“จุลพันธ์” ปัดใช้ 1.2 หมื่นล้านทำซุปเปอร์แอพจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต ชี้ให้สถาบันการเงินรัฐ บอกใช้งบไม่มาก ลั่นจะไม่มีคนกลุ่มใดได้ประโยชน์ ซ้ำรอยจำนำข้าว ชี้โปร่งใส-ปลอดภัยมาก ตกใจ สส.เพื่อไทย ปูดมีงบ 4.8 ล้านล้าน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการดำเนินงานของซุปเปอร์แอพ แอพในการจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต จะใช้งบประมาณจัดทำเท่าไหร่ ว่า เป็นความร่วมมือของกระทรวงการคลังและสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งสถาบันการเงินของรัฐเข้ามาช่วยเรื่องการพัฒนาระบบ
โดยในส่วนค่าใช้จ่ายไม่มีตัวเลขอะไรที่น่าเป็นห่วง และขณะนี้กำลังคุยกันอยู่ว่าหน่วยงานใดจะเป็นผู้จ่ายเงิน อย่างไรก็ตามโครงการนี้เป็นการเติมเงิน 10,000 บาทโดยผ่านดิจิทัลวอลเล็ตโดยมีเงื่อนไขใหม่ อาทิ ห้ามใช้เกี่ยวกับอบายมุข การออมและการใช้หนี้ ซึ่งถือเป็นกลไกใหม่ในการช่วยเหลือประชาชนเพื่อผลักดันให้เม็ดเงินสู่ระบบ
ส่วนขณะนี้ได้บริษัทผู้ดำเนินการจัดทำแอพ ซุปเปอร์แอพแล้วหรือยัง นายจุลพันธ์ ปฏิเสธว่า ไม่ใช่บริษัท แต่เป็นธนาคารที่อยู่ในการกำกับของรัฐ เป็นผู้ดำเนินการโดยไม่ได้มีการจ้างบริษัทภายนอก พร้อมยืนยันว่าไม่มีการจัดซื้อจัดจ้าง
เมื่อถามว่า ธนาคารผู้จะทำแอพคือธนาคารอะไร นายจุลพันธ์ ระบุว่า ต้องให้ธนาคารในการกำกับดูแลของรัฐไปประชุมและมอบหมายกันเอง โดยจะมีการประชุมในวันพฤหัสบดีที่ 19 ต.ค.นี้ ส่วนจะได้คำตอบหรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการชุดดังกล่าว ซึ่งตนไม่สามารถตอบได้
ส่วนจะไม่มีคนกลุ่มใดได้ประโยชน์จากการจะทำแอพใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ ย้ำว่า ไม่มี พร้อมยืนยันว่าเป็นโครงการที่โปร่งใสมาก และระบบบล็อกเชนก็มีความปลอดภัยมากที่สุดในตอนนี้ ที่สามารถตรวจสอบความผิดพลาดและการทุจริตได้ด้วย
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าค่าทำแอพสูงถึง 12,000 ล้านบาทนั้น รมช.คลัง หัวเราะพร้อมปฏิเสธว่า ไม่มีทาง ฟังแล้วก็ยังตลกอยู่เลย ไม่มีแอพพลิเคชั่นไหนพัฒนาในราคาดังกล่าว เมื่อถามว่า การทำแอพต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ รมช.คลัง ระบุว่า ตนไม่กล้าตอบตัวเลขที่ชัดเจน แต่เท่าที่ทราบไม่ได้มากอะไร
เมื่อถามว่า ทำไมไม่ใช้แอพเป๋าตัง นายจุลพันธ์ ระบุว่า แอพเดิมเมื่อมาทำดิจิทัลวอลเล็ต ฟังก์ชั่นจะเกิดความแตกต่างในระบบและวัตถุประสงค์ก็แตกต่าง เพราะของเรากำหนดในบล็อกเชน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต้องมีความปลอดภัยและมีกลไกที่โปร่งใส นอกจากนี้แอพในอดีตข้อมูลยังเป็นของรัฐแต่ตัวแอพพลิเคชั่นไม่ใช่ของรัฐ ดังนั้นการต่อยอดจึงมีข้อจำกัด แต่แอพใหม่จะดึงข้อมูลของรัฐที่เป็นประโยชน์มาใช้ประโยชน์ เช่นฐานข้อมูล และโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่มีการลงทะเบียนแต่จะให้มีการยืนยันตัวตน เพราะมีข้อกฎหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้
เมื่อถามถึงแหล่งที่มาของเงินทั้งหมดที่รัฐใช่งบ 5.6 แสนล้านบาท จะสามารถใช้เงินนอกประมาณ 4.8 ล้านล้านบาท ตามที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ระบุไว้หรือไม่ รมช.คลัง กล่าวว่า อันนี้ไม่รู้ไม่ทราบ ตนไม่ได้ฟังเขาจึงไม่กล้าตอบ
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวการเตรียมฟ้องร้องโครงการดังกล่าว รมช.คลัง กล่าวว่า ไม่เป็นไร ใครมีสิทธิ์ดำเนินการตามช่องทางทางกฏหมายก็สามารถดำเนินการได้ อย่างเช่น ป.ป.ช. ก็ตั้งคณะกรรมการติดตาม ตนก็ยอมรับว่าถือเป็นสิ่งดีมากเพราะมีหน่วยงานรัฐมาช่วยดูเพื่อให้เกิดความรอบคอบ และตนก็พร้อมเสนอตัวไปคุยกับ ป.ป.ช.เอง เพื่อชี้แจงให้เค้าคลายกังวลและขณะเดียวกันก็รับข้อสังเกตมาปรับปรุง เพื่อให้โครงการเดินหน้าและไม่เสียวัตถุประสงค์ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
เมื่อถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์จะซ้ำรอยโครงการรับจำนำข้าวหรือไม่ รมช.คลัง ระบุว่า คนละเรื่องเลย ไม่เหมือนกันเลย อันนี้เป็นกลไกที่เราจะกระตุ้นในเรื่องเศรษฐกิจโดยใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ ซึ่งเรื่องนี้ตนยังหาโหว่ไม่ได้เลยตรงไหนอย่างไร
ส่วนมีกระแสข่าวจะมีการเก็บค่าแลกเงินร้านค้า ในการและเงินเข้าและออกจำนวน 3% นั้น รมช.คลัง ระบุว่า อันนี้คิดไปเอง ไม่มีเพราะไม่ใช่ คริปโต เพราะโครงการนี้เป็นการเติมเงิน 10,000 บาทเข้าไปในกระเป๋าเงินดิจิทัลวอลเล็ต และยืนยันว่าประชาชนจะได้เงิน 10,000 บาทเต็มๆไม่มีหัก รวมถึงไม่มีการจัดเก็บเงินเปอร์เซ็นต์จากร้านค้าด้วยเช่นกัน พร้อมยืนยันว่าโครงการดังกล่าวไม่มีทางทำไม่ได้ต้องทำได้แน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews