“ปานปรีย์” เตรียมเชิญทูตรับนโยบาย วางแผนลงพื้นที่รับฟังปัญหาชายแดน หลังร่วมเวที UN พร้อมยืนยันไทยให้ความสำคัญกับการทูตเชิงมนุษยธรรม ยึดกลไกอาเซียนแก้ปัญหาเมียนมา
นายปานปรีย์ พหิทธนานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยในงานพบปะสื่อมวลชนที่ห้องบัวแก้ว กระทรวงการต่างประเทศ ว่าได้มอบนโยบายให้กับข้าราชระดับสูง กระทรวงการต่างประเทศ โดยเน้นย้ำให้ข้าราชการทำการบ้านเพิ่มเติมในเรื่องเศรษฐกิจ ความมั่นคง และเทคโนโลยี
นอกจากนี้ยังเชิญเอกอัครราชทูตไทยประจำต่างประเทศกลับมาที่ไทย เพื่อพบปะและมอบนโยบาย 3 ข้อทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ความมั่นคง และเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อประเทศไทย พร้อมทั้งให้กระทรวงการต่างประเทศช่วยวางยุทธศาสตร์ให้ข้าราชการที่ทำงานในต่างประเทศด้วย
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า ภายใต้การบริหารราชการของนายกรัฐมนตรี จะนำพาประเทศไทยให้กลับมามีบทบาทในเวทีโลกได้มากขึ้น โดยต้องอาศัยความร่วมมือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง บูรณาการกับกระทรวงอื่น และประชาชน
ขณะเดียวกัน มีโครงการที่จะไปใกล้ชิดกับประชาชนมากขึ้น หลังไปเยือนสหรัฐอเมริกากับนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า จะลงพื้นที่ชายแดนปราจีนบุรีเพื่อรับฟังปัญหาการค้าขาย บุคคลข้ามแดน และปัญหาอื่น ๆ จากนั้นจะไปเยือนประเทศกัมพูชา และนำเรื่องนี้ไปเจรจาระหว่างประเทศต่อไป
ส่วนสถานการณ์ของเมียนมาว่าถือเป็นปัญหาภายในที่ควรได้รับการแก้ไขตามกระบวนการภายในของเขา และตามกลไกของอาเซียน เราไม่ควรละเลยอาเซียน เพราะอาเซียนยังมีเอกภาพอยู่ โดยรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรียังคงยึดถือ 5 ฉันทามติร่วมของอาเซียน
สำหรับปัญหาที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากเมียนมา เช่น การปราบปรามยาเสพติด และการลักลอบข้ามแดน เป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลต้องไปพูดคุยกัน แต่ปัญหาภายในเมียนมา ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับประชาธิปไตย เรียกร้องให้ปล่อยนางอองซาน ซูจี อดีตที่ปรึกษาแห่งรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมา และการลดความขัดแย้งภายในประเทศ เป็นเรื่องที่เมียนมาต้องสะสาง จัดการให้เร็วที่สุด ส่วนไทยก็จะหารือร่วมกับอาเซียน เพื่อช่วยให้เกิดสันติภาพในเมียนมาโดยเร็วที่สุด
ขณะการพูดคุยกับเมียนมานอกรอบที่ไม่ได้อยู่ในกรอบอาเซียนเหมือนรัฐบาลชุดก่อน หากมีความจำเป็น จะต้องพิจารณาร่วมกับอาเซียนก่อน ซึ่งสามารถประชุมผ่านออนไลน์ได้ ไม่ใช่เรื่องยากหากไทยจะหารือกับอาเซียนก่อนที่จะมีการพูดคุยกับเมียนมา แต่ถ้าเป็นเรื่องชายแดน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งไทยและเมียนมามีการเจรจากันอยู่แล้ว
นายปานปรีย์ ยังกล่าวถึงการทูตเชิงมนุษยธรรมว่า เป็นเรื่องที่ไทยทำอยู่แล้ว แนวทางของอาเซียนทำอยู่แล้ว เราต้องสนับสนุนแนวทางของอาเซียน ดังนั้นเรื่องประชาธิปไตย การส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ และสิทธิมนุษยชน ประเทศไทยสนับสนุนอยู่แล้วไม่มีปัญหา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews