Home
|
ข่าว

“เศรษฐา” มอบนโยบายเอกอัครราชทูต-กงสุลใหญ่ทั่วโลก

Featured Image
นายกฯเศรษฐา มอบนโยบาย เอกอัครราชทูต-กงสุลใหญ่ทั่วโลก ปรับโฉมใหม่ เป็นการต่างประเทศที่กินได้ ย้ำจุดยืนประเทศ เป็นกลาง เป็นมิตรทุกฝ่าย ใช้เป็นโอกาสทางการค้า การลงทุน ลั่น ต้องมีรักษาเกียรติภูมิประเทศ ลบข้อครหา ใช้สถานทูตรับรองอภิสิทธิ์ชนดูงานต่างประเทศ ตอบสนองความต้องการประชาชนสมภาษี

 

 

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2566 โดยกล่าวมอบนโยบาย ว่า นายกรัฐมนตรียินดีต่อการจัดการประชุมฯ ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ “ทีมประเทศไทย” (Team Thailand)

 

 

 

ทั้งภายในประเทศและที่ประจำการอยู่ต่างประเทศ ทั้งนักการทูตประจำประเทศต่าง ๆ นักการทูตที่มีความเชี่ยวชาญ เช่น ทูตเกษตร ทูตพาณิชย์ และหน่วยงานที่มีความรับผิดชอบเฉพาะ เช่น BOI ได้มาร่วมกันกำหนดแนวทางและกลยุทธ์ขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศสู่ยุคใหม่ ให้เป็นการทูตที่จับต้องได้ “เป็นการต่างประเทศที่กินได้” สร้างความกินดีอยู่ดี โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นที่ตั้ง

 

 

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับกรอบการคิดและแนวทางการทำงาน โดยเริ่มจากการตั้งคำถามชวนคิดว่า ประชาชนและภาคธุรกิจต้องการเห็นอะไรในการต่างประเทศ และมีผลตอบรับ (Feedback) อย่างไร รวมทั้งให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง (customer-centric) มีแนวความรู้สึกทางธุรกิจ Business sense และมีความรู้สึกถึงความเร่งด่วน Sense of urgency และเพื่อตอบคำถามนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่า ต้องปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ ในการทำงาน ให้ความสำคัญกับ “ทำไม”มากขึ้น

 

 

 

ต้องตอบให้ได้ว่า “ทำไปทำไม” และ “ผลกระทบ (Impact) คืออะไร” พร้อมเปลี่ยนวิธีการคิดจาก “ทำไมถึงทำไม่ได้” เป็น “ทำยังไงถึงจะทำได้” และ “ทำยังไงถึงจะสำเร็จ” เพื่อให้รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่เน้นประชาชนทุกคนเป็นศูนย์กลาง โดยนายกรัฐมนตรีได้เสนอกรอบการทำงานและวางกลยุทธ์ ซึ่งได้จากการเรียนรู้การทำงานกับระบบราชการ และประสบการณ์การทำงานในภาคธุรกิจของนายกรัฐมนตรี

 

 

 

โดยแบ่งกรอบงานเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก งานที่เกี่ยวข้องกับการเป็นทูตเศรษฐกิจ ส่งเสริมทั้งการค้าขาย และการลงทุน รัฐบาลมีนโยบายหลักที่มุ่งขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพื่อประโยชน์ของประชาชน โดยอาศัยภาคเอกชนเป็นผู้ร่วมขับเคลื่อน

 

 

 

ขณะที่รัฐบาลมีบทบาทในการสนับสนุน และเอื้อให้การค้าต่างประเทศและการลงทุนเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เช่น การนำสินค้าไทยไปขายในต่างแดน การทำให้ดัชนีความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of doing business) ดีขึ้น รวมถึงการเร่งการเจรจา FTAs ให้สำเร็จ เป็นตัวกลางในการประสานงานกับภาคเอกชนให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ เป็นที่ปรึกษา ช่วยชี้แนะตลาด ปัจจัยสำคัญ สื่อสารให้ข้อมูลประเด็นทางเศรษฐกิจ

 

 

 

นายกรัฐมนตรี ย้ำจุดยืนของไทยในความเป็นกลางที่เป็นมิตรกับทุกฝ่าย แต่ไม่ไร้จุดมุ่งหมาย ปรับใช้กับวิธีการวางตัว วางจุดยืนของประเทศให้เหมาะสม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ เป็นข้อมูลที่จะชี้โอกาสสำหรับการค้าและการลงทุน ซึ่งคือ “การต่างประเทศที่คนไทยสามารถจับต้องได้”

 

 

 

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีขอให้ทีมประเทศไทยช่วยกันคิด วางแผนการทำงานร่วมกันให้ครอบคลุมทั้งการค้าขายทั้งนำเข้าและส่งออก และการลงทุนทั้งในประเทศและนอกประเทศ เป็นฟันเฟืองสำคัญของ “การทูตเศรษฐกิจเชิงรุก” ขณะเดียวกันสถานฑูตถือว่าบทบาทที่เกี่ยวข้องกับเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี และการช่วยเหลือคนไทยและธุรกิจไทยในต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องเกียรติภูมิของประเทศและการดูแลพระเกียรติของราชวงศ์ ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อเกียรติภูมิของประเทศชาติ

 

 

 

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การสร้างวัฒนธรรมใหม่ มองเกียรติและศักดิ์ศรี คือการทำงานอย่างเป็นมืออาชีพในหน้าที่ที่รับผิดชอบ ทั้งเรื่องการประสานภาครัฐ และการสร้างความสัมพันธ์กับนานาชาติที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมย้ำถึงภารกิจที่ยิ่งใหญ่ คือการให้การช่วยเหลือ ประสานงานให้หน่วยงานราชการ คณะผู้แทนไทย สามารถบรรลุวัตถุประสงค์กลับมาให้กับประเทศ ให้คนไทย และขอให้หนักแน่นในหน้าที่นี้ เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่ดีเป็นนักการทูตมืออาชีพ

 

 

 

โดยนายกรัฐมนตรี ยังเน้นย้ำอีกว่า ถึงหน้าที่ของสถานทูตไม่อยากให้มีข้อครหา ทุกคนทำงานหนัก ซึ่งตนไม่ต้องการให้มารับภาระดูแลอภิสิทธิ์ชนที่เดินทางไปดูงานต่างประเทศไม่ควรใช้ข้าราชการสถานทูตหรือสถานทูต เป็นสถานที่กินเลี้ยงสังสรรค์ พร้อมย้ำว่าเกียรติและศักดิ์ศรี คือการทำงานที่รับผิดชอบ มากกว่าเป็นสถานที่จัดเลี้ยงรับรองคนไทยกันเอง ตนขอให้หนักแน่นในหน้าที่ เพราะเงินทุกบาทที่ใช้มาจากภาษีประชาชน และภาคธุรกิจที่สร้างรายได้ให้ประเทศ ว่าจะทำหน้าที่ให้สามารถตอบสนองประชาชนได้อย่างไร

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube