Home
|
ข่าว

นายกฯลุกแจงสภาฯครั้งแรกยันแก้รธน.ไม่แตะหมวด 1-2

Featured Image
นายกฯ ลุกแจงสภาฯครั้งแรกหลังฝ่ายค้านสับนโยบายรบ. ยันแก้รธน.ไม่แตะหมวด1-2 บอก บอกพักหนี้เกษตรกรครั้งนี้ไม่เหมือนยุค 9 ปีที่ผ่านมา รายได้ต้องเพิ่ม 3 เท่า ใน 4 ปี ลั่นไม่ยกเลิกรัศมี 4 กม.เงินดิจิทัล หวังช่วยกระตุ้นคนกลับบ้าน

 

 

 

การประชุมรัฐสภาเพื่อแถลงนโยบายรัฐบาล ล่าสุด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจงครั้งแรก โดยได้กล่าวขอบคุณทุกความเห็นของสมาชิกรัฐสภา ที่มอบให้กับรัฐบาลในวันนี้ในการดำเนินนโยบายรัฐบาลจะคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และประชาชนของรัฐบาลนี้จะครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มทั้งคนเมือง คนต่างจังหวัด คนทุกฐานะภาคเอกชน ข้าราชการอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง

 

 

ทั้งนี้ตนขอชี้แจงให้ชัดเจนถึงนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่ารัฐบาลจะไม่แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ จะดำรงไว้ซึ่งการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ส่วนการพักหนี้ของเกษตรกร ซึ่งใน 9 ปีที่ผ่านมามีการพักหนี้ไปแล้ว 13 ครั้ง และถูกต้องที่สมาชิกหลายคนว่าระบุว่าการพักหนี้ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

 

 

ซึ่งรัฐบาลตระหนักดีในเรื่องนี้จึงมีมาตรการหลายอย่างเพื่อเพิ่มรายได้ เช่น การทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายใน 4 ปี ด้วยการใช้ตลาดนำนวัตกรรมเสริม ควบคู่ไปกับการพักหนี้เพื่อให้เกษตรกรสามารถพักหายใจได้ ลืมตาอ้าปากได้ และมีกำลังใจในการกลับมาแก้ไขปัญหาประกอบอาชีพอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี จึงเชื่อว่าการพักหนี้ในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์มากกว่าการพักหนี้ใน 9 ปีที่ผ่านมา

 

 

ส่วนเงื่อนไขการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทในระยะทาง 4 ตารางกิโลเมตร รัฐบาลตระหนักดีว่าในพื้นที่ชนบทอาจจะมีร้านค้าไม่เพียงพอ จึงขอกลับไปดูในรายละเอียดที่เหมาะสมอีกครั้งตามคำแนะนำของสมาชิก ส่วนระยะเวลาในการใช้เงิน 6 เดือนถือว่าจำเป็น เพราะต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ มีบางคน เสนอ ให้ยกเลิกเงื่อนไข 4 ตารางกิโลเมตร ตนอยากย้ำว่า เศรษฐกิจภูมิภาคต้องการการกระตุ้น ดังนั้นใครมีถิ่นฐานอยู่ที่จังหวัดใดจึงควรกลับไปใช้ที่นั่น มีเวลา 6 เดือน สามารถกลับไปเยี่ยมญาติพี่น้องทำให้สถาบันครอบครัวเข้มแข็งขึ้นก็ถือเป็นเรื่องที่ดี

 

 

นอกจากนี้รัฐบาลจะผลักดันให้มีการท่องเที่ยวมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว เพื่อนำเงินเข้ามาในประเทศทำให้การท่องเที่ยวของประเทศเติบโตอีกครั้งโดยตั้งเป้ารายได้ 3 ล้านล้านบาทต่อปี

 

 

ส่วนคำถามเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ตนเห็นว่าสมควรได้รับการปรับขึ้นโดยเร็วที่สุดซึ่งตั้งเป้าหมายว่า จะทำให้เศรษฐกิจโต ปีละ 5% ตลอด 4 ปีจะทำให้ค่าแรงขึ้นไปได้ถึง 600 บาทต่อวัน และปริญญาตรี เริ่มต้นที่ 25,000 บาทต่อเดือน / ปัญหาเรื่องค่าพลังงานเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสำคัญอย่างยิ่ง และรัฐบาลก็เห็นว่าการลดค่าใช้จ่ายเรื่องพลังงานมีความสำคัญและมั่นใจว่ารัฐบาลจะทำให้ค่าพลังงานต่ำลงอย่างมีนัยยะสำคัญได้ / ส่วนคำถามเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ยืนยันว่ายังคงมีอยู่

 

 

ส่วนปัญหาเรื่องทรัพยากรธรรมชาติเช่นการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชนไปสร้างประโยชน์ทำมาหากินได้ ไม่ว่าจะเป็นสปก. หรือที่ดินของหน่วยงานอื่นๆผ่านรูปแบบที่เหมาะสม ทำให้ประชาชนมีที่ดินทำกินอย่างมีศักดิ์ศรี การบริหารจัดการเรื่องน้ำให้เหมาะสม ระหว่างภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และการอุปโภคบริโภค การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งอีก 5 เดือนก็จะเข้าสู่ช่วงวิกฤตของภาคเหนืออีกครั้ง รัฐบาลจึงจะเร่งทำโดยเร็วเพื่อให้เกิดผลในต้นปี โดยจะเริ่มต้นจากโครงการที่ไม่ต้องใช้งบประมาณมาก เป็นไปตามขีดจำกัดของงบประมาณที่สามารถทำได้

 

 

พร้อมกันนี้นายเศรษฐา ได้เน้นย้ำถึงปัญหาการทุจริต ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความโปร่งใส โดยจะนำระบบดิจิทัลมาใช้ให้มากขึ้น เพื่อลดการทุจริตและประพฤติมิชอบ

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube