุมอย่างไรบ้างนั้น ยังตอบไม่ได้ว่าจะยกระดับอย่างไร แต่เชื่อว่าจะมีผู้ชุมนุมออแกนิกจากคนที่รับไม่ได้แน่นอน
เมื่อถามว่า ดูแล้วเหมือนจะไม่มีทางที่พรรคเพื่อไทยไม่กลับมาจับมือกับก้าวไกลและ8พรรคร่วมนั้น จะเคลื่อนไหวอย่างไร อัลเจลโลว์ บอกว่า จนกว่าจะได้นายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น ก็จะยังคงกดดันต่อไป พร้อมย้ำว่า ถ้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็จะยกระดับการชุมนุม แต่ยังไม่ได้กำหนดรูปแบบของกิจกรรม แต่ยืนยันว่าจะยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนวันโหวตนายกจะไปเคลื่อนไหวหรือไม่ ให้รอติดตามการนัดหมายอีกครั้ง
นายแอลเจโล ยังกล่าวถึงกรณีทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมการเมือง ถูกบุคคลปริศนาใช้ก้อนหินขนาดใหญ่โยน/ทุบใส่บริเวณกระจกหน้ารถว่ายังไม่มีโอกาสได้คุย ยอมรับมีความเป็นห่วงเพราะเป็นเพื่อนร่วมต่อสู้ มองว่าเป็นการคุกคาม ทำลายทรัพย์สิน กลัวจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ และอาจรุนแรงมากกว่านี้ เพราะเคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นในการชุมนุมครั้งอื่นๆ
ทั้งนี้ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า จากการเลือกตั้ง 14 พ.ค.ประชาชนเลือกยืนอยู่ข้างประชาธิปไตย แต่เมื่อพรรคเพื่อไทย และพรรคฝ่ายประชาธิปไตยอื่นๆ เริ่มมีแนวโน้มที่จะตระบัตสัตย์ หักหลังประชาชนจากคำพูดที่ว่า “มีเรา ไม่มีลุง” ได้กลายเป็นเพียงเทคนิคการหาเสียง สังคมก็ได้เริ่มตั้งคำถามว่า อะไรกันทำให้ฝ่ายประชาธิปไตยหน้ามืดตามัว จนลืมสิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นทำไว้กับประชาชน ทั้งสถายการณ์โควิด /ผู้เสียชีวิต99ศพจากเหตุสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ปี53 /การจับกุมเยาวชนที่เรียกร่องประชาธิปไตย ล้วนเป็นการกระทำจากฝ่ายเผด็จการ
ดังนั้น กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และ กลุ่มเสรีมวลชนเพื่อสังคม จึง เห็นว่า ถึงเวลาแล้วของประชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ที่จะออกมาอีกครั้งและร่วมกัน ส่องแสงสว่างให้ถึงหัวใจของสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพื่อเรียกขานมโนธรรม ความยึดมั่นในจิตวิญญาณประชาธิปไตย และคำสัญญาที่ให้ไว้แก่ประชาชน ด้วยความหวังที่ต้อง การให้ 8 พรรคฝ่ายประชาธิปไตยเดิม กลับมาจับมือกันอีกครั้ง เพื่อลบล้างผลพวงรัฐประหารทั้งหมด พร้อมทั้งยังเชิญชวน มวลชน มาร่วมกัน ทำแคมเปญส่องไฟให้ทางประซาธิปไตย ด้วยการร่วมกันทำกิจกรรม รวมตัวส่องไฟฉาย ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยทุกสาขา หรือสถานที่สาธารณะต่าง ๆ จนกว่าจิตวิญญาณประชาธิปไตยจะหวนกลับคืนสู่พรรคเพื่อไทย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnew