กมธ.ตำรวจ จ่อหารือด่วนกรณี “ป้ากบ”
กมธ.ตำรวจ จ่อหารือด่วนกรณี”ป้ากบ” ตั้งข้อสังเกตุการไล่กล้องวงจรปิดครั้งแรกทำไมฝ่ายสืบสวนจึงทำให้เกิดข้อผิดพลาด นำตัวไปซ้อมหรือใช้ถุงดำคลุมหัว อ้างหยอกล้อกันฟังไม่ขั้น
นายชัยชนะ เดชเดโช ประธานกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีนางบัวผัน ตันสุ หรือ “ป้ากบ” ถูกกลุ่มเด็กเยาวชน ร่วม ก่อเหตุทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตว่า ในการประชุมกรรมาธิการฯวันนี้จะมีการหารือเร่งด่วนถึงเรื่องดังกล่าว หลังจากที่เบื้องต้นได้มีการพูดคุยได้สอบถามจาก พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้งในเรื่องคดีที้มีผู้ต้องหาเป็นเยาวชน 5 คน และเรื่องของกล้องวงจรปิด
พร้อมให้ข้อสงสัยว่า การไล่กล้องวงจรปิดครั้งแรกทำไมฝ่ายสืบสวนจึง ทำให้เกิดข้อผิดพลาด และตำรวจชั้นสืบสวนเชื่อว่า นายปัญญา คงแสนคำ หรือ “ลุงเปี๊ยก” ซึ่งเป็นสามี เป็นผู้กระทำความผิด ส่วนจะมีประเด็นซ้อม ตามกระแสข่าวหรือไม่ต้องรอการสอบสวนข้อเท็จจริงซึ่งวันนี้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์จะเข้าไปสอบปากคำลุงเปี๊ยกที่ ศูนย์บำบัดที่จังหวัดปทุมธานี จึงจะรับฟังผลการสอบสวน ก่อนว่ามีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ถ้าข้อเท็จจริงไม่กระจ่าง ตนก็จะร่วมกับ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานคณะ กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ชวนกันลงพื้นที่ ไปเจอ ลุงเปี๊ยก โดยตรง วันพรุ่งนี้ เพื่อไปสอบถาม ว่าถูกซ้อมจริงหรือไม่และ เหตุใดถึงรับสารภาพตอนแรก เพราะยังมีข้อมูลที่สับสนกันอยู่ และหลังจากนั้นก็มีคลิปเสียงออกมา แต่หากวันนี้ได้ข้อมูลครบถ้วนก็ไม่ลงไป
ส่วนกรณีที่นำตัวไปซ้อมหรือใช้ถุงดำคลุมหัวมีการชี้แจงว่า เป็นเรื่องหยอกล้อกันนั้น นายชัยชนะ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้นและเมื่อวานนี้ก็เห็นแล้วว่ารองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนโดนย้ายแล้ว 1 คนและมองว่า การทำร้ายผู้ต้องหายังมี พ.ร.บ.อุ้มหายและป้องกันทรมานอยู่แล้วหากมีตำรวจคนใดทำเช่นนั้น ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบถ้าผิดจริงก็จะต้องไม่ละเว้น
ทั้งนี้ จากคดีป้าบัวผัน มองว่า จะต้อง มีใครได้รับโทษ นายชัยชนะกล่าวว่าชั้นพนักงานสืบสวนสอบสวนจะต้องได้รับโทษ ในการออกหมายจับบุคคลที่เป็นแพะ ซึ่งถือเป็นความผิดพลาดในการสืบสวนสอบสวน และต้องดูว่ามีตำรวจช่วยตำรวจหรือไม่เพราะมีเยาวชน 2 คนเป็นลูกตำรวจ แต่สิ่งสำคัญที่น่ากังวลในอนาคตคือตามกฎหมาย ประมวลอาญา อาญา มาตรา 73 และ 74 ที่ค่อนข้างจะเขียนช่วยเยาวชนไว้อย่างชัดเจน ที่ระบุว่าผู้ทำผิดไม่เกิน 15 ปี ให้ศาลใช้ดุลยพินิจ ในการลงโทษ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนกังวลมากที่สุด
สำหรับข้อเสนอให้มีการแก้กฎหมายเกณฑ์อายุรับโทษของเยาวชนให้โทษเทียบเท่าผู้ใหญ่นั้น นายชัยชนะระบุว่าต้องเอาข้อเท็จจริงปัญหาในสังคมเสนอยกร่างแก้ไขซึ่งถ้าไปดูแชทไลน์ของเยาวชนที่หลุดออกมาเป็นพฤติกรรมที่รุนแรงมาก และมีกระบวนการ อีกทั้งการที่ กัน จอมพลัง ได้นำตัวผู้ที่เคยถูก กลุ่มผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย มาเปิดเผย นั้นมองว่าหากต่อไปในอนาคตไปใช้เยาวชน เป็นเครื่องมือโดยใช้ยาเสพติดเป็นตัวล่อก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องอันตราย สิ่งสำคัญยังมีเรื่องของยาเสพติด เข้ามาเกี่ยวข้อง ที่มีข่าวว่าได้ดื่มน้ำกระท่อม กับยาเสพติด และเหตุผลที่ทำร้ายร่างกายเนื่องจาก เพราะทำ Power Bank พัง ทุกอย่างมันเริ่มต้นเช่นนี้ถ้ากฎหมายไม่บังคับใช้ เปิดช่องว่างไว้ก็เป็นสิ่งที่น่ากังวล
ทั้งนี้ จะต้องเยียวยาลุงเปี๊ยกด้วยหรือไม่นั้น นายชัยชนะ กล่าวว่า หากเจ้าหน้าที่กระทำความผิด ทำร้ายร่างกาย แล้วบังคับ ข่มขู่ ให้รับความผิดที่ไม่ได้ทำ รวมถึงมีการทำแผน และอาจมีการจัดฉาก นอกจากการเยียวยาก็ต้องรับโทษทางกฎหมายด้วย ถ้าเป็นคดีสำคัญสังคมติดตามถ้าสังคมคาดหวัง กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ ต่อไปสังคมไทย จะฝากความหวังไว้กับใคร
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews