“ครูจวง ก้าวไกล” เตรียมหารือ กมธ.การศึกษา เรียกผู้บริหาร กสพท. แจงปมข้อสอบ TPAT-BMAT เผย เด็กนักเรียนเล่าตรงกัน ยันข้อสอบเข้าแพทย์เหมือน BMAT เป๊ะ กว่า 10 ข้อ
พรรคก้าวไกลจัดแถลงข่าว Policy Watch หัวข้อ “วิกฤติการศึกษาไทย แก้ไขแบบไม่แก้ไข” โดยนายปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ ในสัดส่วนงานด้านการศึกษา ได้เริ่มต้นแถลง ด้วยการวิจารณ์ประเด็นร้อนที่กำลังเป็นที่สนใจของสังคมอย่าง กรณีข้อสอบวิชาเฉพาะ TPAT1 ซึ่งเป็นการวัดความถนัดทางวิชาชีพแพทย์ จัดโดยกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) โดยมีส่วนหนึ่งที่นำข้อสอบ The BioMediacal Admissions Test (BMAT) ซึ่งเป็นข้อสอบเฉพาะทางสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อในสาขาการแพทย์ของประเทศอังกฤษ มาแปลเป็นภาษาไทย โดยไม่มีการเปลี่ยนโจทย์ หรือตัวเลือก
ซึ่งนายปารมี ตั้งคำถามว่า กสพท.จะแก้ไขปัญหาอย่างไร โดยสิ่งที่กำลังเป็นปัญหาคือข้อสอบพาร์ทเชาว์ปัญญา ซึ่งคนที่ประสบเหตุเป็นลูกศิษย์ของตน ได้เล่าว่าข้อสอบหลายข้อที่ไปสอบมา เหมือนกับข้อสอบ BMAT ของประเทศอังกฤษ ประมาณ 8-11 ข้อ ไปคัดลอกมาเป๊ะๆ โดยแค่เปลี่ยนมาเป็นภาษาไทย ไม่เปลี่ยนเลย แม้กระทั่งโจทย์หรือตัวเลือก ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคิดถึงหัวอกหัวใจกับนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ทั้งนี้ หลายคนอาจจะตั้งข้อสงสัยว่าเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหนว่าข้อสอบที่บอกว่าเหมือนกันนั้นเป็นข้อเท็จจริง ซึ่งเท่าที่สอบถาม นักเรียนเล่าเหมือนกัน 8-11 จาก 45 ข้อ ไปคัดลอกมาไม่เปลี่ยนโจทย์ 8-11 ข้อ นี่เป็นการสอบระดับชาติ นอกจากนี้ยังต้องเสียเงินด้วย ตนอยากให้ทุกคนลองคำนวณว่า กสพท. จะได้เงินจากพ่อแม่ผู้ปกครองไปเท่าไหร่ ตนจะตามเรื่องนี้อยากเกาะติดแน่นอน
ประเด็นต่อมา ย้อนกลับไป 2 สัปดาห์ ก็มีประเด็นร้อนในการศึกษาเรื่องคะแนนโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ(PISA) ที่ประเทศไทยต่ำสุดในรอบ 20 ปี ตนอยากวิงวอนพ่อแม่พี่น้องลองอ่านข้อสอบแล้วลองเปิดหนังสือบุตรหลานของท่าน จะเห็นเลยว่าไม่เหมือนกันเลย ทำให้เป็นปัญหาว่าหลักสูตรการเรียนการสอนของเด็กไทยสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางที่เด็กไทยเรียนอยู่หรือไม่
เด็กไทยเรียนเยอะ เรียนหนัก เป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลพูดมาตลอด แต่ผลลัพธ์ออกมาได้น้อยมากเด็กไทยเรียนหนักถึงปีละ 1,200 ชั่วโมง แต่ผลลัพธ์ออกมาสะท้อนด้วยคะแนน PISA
นอกจากคะแนน PISA แล้ว ยังมีคะแนนระดับชั้นอื่น เช่น O-NET มองว่า หลักสูตรการศึกษาของไทยมีการแก้ไขแบบไม่แก้ไข มีการรับลูก แต่ไม่เคยแก้ไขอย่างจริงจัง การศึกษาไทยเป็นการแก้ไขแบบขอไปที ตนคิดว่าแก้ไขแบบลดกระแสไม่ได้ ฝากท่านประชาชนลองส่งเสียงไปถึงผู้บริหารระดับกระทรวงว่า 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เด็กไทยเรียน ไม่สามารถนำมาใช้จริงในชีวิตประจำวันได้ แม้กระทั่งทำข้อสอบ PISA
ในส่วนของการแก้ไขนั้น นายปารมี กล่าวว่า ตนคิดว่าควรใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะ ถ้าผู้บริหารกระทรวงมีความจริงใจที่แก้ปัญหา ลองปัดฝุ่นหลักสูตรฐานสมรรถนะ ฟื้นฟูทักษะและเพิ่มทักษะใหม่ให้ครู ให้นักเรียนไทยเท่าทันกระแสโลก ขณะเดียวกัน นายปารมี ยังได้อธิบายกราฟคะแนน PISA ว่า มีบางโรงเรียนได้คะแนนสูงกว่ามาตรฐานสากล ซึ่งสะท้อนเรื่องความเหลื่อมล้ำอย่างมากของการศึกษาไทย
ประเด็นสุดท้าย นายปารมี กล่าวว่าเราหยุดวงจรอุบาทที่มอบภาระหนักให้กับครูมากเกินไป ทั้งเรื่องการเลือกนอนเวรการประเมินเอกสารประเมินโครงการที่ไม่จำเป็นต่อการเรียนหลายโครงการ ตนคิดว่า รัฐมนตรีสามารถลงนามได้ทันที
จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม โดยผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ กสพท. จะประชุมกันช่วงเย็นวันนี้ จะจับตาอย่างไรบ้าง นายปารมี กล่าวว่า ตนประสานกับประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ไว้แล้ว ซึ่งตนได้ไลน์ไปสอบถามตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่อง ซึ่งได้รับคำตอบว่าจะเร่งดำเนินการ ตนก็รออยู่ หลังจากนี้จะโทรศัพท์ไปสอบถามอีกครั้ง นอกจากนี้ ตนยังได้ประสานงานไปยังนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมไว้แล้วด้วย
พร้อมเห็นว่า ข่าวลือมันเกิดมาตั้ง 2-3 วันที่แล้ว ก็ควรจะประชุมกันเบื้องต้น เพราะเดี๋ยวนี้มีเทคโนโลยี ประชุมผ่านซูมได้ เพราะตอนนี้เด็กนักเรียนกำลังเคร่งเครียดเรื่องนี้มากๆ
นายปารมี ย้ำว่า หลายคนอาจจะโต้แย้งว่ามีข้อสอบไม่กี่ข้อ แต่ตนอยากบอกว่าการสอบเข้าแพทย์ของกลุ่ม กสพท. มันวัดว่าจะสอบติดหรือไม่ติด เฉือนกันเป็นทศนิยม 4 ตำแหน่ง เพราะฉะนั้น ข้อสอบหนึ่งข้อมีความหมายกับพวกเขามาก แต่ความผิดพลาดกลับมีประมาณ 8-11 ข้อ ถือว่าเยอะ ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ
อย่างไรก็ตาม หากผลการสอบพบว่าเป็นการคัดลอกข้อสอบมาจริง จะมีข้อเสนอให้ทำอย่างไร นายปารมี กล่าวว่า ถ้าเป็นการคัดลอกจริง กสพท. จะต้องออกมาขอโทษนักเรียนและผู้ปกครอง ซึ่งหากคัดลอกจริง ตนอยากถามว่าได้ซื้อลิขสิทธิ์มาหรือไม่ ถ้าไม่ได้ซื้อแล้วเอามาใช้ แค่แปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยนี้ไม่ได้ จะต้องมีมาตรการตรวจสอบและลงโทษต่อไปด้วย โดยอาจจะต้องมีการสอบใหม่หรือให้ฟรีในคะแนน 8-11 ข้อสอบที่เหมือนกับ BMAT
ในข้อสอบ กสพท. จะมีพาร์ทหนึ่งที่เรียกว่า จริยธรรมทางการแพทย์ ถ้าท่านผู้บริหาร กสพท. ไม่ได้ซื้อลิขสิทธิ์เราไปก๊อปเขามา มันผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ ผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงมาก….ท่านเรียกร้องให้ผู้สอบต้องมีจริยธรรม แต่ท่านกลับมาทำสิ่งที่ไม่มีจริยธรรม หรือหมิ่นเหม่กับการไม่มีจริยธรรม เป็นเรื่องที่ไม่ได้
ดังนั้น อยากให้การสอบทุกประเภทมีการเปิดเผยสู่ประชาชน เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้ โดยไม่ต้องกลัวเรื่องความผิดพลาด หากมีความจริงใจ ประชาชนยินดีรับคำขอโทษ
ทั้งนี้ กรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร จะมีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องไปชี้แจงหรือไม่ นายปารมี กล่าวว่า วันพฤหัสบดีนี้จะมีการประชุม ตนจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมอย่างแน่นอน เพื่อให้ที่ประชุมมีมติเรียกผู้บริหาร กสพท. เข้ามาชี้แจงในสภา ส่วนเล็งเชิญใครบ้าง ตนคิดว่าจะเรียก ทปอ. มาร่วมด้วย นายปารมี กล่าวทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้เป็นการสะท้อนเรื่องอำนาจนิยมที่ผูมีอำนาจไม่มีการเปิดเผยกระบวน อย่างโปร่งใสโดยใช้อำนาจของตน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews