“ภูมิธรรม” รับ ส่งเนื้อหาแก้ รธน.ไม่ทัน ครม.สัญจร
“ภูมิธรรม” ยอมรับ ส่งเนื้อหาแก้ รธน.ไม่ทัน ครม.สัญจร ยืนยันไม่กระทบไทม์ไลน์ที่ตั้ง สามารถทำให้ย่นหรือสั้นในช่วงอื่นๆได้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยืนยันว่าที่ยังไม่ส่งเนื้อหาแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการทำประชามติให้ ครม.พิจารณาไม่ได้ติดปัญหา ซึ่งก่อนที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ทางสำนักนายกฯ โดยปลัดสำนักนายกฯ ได้ทำข้อสรุปต่างๆและนำมาส่งที่โต๊ะตนเองแล้ว แต่หลังจากกลับจากต่างประเทศตนเองจะไปพิจารณาในรายละเอียด หากไม่มีอะไรแก้ไขแล้ว จึงจะนำเข้าสู่ที่ประชุมครม. ซึ่งคิดว่าจะไปได้เร็ว
ทั้งนี้มองว่าไม่น่าจะเข้าสู่ครม.ทันในสัปดาห์ที่จะไปประชุมครม.สัญจร ที่จ.ระนอง เพราะตนเองยังไม่ได้ดู แต่หากจะเลื่อนออกไปอีก 1 สัปดาห์ ก็จะไม่กระทบกับไทม์ไลน์ที่มีอยู่ และไม่มีปัญหา เพราะสามารถทำให้ย่นหรือสั้นในช่วงอื่นๆได้ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้เห็นเนื้อหาเพราะตนเองต้องเป็นคนดูก่อน
นอกจากนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังได้กล่าวถึง กรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นซักฟอกรัฐบาลว่า ไม่กังวลมีแต่เป็นห่วง รัฐบาลทำงานมาเกือบ 4 เดือน โดยที่งบประมาณยังไม่ออก แต่สามารถสร้างฐานของการแก้ไขปัญหาต่างๆได้มากพอสมควร จึงเป็นห่วงว่าจะหาประเด็นมาซักฟอกได้ยาก แต่ถือว่าเป็นการรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างและเป็นประโยชน์ พร้อมขอให้มาทำการเมืองใหม่ด้วยกัน ดังนั้นมีสิ่งใดที่อยากจะแนะนำรัฐบาลขอให้บอกมา รัฐบาลพร้อมที่จะทำงานและนำไปแก้ไขปัญหา
นายภูมิธรรมระบุว่า ไม่ว่าในช่วงปี 2567 จะมีทั้งการซักฟอกรัฐบาลจาก สส. หรือ สว.รวมถึงการพิจารณากฎหมาย และอภิปรายงบประมาณ จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานรัฐบาล เพราะหน้าที่ของสภาฯมีหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาล ซึ่งเป็นไปตามกลไกของรัฐธรรมนูญ
“จริงๆหากสภาฯขยัน คอยดูแล ทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ จะเกิดประโยชน์ ช่วยดูตรงไหนยังบกพร่องหรือยังขยับไม่ได้เพียงพอ ไม่ใช่ใช้เกมในสภาฯมาคอยตีรวน จะทำให้เสียเวลาในการที่จะ ทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด”
ส่วามาตรา 153 ตามปรัชญาคือ การอภิปราย เพื่อเป็นข้อแนะนำ คราวนี้ก็น่าจะเป็นข้อคิดเห็นที่ไปพบอะไรมา แต่หากจะอภิปรายประเด็นหลักๆ ประชาชนจะตัดสินใจเองว่ารัฐบาลเข้ามาทำงานได้ไม่นาน แล้วจะอภิปรายกันแบบเอาเป็นเอาตายก็ไม่มีเหตุที่เพียงพอ และหากชี้ว่าตรงนี้ควรทำอะไร รัฐบาลจะได้ชี้แจงจุดที่เห็นต่างอยู่ตรงไหน จะเกิดประโยชน์ การถกเถียงทำให้เกิดสติปัญญา ย้ำถึงความพร้อมที่จะชี้แจงในสภาฯและไม่มีสิ่งใดที่น่ากังวลใจ ถ้ามีข้อคิดเห็นก็ยินดี เพราะจะได้ช่วยกันดู ถ้าดูแล้วว่ายังขาดตกบกพร่องตรงใดจะได้แก้ไข
และถ้าอภิปรายแล้วก็ไม่จำเป็นที่จะอภิปรายเป็นฝ่ายโต้แย้งตลอด จะอภิปรายสนับสนุนก็ได้ หากเห็นว่ารัฐบาลทำได้ดี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews