แรงงานไทยในอิสราเอลล็อตแรกถึงปท.ปลอดภัย

แรงงานไทยล็อตแรก เดินทางกลับประเทศไทยแล้วอย่างปลอดภัย ด้าน นายปานปรีย์ ย้ำ รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ เร่งช่วยเหลือคนไทยที่ยังติดค้างในพื้นที่เสี่ยง เผยมีแผนอพยพนำแรงงานไปประเทศข้างเคียงเพื่อความปลอดภัยก่อนทยอยกลับไทย

 

 

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันแถลงข่าวการนำแรงงานไทยที่ทำงานในประเทศอิสราเอลกลับสู่ประเทศไทย

 

 

โดยนายปานปรีย์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงและได้มอบหมายตนเองและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาดูแล โดยวันนี้มีคนไทยเดินทางกลับมาทั้งหมด 41 คน โดยแบ่ง เป็นแรงงานไทยที่ลงทะเบียนกับกระทรวงการต่างประเทศ 15 คน และ จองตั๋วกลับเองจำนวน 26 คน เดินทางกลับมาประเทศไทยด้วยความปลอดภัย รัฐบาลไทยไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามให้ประชาชนที่เหลืออยู่ในอิสราเอลที่ได้ลงทะเบียนความจำนงที่จะกลับประเทศกลับเข้าสู่ประเทศไทยได้โดยเร็วที่สุด

 

 

เพราะการอยู่ที่ประเทศอิสราเอลเวลานี้ลำบากมากโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของไทยได้ทำงานอย่างแข็งขัน ขอให้ประชาชนชาวไทยกลับบ้านโดยเร็วที่สุด โดยมีคนลงทะเบียนแล้ว 5,990 คน ซึ่งคนไทยกระจัดกระจายในหลายพื้นที่ในประเทศอิสราเอล โดยได้มีการประสานงานกับสายการบินพาณิชย์หลายแห่ง ทุกสายการบินให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง และได้ประสานประเทศข้างเคียงนำคนไทยออกมาเพื่อให้ได้รับความปลอดภัยก่อนที่จะนำกลับมาสู่ประเทศไทย

 

 

ส่วนการนำร่างผู้เสียชีวิตกลับมาที่ประเทศไทยนั้น นายปานปรีย์ กล่าวว่า ได้ประสานเอกอัครราชฑูตไทยประจำอิสราเอล พยายามติดตามและรัฐบาลต้องเร่งดำเนินการนำร่างผู้เสียชีวิตกลับมา เพื่อให้ญาติได้ทำพิธี ซึ่งการลำเลียงนั้นหากเครื่องบินของกองทัพสามารถไปได้ก็จะลำเรียงร่างผู้เสียชีวิตกลับมาได้ โดยเส้นทางภายในประเทศอิสราเอลนั้นมีความยากลำบาก ซึ่งจะได้กำชับเอกอัครราชทูตทำงานนำร่างส่งกลับมาประเทศไทยให้โดยเร็วที่สุด

 

 

สำหรับแผนการเคลื่อนย้าย คนไทยที่ยังคงอยู่ที่ประเทศอิสราเอล นายปานปรีย์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีปัญหาอุปสรรคจึงต้องอาศัยเครื่องบินของทางอิสราเอลในการเครื่องย้ายกลับมาก่อน และจะมีมาเพิ่มอีก แต่เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ลงทะเบียนจะกลับประเทศยังไม่เพียงพอ โดยในวันนี้จะมีการประชุมแผนการเคลื่อนย้าย ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมประชุมด้วย

 

 

ทางด้านตัวแทนแรงงานไทย กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิตที่เป็นต่างชาติ ทางการอิสราเอลจะนำร่างใส่ถุง แยกไว้ต่างหากจากของประเทศอิสราเอล โดยยังไม่มีการเคลื่อนย้าย ต้องรอการพิสูจน์ตัวตน เพราะในวันที่เกิดเหตุไม่มีใครพกเอกสารติดตัว

 

 

ด้านนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมได้หารือกับกระทรวงการต่างประเทศ ว่าคนที่อยากกลับประเทศมีมากขึ้น แต่เครื่องบินพาณิชย์ ที่จะไปรับคงไม่เพียงพอ จึงได้หารือ อาจจะมีแผนที่สองคือใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศนำคนไทยออกจากพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงมาไว้ที่ประเทศข้างเคียงก่อน คือ ดูไบ หลังจากนั้นเมื่อพ้นอันตรายแล้วจะลำเลียงกลับบ้านอีกครั้ง คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ทันที

 

 

ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงแรงงานขอชี้แจงว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ แรงงานที่เดินทางกลับมาได้ให้การดูแลเยียวยาคนละ 15,000 บาท ส่วนผู้เสียชีวิตทั้งหมดจะได้รับการเยียวยารวมคนละ 80,000 บาท โดยแบ่งเป็นค่าเสียชีวิต 40,000 บาทและค่าใช้จ่ายในการจัดการศพในต่างประเทศเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 40,000 บาท

 

 

นอกจากนี้ยังได้รับสวัสดิการตามกฎหมายของประเทศอิสราเอล (ประกันการทำงาน + นายจ้างจ่าย) กรณีบาดเจ็บ/ พิการตามการรับรองของแพทย์ แบ่งเป็น บาดเจ็บ 10-19% ได้รับเงินก้อนเดียว ประมาณ 1,440,000 บาท บาดเจ็บเกิน 20% ได้รับเงินเดือนทุกเดือน จนกว่าจะเสียชีวิต โดยประเมินจากความสูญเสีย กรณีเสียชีวิตภรรยาและบุตร ได้รับเงินเดือนทุกเดือน จนกว่าภรรยาจะแต่งงานใหม่ และบุตรอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ (ภรรยาเป็นเงิน 34,560 บาทต่อเดือน /บุตร เป็นเงิน 5,760-11,520 บาทต่อเดือน)

 

 

 

ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า รัฐบาลถือว่าผู้ที่ไปทำงานในต่างประเทศ เป็นคนที่ไปสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้กระทรวงสาธารณสุข ดูแลทั้งทางด้านสุขภาพจิต และร่างกายถ้าผู้ใดเจ็บป่วย ได้มีการเตรียมโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือ ของกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งโรงพยาบาลบำราศนราดูร ดูแลผู้ป่วยเป็นอย่างดี เป็นคนไข้ของโรงพยาบาลของกระทรวง และมีความตั้งใจจะดูแลคนที่กลับมา

 

 

เสมือนหนึ่งเป็นบุคคลพิเศษ ขอให้สบายใจได้ โดยรัฐบาลมีความตั้งใจจะส่งเครื่องบินทั้งเช่าเหมาลำของกองทัพอากาศ และเครื่องบินของการบินไทย ให้ระดมกันไปที่อิสราเอล เพื่อรับผู้ที่มีความประสงค์จะกลับบ้าน กลับมาโดยเร็วที่สุด

 

 

ด้านนายสมมา แซ่จ๊ะ คนงานเกษตร ที่ได้รับบาดเจ็บจากการโดนยิงบริเวณขาข้างซ้าย จากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล เป็นตัวแทนคนไทย กล่าวขอบคุณขอบคุณรัฐบาลที่พาแรงงานกลับบ้านได้ในวันนี้ และดีใจที่ได้กลับมา พร้อมเล่าเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ ว่า ในตอนเช้าที่เกิดเหตุสู้รบ นายจ้างได้พากลับไปที่บ้านพักของนายจ้าง และในเวลาประมาณเที่ยงนายจ้าง แจ้งว่าสงบแล้ว จึงพาทุกคนกลับไปยังที่พัก

 

 

แต่ระหว่างทาง มีการยิงปืนมาจากฝั่งถนน ทำให้ตนเองโดนยิงที่หัวเขาเป็นคนแรก ซึ่งในวันนั้นโดนยิงกัน 4 คน ตนคิดว่าคงไม่มีชีวิตรอดกลับมาได้ เพราะเหตุการณ์มีความรุนแรงมาก แต่นายจ้างได้พาขับรถหนีและญาติของนายจ้างได้พากลับไปหลบที่หลบภัย

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews