“รังสิมันต์”ตั้งกระทู้สดตั๋วตำรวจ เปิดจม.ลาออกผกก.ตม.ภูเก็ต
“รังสิมันต์”ตั้งกระทู้สด ตั๋วตำรวจ เปิดจดหมายลาออกของ ผกก.ตม.ภูเก็ต ส่อเค้าการโยกย้ายไม่เป็นธรรม ด้าน “สมศักดิ์” เปิดเกณฑ์อาวุโสการทำงานชี้เป็นไปตามกฎหมาย
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต่อประเด็นการบริหารราชการตำรวจที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อถึงเวลาพบว่า นายกฯ ได้มอบหมายให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อสภาฯ แทน
ทั้งนี้ ในการตั้งกระทู้ถามดังกล่าว นายรังสิมันต์ ได้ซักถามถึงกรณีที่นายเศรษฐา พูดต่อที่ประชุมสส.พรรคเพื่อไทย เมื่อ 21 พ.ย. สื่อให้เห็นว่าส่อว่าจะมีการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย หรือ มีตั๋วผู้กำกับด้วย ซึ่งตามกฎหมายแล้วถือว่ามีการส่อว่าจะเกิดการทำผิดกฎหมายหลายประเด็น
โดยนายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า นายกฯ ต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศ ระหว่างที่มีกระทู้ถามสดนายกฯ อยู่บนเครื่องบิน อย่างไรก็ดีตามที่ซักถามใน คำพูดของนายกฯ เมื่อ 21 พ.ย. นั้น เป็นการพูดอย่างกระชับ ซึ่งทำให้สังคมเข้าใจในทิศทางหนึ่ง แต่ถูกนำไปขยายผลทางการเมืองเชิงลบ ทั้งนี้ จากการอธิบายของนายกฯ ในวันต่อมายืนยันว่าไม่มีการให้ความช่วยเหลือใดๆ ส่วนประเด็นเรื่องการขอมาเยอะ เป็นการหารือของสส.ในพื้นที่ที่เป็นตัวแทนประชาชน ต้องการคนที่เหมาะสมพัฒนาพื้นที่และแก้ปัญหาอาชญากรรม หนี้นอกระบ และยาเสพติดในพื้นที่ที่เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล
ขณะเดียวกัน การนำคำพูดไปตีความไม่เกิดประโยชน์กับประชาชนส่วนรวม จากที่ตนได้เห็นเอกสารและแนวทางที่นายกฯ เข้ามา เพื่อตั้งใจแก้ปัญหาบ้านเมือง แต่คำพูดที่เกิดขึ้น สามารถถูกนำไปตีความได้ โดยนายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ไม่สามารถแทรกแซงการแต่งตั้งได้ เพราะมีกฎหมายตำรวจกำกับการใช้อำนาจของนายกฯ ไว้
จากนั้น นายรังสิมันต์ ตั้งคำถามถึงประเด็นการทำนโยบายเพื่อขจัดการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผู้กำกับ ตม.ภูเก็ต ได้ทำจดหมายลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากได้รับความไม่เป็นธรรมจากการแต่งตั้งโยกย้าย รวมถึงกรณีที่พบว่ามีการระบายความอึดอัดของตำรวจในพื้นที่ต่างๆ ที่สะท้อนถึงปัญหาการแต่งตั้งที่ไม่เป็นธรรม
ทำให้นายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า การวิจารณ์เรื่องการโยกย้ายในพื้นที่จ.ภูเก็ต เพราะไม่มีข้อมูลไม่ครบถ้วน ซึ่งการพิจารณาดังกล่าวต้องใช้เกณฑ์ความรู้ความสามารถ และการครองตำแหน่ง ทั้งนี้ กรณีของพ.ต.อ.ธเนศ ที่ย้ายไปเป็น ผกก. ตม.ประจวบคิรีขันธ์ และให้ พ.ต.อ.เกรียงไกร อาริยะยิ่ง ผกก.ตม.นครพนม เข้ามาแทนนั้น หากพิจารณาจากความอาวุโส พบว่า พ.ต.อ.ธเนศ มีอาวุโส 6 ปี ขณะที่ พ.ต.อ.เกรียงไกร อาวุโส 15 ปี ขณะที่ พ.ต.อ.พัดธงทิว ดามาพงศ์ ผกก.ตม.สนามบินภูเก็ต ที่ถูกวิจารณ์นั้น ข้อเท็จจริงเป็นคนละตำแหน่งกับ ผกก.ตม.ภูเก็ต ดังนั้นหากพิจารณาการโยกย้ายตามความอาวุโสไม่เป็นที่น่าสงสัยหรือผิดปกติอะไร
อย่างไรก็ตาม คนที่ใกล้ชิดนายกฯ ไม่ใช่จะถูกได้รับการโปรโมททุกคน อย่าง นายตำรวจติดตามตน ไม่ได้พิจารณาแต่งตั้ง คนที่ผมคุ้นเคย พบว่า ถูกย้ายไปในที่ที่ไม่ต้องการ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของกฎหมาย ทั้งนี้การบรรจุแต่งตั้งนายตำรวจ ในส่วนตำแหน่งต่างๆ นั้น พบว่า ก.ตร. พยายามเกลี่ยให้เป็นไปตามงานที่คั่งค้าง เช่น การบรรจุแต่งตั้งพนักงานสอบสวน ที่พบว่าบรรจุแล้วกว่า 2,000 คนจากอัตราที่มี กว่าหมื่นคน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews