เพื่อไทย เตรียมสอบ 26 ส.ส. ไม่โหวตร่างแก้ รธน.วาระ 3 คาดไม่เกี่ยวกับข่าวแยกตัวไปอยู่กับพรรคการเมืองตั้งใหม่
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี 26 ส.ส.เพื่อไทย ไม่โหวต แก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ3 สวนมติพรรค ว่า ทางพรรคคงต้องพูดคุยสอบถามถึงสาเหตุว่าเกิดจากอะไร เบื้องต้นคาดว่า คงไม่เกี่ยวข้องกับข่าวแยกตัวไปอยู่กับพรรคการเมืองที่จะตั้งขึ้นใหม่ สมัยนี้ไม่ควรมีใครมาตกปลาในบ่อเพื่อน เพราะคนทั่วไปดูก็รู้ และหากใครสนใจจะไปร่วมงานกับพรรคการเมืองใหม่บางพรรค ต้องเปิดตัวให้ชัด ไม่ใช่คอยแต่สร้างความแตกแยก ไม่ควรปล่อยให้เกิดปัญหาคาราคาซัง จนกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ติดลบทางการเมือง
ส่วนการลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ วาระ 3 มีเสียงเห็นชอบให้แก้ไข 208 เสียง ไม่เห็นชอบ 4 เสียง งดออกเสียง 94 เสียง ไม่ประสงค์ลงคะแนน 136 เสียง นั้น ถือเป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมืองใด ลงมติอย่างไรถือเป็นสิทธิ และต้องรับผิดชอบในการทำหน้าที่ของตนเองต่อพี่น้องประชาชน
และการที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาฯสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ขู่จะร้องคนโหวตผ่านวาระ 3 ผิดจริยธรรมร้ายแรงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)นั้น ทางฝ่ายกฎหมายกำลังพิจารณาว่าหากมีการฟ้องร้องจริง ฝ่ายค้านจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับคนที่ฟ้องร้องเช่นกัน เพราะถือเป็นการร้องโดยไม่มีสาระ และอาจมีวาระแอบแฝงหรือแสวงหาประโยชน์จากการตกปลาในอ่างเพื่อน จากการฟ้องสมาชิกรัฐสภาหรือไม่ การโหวตวาระ 3 ทำให้เห็นได้ชัดว่า เขียนด้วยมือลบด้วยเท้าเป็นอย่างไร การปฏิรูปการเมืองไม่มีอยู่จริง กระบวนการสืบทอดอำนาจลับลวงพรางทุกอย่าง เพื่อให้ตัวเองอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด
“อิสระ” เผย ปชป. ยกมือหนุน พ.ร.บ.ประชามติ ม.9 เตือนสติแก๊งค์ทำเเท้ง รธน. อย่าสวนทางความรู้สึกประชาชน
นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกมธ.พิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ รัฐสภา กล่าวถึงกรณีกรรมาธิการเสียงข้างมากเเพ้โหวตกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ในมาตรา 9 ของร่าง พ.ร.บ.ประชามติว่า
ต่อจากนี้ จะมีนิมิตหมายใหม่ในการทำประชามติ จากเดิมที่ประชามติ จะเกิดขึ้นได้เพียง 2 แบบ คือ 1. ครม.ทำประชามติ ตามมาตรา 166 และ 2.รัฐสภาเป็นผู้จัดทำประชามติ หลังร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่าน วาระ 3 ไปแล้ว ตามมาตรา 256 (8) พูดง่ายๆ คือ ก่อนหน้านี้การทำประชามติ จะขึ้นอยู่กับอำนาจการตัดสินใจหรือดุลพินิจของ ครม.ฝ่ายเดียว
แต่ในการประชุมรัฐสภา เมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) นายชูศักดิ์ ศิรินิล กมธ.เสียงข้างน้อย เสนอแก้ไขเนื้อหาให้มีช่องทางอื่นในการริเริ่มทำประชามติ ดังนั้น ต่อจากนี้การจะทำประชามติไม่ได้มีเเค่ 2 ช่องทาง แต่จะทำให้ต่อจากนี้รัฐสภา สามารถเป็นจุดตั้งต้นทำประชามติได้ และประชาชนสามารถเข้าชื่อเพื่อให้ทำประชามติได้เช่นกัน
ขณะเดียวกัน นายอิสระ กล่าวว่า ผลโหวตที่ออกมาไม่ใช่เเค่เรื่อง การเตือนสติว่าอย่าคิดว่ามีเสียงมากจะทำอะไรที่ฝืนความต้องการประชาชนได้ ตามที่หลายฝ่ายวิเคราะห์เท่านั้น แต่ข้อดีของผลโหวต จนเกิดการเปลี่ยนเเปลง ในมาตรา 9 นั้น ยังสามารถอุดช่องข้อถกเถียงปมคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ที่ระบุว่า “หากรัฐสภาต้องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องจัดให้ประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ ออกเสียงประชามติเสียก่อนว่า สมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่” ก่อนหน้านี้รัฐสภาไม่มีอำนาจใดไปจัดให้มีการลงประชามติดังกล่าว
แต่ต่อจากนี้ รัฐสภาจะมีอำนาจทำได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเนื้อหาใหม่ในมาตรา 9 ตรงกับเเนวคิดของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องการส่งเสริมสถาบันฝ่ายนิติบัญญัติ และให้ประชาชนมีบทบาทและอำนาจในการเสนอทำประชามติได้ ดังนั้น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เราจึงยกมือเห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างน้อยในมาตรา 9 อีกนัยหนึ่งก็เพื่อ เตือนสติให้เห็นว่าอย่าชะล่าใจ ว่ามีส.ว.250 คนในมือเเล้วจะคว่ำรัฐธรรมนูญที่สวนทางกับความรู้สึกประชาชนก็ได้อีกด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news