“อนุทิน” ยังไม่คุย ปชป. แก้ รธน. ย้ำร่วมรัฐบาลถือเป็นสปิริต ชั่งน้ำหนักแต่ละเหตุการณ์ด้วยเหตุผล ปัดมีแรงกดดัน -ขอม็อบอย่าแรง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ทำประชามติ ว่า พรรคภูมิใจไทย แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนไปแล้ว ทำตามคำสั่งทำตามศาลรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยเจตนารมณ์เรื่องการแก้ไขและธรรมนูญยังเหมือนเดิม แต่ต้องทำให้ถูกต้องตามกระบวนการ เนื่องจากศาลและธรรมนูญ ระบุว่าจะแก้ไขจะต้องถามประชาชนในการทำประชามติก่อน ก็จำเป็นต้องทำถึงแม้จะไม่อยากทำก็ตาม เพราะคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันต่อทุกองค์กรรวมถึงรัฐสภาด้วย
ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่มีปัญหาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราที่ดูแล้วเหมือนไม่เป็นประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม ไม่ได้พูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ในการเดินหน้าร่วมกันแก้ไข ส่วนการไปจับกลุ่มพูดคุยของ ส.ส. ก็เป็นเอกสิทธิ์ของเขาในสภาฯ ส่วนการร่วมรัฐบาลถือเป็นสปิริต เราต้องชั่งน้ำหนัก ในแต่ละเหตุการณ์ด้วยเหตุผลที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง
ส่วนได้มีการพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนาหรือไม่นั้น นายอนุทิน ระบุว่า อะไรหารือกันเป็นประโยชน์กันได้ก็หารือกันไป อย่าผิดกฎหมายอย่าผิดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนไดโนเสาร์ยืนยันว่าที่พูดถึงเรื่องไดโนเสาร์ไม่ได้พูดถึง ส.ว. และไม่ได้ระบุถึงตัวบุคคล และไดโนเสาร์ คือสิ่งที่เราไม่ชอบในเรื่องที่มาของนายกฯในบทเฉพาะกาลเท่านั้น
ทั้งนี้ นายอนุทิน ยังปฏิเสธอีกว่า ไม่ได้มีแรงกดดันให้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล และไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะตนทำตามหน้าที่ ทำตามกฏหมายทำตามในสิ่งที่ควรจะเป็น
“อนุทิน”เสียใจการชุมนุมมีความรุนแรง ย้ำเตือนม็อบสถาบันไม่เคยทำความเดือดร้อนให้กับประชาชนคนไทย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มรีเดมเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่มีการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน ว่า เสียใจที่เกิดเหตุรุนแรงขึ้น และเราเคารพทุกการชุมนุม สิ่งที่ประชาชน ทุกฝ่ายให้ความเห็น ได้พูดออกมา เราฟังหมด เห็นทำหน้าเฉยๆเราฟังหมด อันไหนที่เป็นประโยชน์ก็นำไปใช้ประโยชน์ ไม่ใช่ไม่ใช้ ไม่ใช่ว่าเราดื้อแพ่งเมื่อไหร่ แต่อย่าใช้ความรุนแรงกันเลย คนไทยด้วยกัน
ถามว่าทำแล้วใครเจ็บก็พวกเรากันทั้งนั้น ตำรวจ ทหาร ประชาชนที่มาก็ญาติพวกท่านทั้งหลาย เราชุมนุมด้วยความสงบและสันติได้ เราเห็นต่างได้ แต่ไม่ใช่เอากำลังมาต่อสู้กัน และไม่มีใครกล้าต่อสู้กับประชาชน
ส่วนการชุมนุมพุ่งเป้าไปที่เรื่องสถาบัน นายอนุทิน ระบุว่า ต้องดูที่เจตนารมณ์ สถาบันไม่เคยทำความเดือดร้อนอะไรให้กับประชาชนคนไทยทุกวันนี้ที่ประเทศมาแบบนี้ได้โบราณนานกาลมา ไม่ใช่เพราะพระมหากรุณาธิคุณหรือ นี่คือความคิดของตน
“อนุทิน”ยันกระจายวัคซีนตามหลักวิชาการและระบาดวิทยา เน้นกลุ่มเสี่ยง กลุ่มจังหวัดท่องเที่ยว ย้ำ ณ สถานการร์ปัจจุบัน วัคซีนจาก 2 ยี่ห้อนั้นเพียงพอแล้ว ไม่ได้ขาดแคลน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร เป็นจำนวนมาก ว่ายังรับมือได้ เพราะทราบที่มา จากกลุ่มแรงงานต่างด้าวสมุทรสาคร กลุ่มเดิม โดยจะมีการใช้มาตราการควบคุมโรค ตามที่ ศบค. มีมติไปแล้ว ไม่อยากให้ประชาชนรู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพื้นฐานความปลอดภัย หากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขมาตรการในช่วงสงกรานต์นี้ ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยเช่นกัน
ส่วนวัคซีนโควิด ล็อตล่าสุดของซิโนแวคที่เข้ามา 8 แสนโดส จะส่งไปใช้สำหรับบุคคลกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มจังหวัดท่องเที่ยว หลักๆ คือ ภูเก็ต 1 แสนโดสและเกาะสมุย 5 หมื่นโดส ที่เหลือจังหวัดสมุทรสาคร โดยการกระจายวัคซีนในครั้งนี้ เป็นไปตามหลักวิชาการและระบาดวิทยา ไม่ได้ทำตามนโยบาย ส่วนกรุงเทพมหานคร และปทุมธานี ก็จะจัดวัคซีนลงไป โดยเฉพาะกลุ่มแพทย์ ซึ่งจะต้องรอสรุปจากอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงผลสรุปการกระจายวัคซีนอีกครั้ง
ส่วนเดือนหน้า ก็จะมีการนำเข้าวัคซีนอีก 1 ล้านโดส และมีความเป็นไปได้ที่จีนจะจัดส่งเพิ่มเติมได้มากกว่า 1 ล้านโดส ในเดือน เม.ย.- พ.ค. และจะต่อเนื่องกับวัคซีนจากแอสตราเซเนกา ที่ผลิตในประเทศไทย จะมาต้นเดือน มิ.ย. ก็จะมีความต่อเนื่องและคล่องตัวมากขึ้น
สำหรับโปรแกรมการฉีดวัคซีน วางเอาไว้ตั้งแต่เดือน มิ.ย. เป็นต้นไป แต่เมื่อเกิดคลัสเตอร์ใหม่ๆ ขึ้นมาก็มีความจำเป็นที่จะต้องจัดหาวัคซีนเข้ามาเพิ่มเติมยืนยันว่าสถานการณ์เช่นนี้ วัคซีนจาก 2 ยี่ห้อนั้นเพียงพอแล้ว ไม่ได้ขาดแคลน หากมากกว่านี้ก็ไม่ไหว เพราะคุณสมบัติของแต่ละยี่ห้อแตกต่างกัน เช่น ระยะเวลาในการฉีด การตอบสนอง ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอยากให้มีการนำเข้ามาหลากหลายยี่ห้อนั้น ไม่สามารถทำได้ บางยี่ห้อใช้เข็มเดียว บางยี่ห้อต้องหลายโดสเพราะบริหารจัดการลำบาก
“อนุทิน”เชื่อไม่น่ามีปัญหาภูเก็ตขอวัคซีน 9 แสนโดส เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยว กค.นี้ ยันเป็นความตั้งใจอยู่แล้ว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง กรณีที่จังหวัดภูเก็ต ขอวัคซีน 9 แสนโดส เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ภายในวันที่ 1 ก.ค. 64 โดยไม่ต้องกักตัว ว่า เป็นไปได้ ยกตัวอย่างในเดือน มิ.ย. บริษัทแอสตราเซเนกา จะส่งวัคซีนมากอีก 5 ล้านโดส หลังจากนั้นเดือนละ 10 ล้านโดส หากจังหวัดภูเก็ตต้องการ 9 แสนโดส ก็ไม่ใช่ปัญหา ไม่ใช่เรื่องใหญ่
โดยจะมีการกระจายให้กลุ่มประชาชน กองทัพ ทหาร ตำรวจ ที่อยู่บริเวณชายแดนกอ่น ซึ่งก่อนหน้านี้ได้พบกับเสนาธิการทหารบก อย่างไม่เป็นทางการก็ได้มีการพูดคุยถึงการกระจาย วัคซีนให้กับกลุ่มดังกล่าว ซึ่งในอนาคตคาดว่าไม่น่ามีปัญหาเรื่องการเกิดผลข้างเคียง เรื่องประหยัดเงินไม่สำคัญเท่ากับการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกลุ่มประชาชนทั้งหมด
ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวถึง โอกาสที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือน ก.ค. ว่าในช่วงนั้นแนวโน้มทุกอย่างคงดีขึ้น มีคนป่วยน้อยลงความเสี่ยงในการแพร่เชื้อน้อยลง เชื่อว่าควบคุมสถานการณ์ได้ ทุกอย่างจะสามารถกลับมาได้ เป็นความตั้งใจไว้อยู่แล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news