“สส.โตโต้” พบพิรุธ ไม่ชอบมาพากล รถบรรทุกถนนยุบ บอกไม่อยากปรักปรำใคร อ้าง ผู้กำกับ สน.พระโขนงยันยังไม่ปรากฏการรับส่วย รอ “วิโรจน์” ขุดคุ้นต่อ
นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. เขตพระโขนง-บางนา พรรคก้าวไกล กล่าวถึงอุบัติเหตุเมื่อวานนี้ (8 พ.ย.) ในพื้นที่เขตพระโขนง ที่แผ่นรับน้ำหนักใต้พื้นถนนยุบตัวลงเมื่อรถบรรทุกวิ่งผ่าน นำมาสู่การตั้งข้อสังเกตว่ารถบรรทุกอาจมีน้ำหนักเกินกว่ากำหนด
โดยนายปิยรัฐ เปิดเผยว่า ผู้กำกับ สน.พระโขนง ยืนยันว่า ยังไม่ปรากฏการรับสินบนหรือส่วย แต่มีการตั้งคำถามว่าสติ๊กเกอร์สีเขียว ตัว B หมายความว่าอย่างไร โดยผู้กำกับ สน. ให้ข้อมูลว่า ตัว B เป็นตัวย่อชื่อเล่นของเจ้าของบริษัทผู้รับเหมารถบรรทุก ที่ชื่อว่าบิ๊ก และสีเขียวคาดว่าเป็นสีที่เขาชอบ
ทั้งนี้ เบื้องต้นพบว่า มีรถบรรทุกประมาณ 4-5 คันเท่านั้นในพื้นที่พระโขนงที่มีสติกเกอร์ดังกล่าว แต่ไม่ทราบว่าในเขตพื้นที่อื่นมีจำนวนเท่าใด สำหรับเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ตนเองพยายามติดตามเข้าไปในไซต์งานก่อสร้าง เจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นกระบวนการถ่ายดินออกจากที่เกิดเหตุ ใส่รถบรรทุกที่สำรองไว้ เพื่อชั่งน้ำหนักพร้อมกัน แต่ท้ายสุดเจ้าหน้าที่พยายามขับรถไปที่ไซต์งานก่อสร้าง ตนเองพยายามตะโกนเรียกแล้ว แต่ไม่มีใครฟัง โชคดีว่า วิศวกรในไซต์งานรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล จึงยังพอเก็บตัวอย่างดินกลับมาได้แต่ปัจจุบันนี้ยังไม่มีการชั่งน้ำหนักดินดังกล่าว
โดยหลังจากนี้ ตนต้องมีการตรวจสอบจากทุกหน่วยงานว่า มีการใช้ดินจากตัวอย่างหรือไม่ เพราะมีลักษณะเป็นดินเลนที่อุ้มน้ำ ทำให้มีน้ำหนักมากกว่าดินปกติทั่วไป สามารถนำไปคำนวณตามหลักวิศวกรรมและวัดน้ำหนักรถปกติแล้วเป็นเท่าใด ซึ่งตามที่ปรากฏข้อมูลก็พบว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดแน่นอน
ขณะที่สาเหตุที่รถบรรทุกเข้ามาในเมืองได้โดยไม่ผ่านการตรวจสอบ นายปิยรัฐ ระบุว่า ไม่อยากปรักปรำเจ้าหน้าที่รัฐ โดยไม่มีหลักฐาน แต่เมื่อจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากไซต์ก่อสร้างไม่มาก ไม่เกิน 300 เมตร จึงมีการว่าจ้างบริษัทรถบรรทุกมารับผิดชอบ แต่รถบรรทุกในเมืองจำเป็นต้องมีใบอนุญาตและ ห้ามวิ่งในเวลาห้ามวิ่ง รวมถึงน้ำหนักต้องไม่เกิน 15 ตัน อย่างไรก็ตาม กทม. อ้างว่า ไม่มีตาชั่งสำหรับชั่งน้ำหนักรถบรรทุก จึงเป็นปัญหาและช่องโหว่ให้เกิดการลักลอบขนส่งน้ำหนักเกิน
นายปิยรัฐ กล่าวด้วยว่า รถบรรทุกมักจะบรรทุกน้ำหนักเกินเป็นเท่าตัวเพื่อให้เกิดความคุ้มค่า ถ้ารถบรรทุกรับน้ำหนักได้ 25 ตัน ก็ต้องบรรทุก 30 – 40 ตันขึ้นไปอยู่แล้ว ซึ่งถนนไม่สามารถรองรับได้ ก่อให้เกิดผู้บาดเจ็บซ้ำซ้อน ตราบใดที่มีช่องโหว่ ผู้รับเหมาที่ยังเห็นแก่ตัว ปัญหาตกอยู่ที่เจ้าหน้าที่รัฐว่าจะมีมาตรการอย่างไรต่อไป
เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นซ้ำในพื้นที่ กทม. อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงรถบรรทุกแต่รวมถึงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง พร้อมย้ำว่า ต้องตรวจสอบทั้งรถบรรทุกน้ำหนักเกิน และแผ่นรองพื้นถนนที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะยังมีพื้นที่ในกรุงเทพฯ ลักษณะนี้อีกหลายแห่ง ต้องคอยจับตาดูและตรวจสอบว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ซ้ำขึ้นอีกหรือไม่
ส่วนในกรณีนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องส่วยหรือไม่ นายปิยรัฐ กล่าวว่า ทั้ง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และสมาพันธ์รถบรรทุก ต่างยืนยันว่า มีมูล ตนเองในฐานะผู้แทนเขตต้องตรวจสอบ แต่ตนเองไม่มีข้อมูลเชิงลึก จึงต้องรอนายวิโรจน์ตอบเรื่องนี้ แต่ที่สำคัญเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ยังไม่ตอบเรื่องนี้อย่างชัดเจนนัก
ในด้านของ กรรมาธิการความมั่นคงฯ ก็จะเดินทางเข้าไปพบผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในวันที่ 13 พ.ย. นี้ โดยจะถือโอกาสนี้สอบถามกรณีดังกล่าวโดยตรงกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงคณะอนุกรรมการที่ศึกษาเรื่องส่วยทางหลวง จะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพื่อหาคำตอบต่อไป พร้อมย้ำว่า ปัญหาเรื่องส่วยรถบรรทุกทำให้เกิดเหตุอุกอาจระดับประเทศ ที่สังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้วถึง 2 คนในอดีต
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews