“อนุทิน” ย้ำนิรโทษกรรมต้องไม่แตะมาตรา 112 ยังไม่คิดจะร่วมตั้งกมธ.ศึกษาเรื่องนี้หรือไม่ บอกโครงการแก้หนี้ เป็นเพียงการเจรจาไม่ให้เกิดการกลั่นแกล้ง ไม่ได้เป็นการหาเงินใหม่มาให้ ยันคนเป็นหนี้ก็ต้องใช้หนี้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของพรรคก้าวไกลที่อาจจะมีการพิจารณานิรโทษกรรมผู้ต้องหาคดี 112 ว่า จุดยืนชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่แตะ 112 แต่ต้องรอดูความชัดเจนในหารือส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล แต่จุดยืนของพรรคภูมิใจไทยเราไม่มีปัญหา กับมาตรา 112 ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ถ้าหากมีการนิรโทษในส่วนของผู้ต้องหาคดีชุมนุมทางการเมืองที่ไม่ใช่112 ก็มีเหตุมีผล
ส่วนที่เคยมีร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมในช่วงรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้นนายอนุทิน กล่าวว่า “มันนานไปแล้วตนจำไม่ได้ ตอนนั้นตนยังไม่เข้าการเมืองเลยมั้ง เอาปัจจุบันดีกว่า”
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยจะยืนญัติติด่วนให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาร่างพ.ร.บนิรโทษกรรมนั้น นายอนุทินกล่าวว่า ตนยังไม่คิดเรื่องนี้ นายอนุทิน ยังกล่าวถึง กรณีเจ้าหนี้นอกระบบข่มขู่ลูกหนี้ไม่ให้มาลงทะเบียนแก้หนี้ของรัฐบาล ว่า มีทั้งเจ้าหนี้ข่มขู่ลูกหนี้มีทั้งลูกหนี้เบี้ยวเจ้าหนี้ ซึ่งในส่วนของกระทรวงมหาดไทยเราต้องการไม่ให้เกิดการข่มเหง รังแก รังควาน ข่มขู่ จากทั้งสองฝ่าย ซึ่งการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบในภาคส่วนของกระทรวงมหาดไทยคือการไกล่เกลี่ย เจรจาไม่ให้เกิดการกลั่นแกล้งรังแกเกิดขึ้นเท่านั้น ไม่ได้เป็นการหาเงินใหม่มาให้
ผมก็ยังยืนยันว่าคนที่เป็นหนี้ก็ต้องใช้หนี้ ไม่ใช่ไปตีความว่า แบบนี้ ไม่ต้องใช้หนี้แล้ว คนละเรื่องกัน แต่อย่างเจ้าหนี้ที่วันไหนลูกหนี้ขาดส่งไปพังร้านก๋วยเตี๋ยวไปพัง ร้านกล้วยแขกอย่างนี้ไม่ได้ อย่างนี้ต้องดำเนินคดี อย่างเต็มที่ แต่กรณีที่เงินต้นนิดเดียวแต่จ่ายดอกเบี้ยหลายสิบหลายร้อยเท่าแล้ว อย่างนี้ก็คงต้องให้มีการเจรจา ไกล่เกลี่ยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าฝ่ายเจ้าหนี้ไม่ยอมทั้งที่เก็บผลประโยชน์มาเยอะแล้วอาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมาย ก็มีกรมสรรพากรจะเข้าไปดู ด้านภาษีด้วย
นายอนุทิน ยังกล่าวด้วยว่า คณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีได้ตั้งขึ้นมา ที่มีตนเป็นประธานก็คือการปราบปราม ไม่ให้เกิดการทำผิดกฎหมายในเรื่องหนี้นอกระบบ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่แค่กระทรวงมหาดไทยอย่างเดียวยังมีกระทรวงการคลัง เป็นเลขานุการด้วย ฉะนั้นเจตนารมณ์ ของนายกรัฐมนตรีก็คือ ต้องการจะใช้กลไกที่รัฐมีอยู่ บันดาลความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้
ส่วนจะแก้ปัญหาการใช้ความรุนแรงได้อย่างไรนั้น นายอนุทินกล่าวว่า โครงการนี้ Kick Off เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมนี้เอง ซึ่งในทางปฏิบัติหากมีการร้องทุกข์กัน นายอำเภอหรือผู้กำกับในท้องที่ก็พยายามไกล่เกลี่ยกันให้ได้มากที่สุด และไม่ได้มีการวางเป้าหมาย มีเท่าไหร่ก็แก้กันไปเป็นกรณีเท่านั้น เลิกพูดกันเสียทีเรื่องเป้าหมายเพราะของพวกนี้ เกิดขึ้นทุกวัน เกิดแล้วก็เกิดอีก เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้เกิดความเป็นธรรมเกิดขึ้น เป้าหมายก็คือ อย่าข่มเหงรังแกกัน อย่าทุบตีกัน อย่าไปทำร้ายกัน หากเกิดการกระทำแบบนี้ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ก็เอากฎหมายเข้าไปปกป้องความปลอดภัยของประชาชน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews