ร้านค้ายังมองมาตรการลดดีเซล ค่าไฟ ยังไม่ช่วยอะไร
ผู้ค้าข้าวสาร -ไก่สด เนื้อหมู ยังมองมาตรการลดดีเซล ค่าไฟ ไม่ช่วยอะไร ยอดขายลดลงต่อเนื่อง หวัง ดิจิทัล วอลเล็ต 1 หมื่น จะเป็นจริงฟื้นเศรษฐกิจได้
บรรยากาศการจับจ่ายซื้อของ ที่ ตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนเดินทางมาซื้อของอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้ามืด แต่จากการสำรวจและสอบถามความเห็นผู้ประกอบการร้านค้า และพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ได้สะท้อนถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเพื่อไทย
ที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยกำหนดให้ราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร และราคาไฟฟ้าเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย มีผลรอบบิลนี้ (ก.ย.2566) ทันที จะช่วยแบ่งเบาภาระของประชาชน และต้นทุนสินค้าลดลง ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ ก็มีคำสั่งให้กรมการค้าภายในดูแลเรื่องการลดราคาสินค้าที่มีผลกระทบต่อค่าของชีพของประชาชนภายใน 15 วัน หลังรัฐบาลลดราคาน้ำมันดีเซลไปแล้ว และเดินหน้าพูดคุยผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อช่วยลดค่าครองชีพต่อไป
อย่างร้านข้าวสาร มองว่า มาตรการที่ออกยังไม่ช่วยทำให้ราคาข้าวในร้านค้าปลีกลดลง และไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เนื่องจากส่วนใหญ่มีขนส่งและสต๊อกข้าวไว้ก่อนที่รัฐบาลนี้จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมา อีกอย่างการจับจ่ายซื้อของประชาชนลดลงมากเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือนแล้ว
อาจเป็นเพราะประชาชนไม่มีกำลังจ่าย ค่าครองชีพสูงขึ้น จึงต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด ทั้งนี้ ขอฝากให้รัฐเร่งแก้ปัญหาในส่วนนี้โดยเร็ว พร้อมเชื่อว่า หากมีนโยบายกระเป๋าเงินดิจิตอล Wallet 10,000 บาท ออกมา ก็จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นมาได้ และทางร้านก็พร้อมลงทะเบียนเพื่อรองรับการใช้จ่ายของประชาชน
ขณะที่ร้านค้าไก่สด และหมูสด ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตั้งแต่ช่วงเลือกตั้งมาประชาชนไม่ค่อยใช้จ่าย ยอดขายลดลงต่อเนื่อง โดยออเดอร์จากร้านอาหารต่างๆ ที่เป็นลูกค้าประจำลดลง เพราะขายไม่ดีเช่นกัน แต่ยังคงมีความหวังว่า เมื่อมีรัฐบาลใหม่แล้วจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ส่วนเรื่องนโยบายกระเป๋าเงินดิจิตอล Wallet 10,000 บาท นั้น มองว่า มีความซับซ้อน ทั้งเงื่อนไข และการใช้จ่าย ที่ยังไม่มีความชัดเจน และอาจมีผลกระทบกับผู้ที่ไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟน รวมถึงผู้สูงอายุ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews