Home
|
ข่าว

เด็กก้าวไกล จี้ นายกฯหยุดวงจรหมูเถื่อน ยกเลิก Green Line

Featured Image
เด็กก้าวไกล จี้ นายกฯหยุดวงจรหมูเถื่อน ยกเลิก Green Line สินค้าจากประเทศที่เคยมีประวัติถูกจับกุม ออกประกาศให้คนในประเทศที่ครอบครองเนื้อหมูมากกว่า 1 ตัน ต้องชี้แจงที่มา

 

 

นายณรงเดช อุฬารกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลง Policy Watch ประเด็นหมูเถื่อนที่กำลังเป็นที่สนใจของประชาชนในขณะนี้ โดยระบุถึงข้อร้องเรียนของเกษตรกรผู้เลี้ยง ว่า ในขณะที่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น วัตถุดิบอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น 20% ในรอบ 2 ปี แต่ราคาขายหมูกลับลดลง ในการอภิปรายนโยบายรัฐบาลที่ผ่านมา ตนได้พูดถึงปัญหาหมูเถื่อนเป็นประเด็นแรก

 

 

โดยตั้งประเด็นไว้ทั้งหมด 3 ข้อ คือสาเหตุที่ต้นทุนการเลี้ยงหมูเพิ่มขึ้น มาจากต้นทุนอาหารสัตว์แพงขึ้น, การระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรทำให้ปริมาณหมูในประเทศลดลงและมีราคาสูงขึ้น สร้างช่องว่างทำให้มีการลักลอบนำเข้าหมูผิดกฎหมาย และการจับกุมหมูเถื่อนเกิดขึ้นน้อย อย่างผิดปกติ

 

 

สาเหตุของการนำเข้าหมูเถื่อน เนื่องจากปริมาณหมูที่หายไป จากเดิมปี 64 มีจำนวนหมูหรือสุกรถึง 13 ล้านตัว แต่ในปี65 เหลือเพียง 10 ล้านตัว ปริมาณที่หายไป 2 ล้านตัวทำให้เกิดช่องว่างในการนำเข้าหมูเพื่อทดแทน กระทั่งเดือนก.ค.65 ราคาหมูเริ่มพุ่งสูงขึ้น ก่อนจะขึ้นสูงสุดในเดือนพ.ย.65 ทำให้มีการนำเข้าหมูเถื่อนจากหลายประเทศที่มีต้นทุนการผลิตหมูต่ำกว่าประเทศไทย อาทิ บราซิล เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ สเปน และมีการจับกุมหมูเถื่อนครั้งแรกในปี 2565 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ปริมาณหมู 4.9 ตัน แต่เรื่องก็เงียบหายก่อนที่ปี66 จะมีการชี้เบาะแสนำจับเนื้อหมู 161 ตู้ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี

 

 

โดยปัจจุบันมีการจับกุมหมูเถื่อนได้เพียง 5 ล้านตันจาก 161 ตู้ที่ท่าเรือแหลมฉบังเพียงแห่งเดียว ไม่มีการจับกุมจากกรณีอื่นอีกเลย และมีการขยายผลไปยัง 10 บริษัท เนื้อหมูอีก 2,300 ตู้ หรือ 69 ล้านกิโลกรัม แต่ผ่านมา 7 เดือนไม่มีความคืบหน้า เพิ่งมีความคืบหน้าภายในสัปดาห์นี้เพียงสัปดาห์เดียว จากปริมาณหมูที่หายไป 2 ล้านตัวในปี65 คาดว่าในปี65 ปีเดียวจะมีหมูทะลักเข้ามาถึง 150 ล้านกิโลกรัม และในปี 2566 คาดว่าจะมีอย่างน้อย 75 ล้านกิโลกรัม เมื่อเทียบกับปริมาณหมูที่จับกุมได้เพียง 5 ล้านกิโลกรัม ถือว่าน้อยมาก

 

 

ซึ่งยอมรับว่ารู้สึกแปลกใจในท่าทีของนายกรัฐมนตรี ที่ต่อว่าอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่รับผิดชอบหมูเถื่อน 161 ตู้ ที่ได้รับไว้เป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 16 พ.ค.66 เพราะคนที่นายกฯควรต่อว่า คือ เศรษฐา ทวีสิน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพราะมีหน้าที่กำกับดูแลกรมศุลกากร แต่กลับปล่อยปละละเลยให้หมูเถื่อนทะลักเข้ามาจนส่งผลกระทบต่อเกษตรกร โดยเฉพาะรายย่อยที่เลี้ยงหมู 1-500 ตัว กว่า 40,000 ราย ที่ยังไม่สามารถกลับมาประกอบอาชีพได้

 

 

นายณรงเดช กล่าวถึงข้อเสนอของพรรคก้าวไกล ในการหยุดวงจรหมูเถื่อน คือ ปิดประตูไม่ให้หมูเถื่อนเข้าประเทศ ยกเลิก Green Line ในสินค้าที่มีที่มาจากประเทศที่มีประวัติเคยถูกจับกุมหมูเถื่อน ตรวจสอบเฝ้าระวังตู้สินค้าจากบริษัทชิปปิ้งที่เกี่ยวข้อง หากมีการสำแดงเป็นปลา ต้องให้กรมประมงร่วมตรวจสอบ, หาหมูที่ตกค้างในประเทศ ให้กรมการค้าภายในออกประกาศ ให้ผู้ครอบครองเนื้อหมูหรือส่วนประกอบตั้งแต่ 1 ตัน ชี้แจงการครอบครองและที่มา และร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ในการตรวจสอบ, เร่งดำเนินคดีและทำลายสินค้าที่ผิดกฎหมาย และดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตทุกราย

 

 

ทั้งนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อยที่ได้รับผลกระทบอย่างน้อย 40,000 ราย ยังไม่ได้รับการดูแล รวมถึงค่าชดเชยจาก ASF ที่เกษตรกรถูกทำลายหมู ทุกวันนี้ก็ยังถูกทวงถาม นอกจากนี้ ที่ดีเอสไอรับผิดชอบในส่วนของคดีพิเศษ 161 ตู้และที่กำลังขยายผล แต่หมูเถื่อนนอกจากส่วนนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการหน่วยงานใดรับผิดชอบ การดำเนินการทำลายสินค้าของกลาง

 

 

เหตุใดจึงล่าช้าทั้งที่มีการจับกุมตั้งแต่เดือนมิถุนายน กรมศุลกากรจะมีการปรับมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่ และกระทรวงพาณิชย์จะเข้ามาควบคุมราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ส่งผลต่อต้นทุนของเกษตรกรหรือไม่ ซึ่งเป้าหมายของพรรคก้าวไกล คือการแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร ให้สามารถกลับมาประกอบอาชีพเลี้ยงหมูได้ ภายใต้โครงสร้างการแข่งขันที่เท่าเทียม ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ สามารถขายหมูในราคาที่เป็นธรรม

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube