“เอกนัฏ” มติ รทสช.มอบอำนาจหัวหน้าเคาะ3คนนั่งรมต.
“เอกนัฏ” มติ รทสช.มอบอำนาจหัวหน้าเคาะ3 รัฐมนตรี “พีระพันธุ์” นั่งรองนายกฯควบพลังงาน รับมีคนนอกนั่งช่วยคลัง ต้องใช้ความรู้ความสามานถเฉพาะตัว ชี้พรรคไม่มีขัดแย้งแตกแยก ขณะ “กฤษฎา” โผ รมช.คลัง เพื่อไทยโผล่ที่ทำการพรรค
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาบุคคลจากที่จะดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี ว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ได้นำร่างหลักเกณฑ์
ให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณา ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์เข้าทั่วไปว่าผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติต้องมีคุณสมบัติอย่างไร โดยที่ประชุมพรรคมีมติ ว่าในส่วนของตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงพลังงาน ให้นายพีระพันธุ์ เป็นผู้ดำรงตำแหน่ง ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้อำนาจให้อำนาจนายพีระพันธุ์ไปพิจารณาตามหลักเกณฑ์ และส่งชื่อให้กับพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนที่มีรายชื่อปรากฏออกมาตามหน้าสื่อฯ ใช่แคนดิเดต รัฐมนตรีของพรรคหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ก็คงเป็นการคาดการณ์ไป ขณะเดียวกันยังกล่าวย้ำว่าไม่มีคำว่าโควตา ในหลักเกณฑ์ที่พิจารณาไปแล้วเราให้ความเป็นธรรมกับสส.ทุกคนทุกพื้นที่ อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นความอาวุโสความเหมาะสมประสบการณ์และความสามารถ ประกอบกับการทุ่มเททำงาน เพื่อประชาชนเป็นหลักเกณฑ์ที่เราวางไว้ โดยหัวหน้าพรรคจะเป็นผู้นำไปพิจารณา
เมื่อถามว่าจะมีรายชื่อคนนอกเป็นรัฐมนตรีหรือไม่นายเอกนัฏ กล่าวว่ามีได้ เพราะบางตำแหน่งเช่นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อาจจะต้องมีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน ซึ่งก็มอบอำนาจให้หัวหน้าพรรค
ไปแล้วว่าสามารถพิจารณาคนนอกได้ ส่วนจะเป็นคนนอกหรือคนในก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของหัวหน้าพรรค
ส่วนจะสามารถส่งรายชื่อให้พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้เมื่อใด นายเอกนัฏกล่าวว่า จริงๆแล้วหลักเกณฑ์อนุมัติไปแล้ว ขณะนี้อาจจะพิจารณาอยู่ ไม่นานก็คงรู้แล้ว
เมื่อถามย้ำว่าจะสามารถส่งรายชื่อให้พระแกนนำจะต้องรัฐบาลในคืนนี้ได้เลยหรือไม่ในเอกนัฏ กล่าวว่า ก็มีความเป็นไปได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ามีอดีตนายแบงค์เป็นคนนอกด้วยหรือไม่ นายเอกณัฐหัวเราะก่อนที่จะบอกว่าให้ไปถามนายพีระพันธุ์ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคเอง
ขณะเดียวกันนายเอกนัฏ ยังยืนยันถึงกระแสข่าวที่ก่อนหน้านี้มีรายชื่อ หม่อมหลวงหม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร และนางสาวพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และไม่รับตำแหน่ง นางเอกนัฏ กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่รับ
แต่จริงๆ ยังไม่เคยมีการพิจารณา หรือส่งชื่อไปก่อนหน้านี้ ดังนั้น ข่าวที่ออกมา ก่อนหน้านี้ เป็นการคาดการณ์เท่านั้น รวมถึงที่บอกว่าส่งไปแล้วดึงกลับมาใหม่ เคาะแล้วไม่เป็นความจริง ชื่อที่จะถูกพิจารณาก็มีเพียงครั้งเดียว และส่งเพียงครั้งเดียวไม่มีการดึงกลับ
ขณะเดียวกัน นายเอกนัฏ ยังระบุอีกว่าที่ประชุมไม่ได้มีการโหวต แต่มอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคพิจารณา โดยตามข้อบังคับให้สมาชิกสามารถเสนอชื่อ แต่เมื่อเสนอชื่อมาแล้วเป็นอำนาจของกรรมการบริหารพรรค ที่จะมีมติให้หัวหน้าไปพิจารณา
ขณะเดียวกันไม่มีความขัดแย้งภายในพรรค? ในการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี? โดยเข้าใจว่า?นักการเมืองทุกคนก็คงอยากเป็นรัฐมนตรี? และมีคนที่อยากเป็นมากกว่าตำแหน่งที่ได้ แต่เราให้โอกาส สส.เขต ซึ่งขณะนี้ได้มีการสื่อสารถึงสส.
และแก่นนำทุกคน การพิจารณาจะพิจารณาด้วยความเป็นธรรม ทุกคนเข้าใจได้ อยากเป็นไม่ได้เป็น ผิดหวัง เท่าที่ได้พูดคุยกับทุกคน แม้กระทั่งกับคนที่มีข่าวไปก่อนหน้าว่าจะมีปัญหา? ทุกคนยืนยันกลับมาเหมือนกันหมดว่าจะทำงานต่อให้กับพรรคก็หวังจะทำให้พรรคเติบโตไปเรื่อยๆ และในอนาคตถ้าพรรคเติบโต เราประสบความสำเร็จ เราก็จะมีตำแหน่งมากขึ้น
นายเอกนัฏยังชี้แจงเหตุผลว่า หากจะเอาคนนอกไม่ใช่เพราะคนในพรรคไม่มีคุณสมบัติ แต่ดูจากความเหมาะสมต้องดูภาพรวม เป็นไปได้ เราจะให้ความสัมพันธ์กันกับสส. ภายในพรรค โดยเฉพาะ สส.เขต แต่ก็ต้องดูสถานการณ์ภาพรวมด้วยรัฐบาลนโยบายเป็นอย่างไร ซึ่งเราพยายามจะผลักดันนโยบาย ตำแหน่งไม่ใช่การตอบแทน สส. ดังนั้น จึงต้องเลือกเอาคนที่มีคุณสมบัติเป็นพิเศษ มาดำรงตำแหน่งเพื่อจะผลักดันนโยบายของพรรค ซึ่งเชื่อว่าในที่สุด 4 คน ก็จะมีความสมดุลซึ่งมีทั้ง สส.ผู้บริหารพรรค กระจายตามเพศ ตามภูมิภาค ตลอดจนถึงความรู้ความสามารถซึ่งบางส่วนต้องดึงคนนอกเข้ามา พร้อมกล่าวย้ำว่า ภายในพรรคไม่มีความแตกแยก
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า ในรายชื่อของสัดส่วนรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังเป็นไปตามเดิม ประกอบด้วย 1 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐทวิภาค ดำรงตำแหน่งเป็นรองหัวนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 2. นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ว่าการอุตสาหกรรม 3. นายอนุชานา คาศัยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ4. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเป็นโควต้าคนนอก ซึ่งในการประชุมวันนี้ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง ซึ่งระหว่างการพิจารณามีเพียงนายเอกนัฏ และนายพีระพันธุ์ รู้เพียง 2 คนเท่านั้น
ขณะเดียวกันนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ปรากฏที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยนายกฤษณะมีสีหน้าที่ตกใจเมื่อพบกับผู้สื่อข่าว
ที่อยู่ระหว่างการพิมพ์ข่าวของนายเอกนัฏ โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าเดินทางมาทำอะไร นายกฤษฎา กล่าวว่า มาพบนายพีระพันธุ์ ก่อนที่เลขาส่วนตัวนายพีระพันธ์มารับเพื่อขึ้นไปพบด้านบน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews