“ปดิพัทธ์” รอคุยก้าวไกล เคลียร์ตำแหน่ง ชี้การตัดสินใจทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่ตัวเอง ต้องฟังพรรค รอฟังจากปากหัวหน้า เรื่องขับออกเก็บไว้ทั้ง 2 เก้าอี้
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล มีมติรับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน มีการนัดหารือกันกับตนเองแล้วหรือยัง ซึ่งตามกฎหมายแล้วจะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ว่า ยังไม่มีการนัดอย่างเป็นทางการ แค่รับทราบว่ามีการประชุมกันในเรื่องนี้ ตนคิดว่าการตัดสินใจทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่ส่วนตัวของตนเอง จะต้องฟังกับทางพรรคก่อน เพราะตอนนี้ตนยังเป็นสมาชิกของพรรคอยู่ ถ้ากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่มีมติอย่างไรก็คงจะมีการพูดคุยกันอีกที
“เพราะเราไม่ได้ตัดสินใจทุกอย่างตามอำเภอใจ ทุกอย่างตัดสินใจตามมติของพรรค และข้อจำกัดในรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นต้องหารือกันว่าในทิศทางไหนดีที่สุดให้กับประเทศ ไม่ใช่ดีที่สุดแค่ตัวของผมเอง ผมถึงบอกว่าการตัดสินใจในเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องของตัวผมเอง แต่เป็นการตัดสินใจด้วยการที่เราจะสะท้อนเสียงของประชาชนให้ได้มากที่สุด และมีผลกับประเทศให้ได้มากที่สุด”นายปดิพัทธ์ กล่าว
กระแสข่าวที่พรรคก้าวไกลจะมีการเก็บเก้าอี้ ทั้ง 2 ตำแหน่ง ด้วยการยะขับนายปดิพัทธ์ออกจากพรรคก้าวไกล เพื่อรักษาเก้าอี้รองประธานสภาไว้ นายปดิพัทธ์ ระบุว่า เรื่องนี้ตนขอฟังจากปากของหัวหน้าพรรคคนใหม่ก่อน ตนคิดว่าการตัดสินใจทั้งหมด ไม่ได้เป็นการตัดสินใจด้วยความกดดันหรือไร้ทางเลือก แต่เป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานที่ว่าเราจะขับเคลื่อนสิ่งที่สัญญากับประชาชนไว้ได้อย่างไร คงจะมีการคุยกันในเร็วๆนี้
ส่วนตัวแล้วตนคิดว่างานหลายอย่างเสร็จไปแล้ว แต่อีกหลายอย่างต้องใช้เวลา โดยเฉพาะต้องทำหลังจากที่ส่งมอบให้กับสภาเสร็จ ตนคิดว่าคงต้องมีงานระยะยาวที่ตนฝันอยากเห็นที่จะขับเคลื่อนให้รัฐสภาโปร่งใสมีประสิทธิภาพและเป็นของประชาชนได้ ถ้าถามว่างั้นระยะสั้นมีผลไปแล้วไหมก็มี
เมื่อถามว่าถ้าไม่ตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็จะไม่สามารถทำให้พรรคก้าวไกลเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนต้องคุยกับทางพรรคจริงๆ ถ้าตนไม่ยอมตัดสินใจตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านก็ตั้งขึ้นไม่ได้ ซึ่งผลดีผลเสียจะเป็นอย่างไร ต้องมาวิเคราะห์ร่วมกันช่วยตัดสินใจร่วมกัน
นายปดิพัทธ์ กล่าวด้วยว่า ในการตัดสินใจของตนนั้นไม่มีแรงกดดันใดๆ ทั้งสิ้น แม้มีตัวแทนของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ระบุให้พรรคก้าวไกลเลือกเพียงตำแหน่งเดียว ซึ่งตนไม่คิดว่าเป็นแรงกดดัน อีกทั้งในการตัดสินใจไม่ได้ยึดที่ผลประโยชน์ของตนที่จะได้รับ แต่คือ ประโยชน์ของประเทศและประชาชน
เมื่อถามถึงไทม์ไลน์ของการตัดสินใจจะมีเวลาถึงเทอมหน้าของสมัยประชุมสภาฯหรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า “ไทม์ไลน์ทั้งหมดอยู่ที่พรรคก้าวไกล อย่างไรก็ดีหากผมไม่ยอมตัดสินใจ ผู้นำฝ่ายค้านก็ตั้งไม่ได้ ดังนั้นในการพบปะต้องอภิปรายรายละเอียดกัน”
นายปดิพัทธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับตนนั้นในการที่ได้ทำตำแหน่งนี้ ตนได้เห็นพัฒนาการ เห็นงานที่เราสามารถทำได้ และดีกับประเทศด้วย อย่างที่เราบอกว่าเราอยากเห็นสภาที่โปร่งใส ไม่ใช่ตัวตนได้ประโยชน์แต่เป็นประเทศได้ประโยชน์ ถามว่าอยากดำรงตำแหน่งอยู่ไหมตนก็อยาก แต่ว่าทำได้ไม่ได้อยู่ที่ข้อจำกัดต่างๆก็คุยกันอีกที
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
