“บุญสิงห์” ย้ำชัด พปชร.ก้าวข้ามขัดแย้ง-ไร้ปัญหาแย่งเก้าอี้
“บุญสิงห์”ย้ำชัด พปชร.ชัดเจน ก้าวข้ามขัดแย้งเดินหน้าประเทศ ไม่มีความขัดแย้งในการจัดสรรเก้าอี้ตำแหน่งรัฐมนตรี
นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันการจัดตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ มีความชัดเจนตั้งแต่หาเสียงว่า จะต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง เพราะหากมีความขัดแย้งกัน การเดินหน้าประเทศจะลำบาก ดังนั้น การจัดคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลครั้งนี้ ถือเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่ก้าวข้ามความขัดแย้ง และเป็นนโยบายของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ และรู้สึกดีใจที่บ้านเมืองเดินหน้าได้ พร้อมย้ำว่า รายชื่อบุคคลของพรรคฯ ที่จะไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตีในรัฐบาลนั้น
พลเอกประวิตร ได้พิจารณา และตัดสินใจแล้วให้เป็นไปตามที่คาดหวัง ซึ่งสาเหตุที่พลเอกประวิตร ไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี นายบุญสิงห์ ชี้แจงว่า เนื่องจากพลเอกประวิตร เป็นผู้ใหญ่ จึงสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ คนรุ่นหลังเข้ามาทำหน้าที่ เพราะพลเอกประวิตร เป็นผู้ใหญ่ใจดี และให้โอกาสทุกคน และยืนยันว่า บทบาทพลเอกประวิตร ยังคงอยู่ร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ และเป็นเสาหลักของพรรคฯ
นายบุญสิงห์ ยังย้ำด้วยว่า พรรคพลังประชารัฐ ไม่มีความขัดแย้งในการจัดสรรเก้าอี้ตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะพลเอกประวิตร ดูแลทุกอย่างในพรรคเป็นอย่างดี ให้ทุกคนมีบทบาท และมีหน้าที่
ขณะเดียวกัน นายบุญสิงห์ ยังปฏิเสธที่จะกล่าวถึงกรณีที่มีการประเมินรัฐบาลนายเศรษฐา อาจจะอายุสั้น อยู่ในครบวาระ 4 ปี โดยไม่ขอการันตีเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะต้องให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้การันตี และพูดคุยกันในคณะรัฐมนตรี เพื่อนำรัฐนาวาถึงฝั่ง แต่พรรคพลังประชารัฐ มีความชัดเจนในการก้าวข้ามความขัดแย้งอยู่แล้ว และอายุของรัฐบาล ก็ต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
แต่สุดท้ายก็จะต้องเดินไปสู่เป้าหมายเดียวกันให้บ้านเมืองเดินหน้า ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี และต้องให้โอกาสรัฐมนตรี ที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ได้ทำงาน พร้อมยอมรับว่า มีความเป็นห่วงการพิจารณาพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ที่ล่าช้าของสภาผู้แทนราษฎร ที่จะไม่ทันประกาศใช้ภายใน 1 ตุลาคมนี้ เพราะงบประมาณรัฐบาล มีส่วนสำคัญในการนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ หากร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะเลขาธิการพรรคฯ ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะทำให้นโยบายด้านการเกษตรของพรรคฯ ถูกนำไปปฏิบัติได้มากขึ้นหรือไม่นั้น นายบุญสิงห์ ระบุว่า พรรคการเมืองทุกพรรค เมื่อตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลแล้ว ถือมีความสำคัญเท่ากันทุกพรรค และจะต้องนำนโยบายของทุกพรรคเข้ามารวมเป็นนโยบายรัฐบาล แต่พรรคพลังประชารัฐ ก็มีคณะทำงานในการเตรียมนโยบาย จัดกลุ่มแยกหมวดหมู่นโยบาย เพื่อเสนอให้รัฐบาล กำหนดไว้ในนโยบายรัฐบาลที่จะต้องแถลงต่อรัฐสภา
นอกจากนี้ นายบุญสิงห์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ ยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐว่า ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งกับร้อยเอกธรรมนัส เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พลเอกวิชญ์ เป็นน้องรักของพลเอกประวิตร และได้รับการมอบหมายให้ดูแลงานด้านกีฬาของพรรค และเชื่อว่า การลาออกของพลเอกวิชญ์นั้น เป็นการลาออกไป เพื่อได้ทำงานที่ถนัดมากกว่า
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews