นายกฯแย้มได้ชื่อ ครม. ครบแล้วปัดคุกคามแกนนำ
นายกฯ รับชื่อ ครม.ชุดใหม่ ถึงมือครบแล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบ ใครนั่งกระทรวงไหน จะตัดสินใจเอง โยนสภาแก้ รธน. ปัด คุกคามแกนนำราษฎร
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ว่าวันนี้ได้รายชื่อครบแล้วและอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบโดยจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ซึ่งตนจะดำเนินการให้จบสิ้นโดยเร็ว โดยให้ครบขั้นตอนทั้งหมดก่อน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเสนอมาแล้ว แต่จะอยู่ตรงไหน เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี เป็นคนตัดสินใจ ความเหมาะสม รวมถึงการหารือต่างๆ และดำเนินการโดยรับฟังความคิดเห็นของพรรคร่วมรัฐบาลด้วยซึ่งไปด้วยกัน
ส่วนสัปดาห์นี้จะได้เห็น ครม.ชุดใหม่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะครบขั้นตอน เมื่อมีการถวายสัตย์ฯ เดี๋ยวสื่อก็รู้ก่อนอยู่แล้ว
นายกฯ ยัน ทำหน้าที่ส่งแก้รัฐธรรมนูญเข้าสภาฯ ตามอำนาจแล้ว มีปัญหาให้ไปตุลาการ ยันสั่งอะไรไม่ได้ อันตราย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ว่าในวันนี้นายชวนหลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้หารือร่วมกับวิปรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ทำหน้าที่ครบไปแล้ว คือ การนำเข้าพิจารณาในสภานี่คืออำนาจของฝ่ายบริหาร ตนสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามนโยบายรัฐบาล ส่วนจะแก้ ได้ไม่ได้อย่างไรสุดท้ายอยู่ที่ฝ่ายนิติบัญญัติหากมีปัญหาก็ไปต่อที่ฝ่ายตุลาการ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลมุ่งมั่นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่จะแก้อย่างไร ก็ไปว่ากันมา อย่ามากล่าวอ้างว่าตนไปเซ็นคำสั่งอะไรออกไป ตนสั่งอะไรไม่ได้อยู่แล้ว อันตราย
นายกฯ สั่งติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม หลังFB “ทนายอานนท์” เผยแพร่จดหมายอ้างถูกผู้คุมคุกคาม ย้ำยึดกฎหมายคุ้มครองผู้ต้องหา ถามทำตัวเองหรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี เฟซบุ๊ค อานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร มีการเผยแพร่จดหมายของ นายอานนท์ ที่อยู่ระหว่างการคุมขังในเรือนจำพิเศษ โดยใจความสำคัญในจดหมาย ระบุว่า “กลัวจะมีการถูกทำร้ายและเกรงว่าจะเสียชีวิตในเรือนจำ เนื่องจากผู้คุมขอย้ายตัวแกนนำ ช่วงกลางดึก” ซึ่ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองได้รับรายงานในเรื่องนี้แล้ว โดยได้เน้นย้ำให้ติดตามกรณีดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าตามกฎหมายต้องให้การคุ้มครองผู้ต้องหา ตามหลักการอยู่แล้ว และได้สั่งการให้คุ้มครองอย่างที่สุด
ส่วนการกล่าวอ้างอะไรต้องมีหลักฐาน ตนเองจึงได้สั่งการให้ติดกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเพื่อติดตามว่ามีผู้คุมขัง หรือเจ้าหน้าที่ได้กระทำ ตามจดหมายกล่าวอ้างหรือไม่ หรือ “ทำตัวเอง”
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมว่า สำหรับวันนี้กลุ่มชาวบ้านบางกลอย จะเริ่มทยอยกลับ โดยข้อเรียกร้องทั้งหมดรัฐบาลได้รับไว้พิจารณา เพราะจะแก้ปากต่อปากไม่ได้ หลายอย่างต้องมีกลไก และข้อกฎหมาย ขณะนี้ต้องเจรจากันไปก่อนเพื่อหาทางออก ส่วนชาวบางกลอย บางส่วนที่ยืนยันจะกลับขึ้นไปอยู่ใจแผ่นดินนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ทำไม่ได้ และขณะนี้ กำลังเร่งรัดพัฒนาพื้นที่ ที่จัดให้ชาวบางกลอย ย้ายลงมาอยู่ โดยเฉพาะการจัดหาแหล่งน้ำ และพื้นที่ทำกิน โดย ย้ำว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ขอให้ดูในส่วนของกฎหมายลูกประกอบด้วย
นายกฯ โว หลังฉีดวัคซีน หัวสมองแล่น เผลอหลายบริษัทติดต่อขอนำเข้าวัคซีน จ่อขยายคลินิกเคลื่อนที่ บอกอารมณ์ดี แม้มีคนยั่วโมโห ลั่นฉีดก็ว่าไม่ฉีดก็ว่า ตึงสื่ออย่าดราม่า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ตนได้ถามทุกคนในที่ประชุมภายกลังการฉีดวัคซีน ป้องกันโควิด -19 ว่า เป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งทุกคนก็ปกติดี และตั้งข้อสังเกตว่า ในวันนี้ตนนั้นหัวสมองแล่น ขณะนี้ตนยังไม่เป็นอะไรและไม่รู้สึก เพื่อให้ทุกคนมั่นใจนายกรัฐมนตรี ก็พร้อมจะฉีดตลอดเวลา พิจารณาแล้วก็ควรฉีดตนก็ฉีดวันนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะพูดให้เสียหายกันในอนาคต เพราะวันนี้ต้องสร้างความเชื่อมั่น และตนก็เป็นตัวอย่างในการฉีดวัคซีน Astrazeneca
นอกจากนี้ ตนยังมีการเร่งปริมาณการฉีดวัคซีนให้เพิ่มมากขึ้น วันนี้เมื่อวัคซีนเข้ามาเท่านี้ก็มีการฉีดในโรงพยาบาล แต่หากมีการนำเข้าวัคซีนมากกว่านี้ ก็จะมีการขยายไปยังพื้นที่อื่น หรือ คลินิกเคลื่อนที่ และขณะนี้มีการขออนุญาตของหลายบริษัท ที่ส่งมายังกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อให้สามารถนำเข้าได้ ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระของรัฐบาล
สำหรับบุคคลที่ต้องการความเร่งด่วน โดยสามารถฉีดที่โรงพยาบาลเอกชนทั่วไป โดยไม่ต้องรอโรงพยาบาลของรัฐบาล เพราะบอกว่าวันนี้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ด้วยดี โดยตั้งเป้าว่าเมื่อวัคซีน มาครบแล้วจะมีการฉีด 10 ล้านโดสต่อเดือน โดยจะมีการวางแผนเป็นระยะ แต่เมื่อมีปัญหาส่วนใดก็แก้ไขปัญหาส่วนนั้น ไว้วางใจซึ่งกันและกันให้มีความเชื่อมั่นและไว้วางใจซึ่งกันและกัน
ทั้งนี้ ในตอนท้าย สื่อมวลชนถามนายกรัฐมนตรี ว่า ปวดแขนหรือไม่โดย นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่เป็นอะไรเลย วันนี้อารมณ์ดี พร้อมบอกให้สื่อมวลชนขอบคุณแพทย์ แม้มีคนยั่วโมโหก็ไม่โกรธ นักข่าวจึงแซวว่า รู้อย่างนี้ฉีดตั้งนานแล้วใช่ไหม นายกรัฐมนตรีจึงระบุว่า สื่อก็พูดไปเรื่อย ฉีดก็มีเรื่องไม่ผิดก็มีเรื่องดราม่าไปเรื่อย
นายกฯยันสงกรานต์ผ่อนคลายมาตรการ จัดงานต้องควบคุมพื้นที่ให้ได้ ย้ำทุกคนต้องร่วมมือสวมหน้ากากอนามัย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ในพื้นที่ตลาดบางแค ว่า ต้องติดตามในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ว่าจะทำอย่างไรต่อไป หากควบคุมได้อาจจะมีผลกระทบไม่มากนัก แต่ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชน ในการป้องกันตัวเอง ส่วนมาตรการสงกรานต์ จะเข้าพิจารณาในการประชุม ศบค. ในช่วงสัปดาห์นี้ โดยได้สั่งการไปแล้วให้หามาตรการผ่อนคลาย ในพื้นที่ต่างๆ ส่วนที่พบได้ในพื้นที่ใหม่ก็ต้องไปดูเฉพาะพื้นที่ตรงนั้น นี่คือความร่วมมือของทุกคนในการใช้หน้ากาก
ส่วนการจัดงานสงกรานต์ ได้เน้นการควบคุมพื้นที่ให้ได้ รวมถึงพื้นที่ที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะตลาดสด ต้องมีแต่การเพิ่มขึ้นมา อย่างการกำหนดพื้นที่เข้าออก การใช้เว็บติดตาม ตัวสวมหน้ากากอนามัย หากไม่สวมก็เข้าไม่ได้ ซึ่งต้องเข้มงวดเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นก็แก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้ เพราะหลายประเทศในโลกก็มีการแพร่ระบาดจำนวนมาก โดยเฉพาะประเทศที่มีรายได้สูง แต่ไทยถึงจะเพิ่มแต่ก็ไม่ได้มากมายเท่าเขา ซึ่งมาตรการของไทยก็ดีมาโดยตลอด และอยู่ที่ความเอาใจใส่ของประชาชน ซึ่งทุกคนจะต้องระมัดระวังตัวเองให้ได้มากที่สุด
นายกฯ สั่งคลังคุยฝ่ายกฎหมายดำเนินคดี เลี่ยงภาษีนำเข้ารถหรูหมื่นล้าน หลังป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเพียงรายเดียว ขอรอศาลปกครองวินิจฉัยจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ 2.5 หมื่นล้าน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง กรณีปัญหาการนำเข้ารถหรู เลี่ยงภาษีนำเข้ามูลค่าหมื่นล้านช่วงกลางปี 2556
ซึ่งปัจจุบัน ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่กรมศุลกาก รมีความผิดเพียงรายเดียว ว่า เป็นปัญหาที่สำคัญเกี่ยวกับผู้ซื้อผู้ขาย ซึ่งมีการกระทำความผิดกฎหมายด้วยเพราะฉะนั้นจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยสั่งการให้กระทรวงการคลัง หารือร่วมกับฝ่ายกฎหมาย เพราะต้องดำเนินคดีทางกฎหมายไปด้วย
ด้านการจ่ายเงินชดเชย ค่าโง่โฮปเวลล์ 2.5 หมื่นล้านบาท นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขณะนี้อยู่ในกระบวนการของศาลปกครอง ขอให้รอฟังคำวินิจฉัย
ทั้งนี้ หลังให้สัมภาษณ์กับสื่อ นายกรัฐมนตรี ได้เข้าหารือกับรองนายกรัฐมนตรี ทุกคน รวมถึง พล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ห้องสีเหลืองภายในตึกสันติไมตรี เป็นเวลาประมาณ 20 นาที ก่อนจะเดินออกมาพร้อม พล.อ ประวิตร คาดคุยเรื่อง ตำแหน่ง ครม.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news