“นภินทร” พร้อมผลักดันโกโก้ระนองเข้าสู่ตลาดโลก
“นภินทร” พร้อมผลักดันโกโก้ระนองเข้าสู่ตลาดโลก หลังเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนโกโก้ระนอง
ที่จ.ระนอง นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยมชมบริษัท บริษัท วิสาหกิจชุมชนโกโก้ จังหวัดระนอง โดยมี นายธันย์ปวัฒน์ เศวตภัทรวาทิน ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโกโก้ระนอง ให้การต้อนรับ ว่าในพื้นที่ภาคใต้มีเกษตรกรที่ปลูกโกโก้กันเป็นจำนวนมาก เพราะโก้โก้เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูง จึงได้เห็นถึงโอกาสจากโกโก้พืชท้องถิ่นของจังหวัด เป็นที่ต้องการของกลุ่มคนรักโกโก้ อีกทั้งเล็งเห็นโอกาสที่จะผลักดันให้เป็น COCOA HUB เมืองไทย และช่วยผลักดันตลาดโกโก้ในเมืองไทยให้เข้าสู่ตลาดโลกได้ในอนาคต ซึ่งวิสาหกิจชุมชนโกโก้ระนอง ถือเป็นต้นแบบของผลิตภัณฑ์โกโก้ที่มีคุณภาพ สามารถพัฒนาต่อยอดได้อย่างแน่นอน จากการที่สร้างเป็นแหล่งรู้เกี่ยวกับโกโก้ และกรรมวิธีในการผลิตโกโก้ที่หลากหลายรูปแบบ ทั้งคาเฟ่ เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ และได้หารือถึงการส่งเสริมการขยายโอกาสการส่งออก ตลอดจนความสามารถทางการแข่งขันของสินค้า และกระจายสินค้า ซึ่งตนได้ฝากถึงผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยในด้านการควบคุมคุณภาพให้มีมาตรฐานสม่ำเสมอซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งในการส่งออกควบคู่ไปกับการจัดทำระบบบริหารจัดการที่ดี
วิสาหกิจชุมชนโกโก้ระนอง เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2563 โดยนายธันย์ปวัฒน์ เศวตภัทรวาทิน ด้วยความต้องการกลับมาพัฒนาชุมชนบ้านเกิด ในพื้นที่จังหวัดระนอง ซึ่งมีสินค้าเกษตรโดดเด่นมากมาย อาทิ ทุเรียน มังคุด กาแฟ จึงมองหาสินค้าเกษตรใหม่ๆ และตัดสินใจสร้างความแตกต่างด้วยการฟื้นฟูการปลูกโกโก้ให้กลับมาอีกครั้งต่อมา ได้เข้าร่วมโครงการสนับสนุนและพัฒนาคลัสเตอร์ SME ปี 2564 ในกลุ่มคลัสเตอร์โกโก้ภาคใต้และได้รับเลือกจากกลุ่มผู้ประกอบการให้เป็นผู้ประสานงานคลัสเตอร์ หรือ CDA (Cluster DevelopmentAgent : CDA) ของกลุ่ม โดย สสว. ได้ดำเนินกิจกรรมการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ
1) ประชุมจัดทำแผนพัฒนาคลัสเตอร์ สำหรับการวางแผนพัฒนากลุ่มคลัสเตอร์โกโก้ภาคใต้ระยะสั้นระยะกลาง และระยะยาว โดยสรุปแผนพัฒนากลุ่มคลัสเตอร์โกโก้ภาคใต้
2) ให้ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนการตลาด ก่อนการออกตลาดมีการประชุมอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนการตลาด
3) พัฒนาศักยภาพในเชิงลึก รับฟังและปรับปรุงตามคำแนะนำของที่ปรึกษา โดยผู้ประกอบการประสบปัญหาขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องถึงรูปแบบและวิธีการหมักและการตากที่เหมาะสม ทำให้เกิดเมล็ดโกโก้ที่เน่าเสียจากระบวนการหมักและเมล็ดโกโก้ที่ขึ้นราจากกระบวนการตากเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ผลที่ได้รับจากการพัฒนา พบว่า ผู้ประกอบการสามารถลดการสูญเสียต้นทุนได้ โดยเก็บรักษาวัตถุดิบเมล็ดโกโก้แห้ง หรือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการจัดการสวนโกโก้ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น และสามารถนำความรู้ที่ได้มาใช้ในการปรับปรุงสถานที่และวิธีการจนสามารถขอการรับรองสินค้าได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถเพิ่มกลุ่มลูกค้า เพิ่มช่องทางการขาย และสามารถต่อยอดไปยังธุรกิจอื่นต่อไปได้อย่างดี
นายนภินทร กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการสนับสนุน และพัฒนาคลัสเตอร์มาอย่างต่อเนื่อง หลายกลุ่มอุตสาหกรรมด้วย ตนเห็นถึงความสำคัญของการสร้างและการพัฒนาคลัสเตอร์ของผู้ประกอบการ SME ที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ โดยมีการสร้างความเชื่อมโยงกันระหว่างผู้ประกอบการ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ หรือตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ และสามารถจัดจำหน่ายได้ทั้งในและต่างประเทศ สอดรับกับนโยบายการวางรากฐานระบบเศรษฐกิจสู่อนาคตในการสร้างผู้ประกอบการยุคใหม่ และสอดคล้องกับแผนการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนของประเทศต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews