“วิษณุ” บอก แล้วแต่สภาจะโหวตวาระ3 หรือไม่ มองคำวินิจฉัยกลางมีนัยและมีความหมาย ด้าน”สมชาย” ย้ำไม่สามารถโหวตวาระ 3 ได้ ญัตติต้องตกไป
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ของรัฐสภา ว่า แล้วแต่รัฐสภาจะโหวตหรือไม่ และจากการอ่านคำวินิจฉัยกลาง มีประโยคที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากคำวินิจฉัยแรก ที่ระบุว่า การแก้หมวด 15/1 เป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งประโยคนี้ถือว่ามีนัยและมีความหมาย
ส่วนการระบุ ว่า มีความหมายนั้น หมายความว่า หากโหวตผ่านวาระ 3 แล้วจะมีปัญหาใช่หรือไม่ นายวิษณุ พยักหน้า พร้อมกล่าวว่า ใช่ แต่อย่างไรก็ต้องโหวตวาระ 3 อยู่ดี เมื่อถามย้ำว่า ถ้าไม่อยากให้มีปัญหา ให้โหวตงดออกเสียงใช่หรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ไม่ขอพูดแล้วเดี๋ยวหาว่าส่งซิก
“สมชาย” ชี้สภาแก้ รธน. ผิดกระบวนการ ย้ำไม่สามารถโหวตวาระ 3 ได้ ญัตติต้องตกไป
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) กล่าวในงานเสวนารัฐธรรมนูญปราบโจร Ep 2 จัดขึ้นโดยสถาบันทิศทางไทย ถึงการประชุมรัฐสภา ในวันพรุ่งนี้ ในญัตติการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ว่า หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยกลาง ออกมา ก็ปรากฎชัดว่า รัฐสภาทำผิดกระบวนการ เพราะไม่ได้ถามประชามติมาก่อน อาศัยอำนาจวาระ1แก้ไขวาระ2 และกำลังจะลงมติในวาระ3 ทั้งหมดผิดกระบวนการ และเนื้อหาผิดที่มอบอำนาจ ให้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)
โดยความเห็นตนคือเดินต่อไม่ได้ ซึ่งในการประชุมวิป3ฝ่ายในช่วงเช้าวันนี้ นายชวน. หลีกภัยประธานรัฐสภา ได้แจ้งว่าบ่ายวันนี้จะประชุมกับฝ่ายกฎหมายของสภาฯแล้วจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งตนได้เสนอว่าส.ว.ได้มีการประชุม และเห็นว่าวาระ3 นั้นโหวตไม่ได้ ประธานรัฐสภาควรถอนญัตติที่ถูกบรรจุไว้แล้วและไม่ควรจะพิจารณาต่อไปและต้องตกไป แต่ถ้าจะเดินหน้าโหวต ก็จะมีความกังวลว่าอาจจะมีผู้ไปร้องต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เพื่อดำเนินคดีที่มีการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย
โดยในวันพรุ่งนี้ ต้องมีทางออกอย่างใดอย่างหนึ่งที่จะทำให้วาระ 2 นั้นตกไป ซึ่งในวันพรุ่งนี้ประธานรัฐสภาจะเสนอความเห็นในสภา โดยทุกฝ่ายได้มอบอำนาจให้ประธานรัฐสภาเป็นผู้ตัดสินใจ แต่ทั้งนี้ก็มีบางกลุ่ม ที่ขอให้คงร่างวาระ 2 ไว้และลงประชามติเสียก่อนซึ่งตนมองว่าไม่สามารถทำได้ เพราะหากค้างไว้ก็เป็นการทำกฎหมายที่ผิดกฎหมาย
“จุรินทร์” ย้ำ ปชป. มีจุดยืนเดิมเดินหน้า แก้ รธน. ให้เป็นประชาธิปไตย ขอฟังฝ่ายกฎหมาย และ สส. ก่อน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยกลาง เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันจุดยืนเดิมที่ต้องการทำให้รัฐธรรมนูญไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย แต่คำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญ ยังมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน ว่า จะต้องมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร
โดยทั้งความเห็นของนักวิชาการ และสมาชิกรัฐสภา ต่างก็มีการถกเถียงกัน มีความเห็นต่างกัน จึงเป็นโจทย์สำคัญที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องมีการหารือกัน ในที่ประชุม สส. พรรค วันนี้ ซึ่งได้มีการเชิญฝ่ายกฎหมายมาให้ความเห็นว่า พรรคจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร
พร้อมย้ำยึดจุดยืนเดิมที่อยากเห็นรัฐธรรมนูญได้รับการแก้ไขไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น แต่ต้องหารือในส่วนของวิธีการว่าจะทำอย่างไร โดยต้องฟังฝ่ายกฎหมายและที่ประชุม ส.ส.พรรค ก่อน
ส่วนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะเข้าสู่การประชุมในวาระ 3 วันพรุ่งนี้ มีทั้ง 2 อย่าง คือ การแก้ไขมาตรา 256 ซึ่งหมายถึงการแก้วิธีแก้รัฐธรรมนูญ และการจัดตั้ง ส.ส.ร.ใหม่ ปนอยู่ในร่างเดียวกัน จึงต้องพิจารณาว่า จะมีการลงมติและดำเนินการอย่างไร
ทั้งนี้ หากไม่สามารถเดินหน้าโหวตวาระ 3 ได้ จะทำอย่างไร ให้ประชาชนมั่นใจถึงเจตนาและความตั้งใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น มองว่า ประชาธิปัตย์ยืนยันที่จะเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย และจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดขึ้น และเดินหน้าต่อไปได้ แต่จะมีวิธีการอย่างไรนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news