รบ.เตรียมมาตรการหนุนท่องเที่ยวสงกรานต์
รัฐบาลเตรียมมาตรการสนัสนุนประชาชนเดินทางท่องเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ หยุดยาว 6 วัน เสนอ ครม.อนุมัติทัวร์เที่ยวไทย-เราเที่ยวด้วยกันเฟส3
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าแม้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือศบค.จะขอความร่วมมือในช่วงเทศกาลสงกรานต์งดสาดน้ำ ประแป้ง จัดคอนเสิร์ต ปาร์ตี้โฟม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่รัฐบาลยังสนับสนุนให้ประชาชนออกเดินทางท่องเที่ยว รวมถึงอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยสงกรานต์ปี2564รัฐบาลยังกำหนดให้วันที่ 12 เม.ย. เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษ ซึ่งเมื่อรวมกับวันเสาร์-อาทิตย์ จึงทำให้สงกรานต์ปีนี้ มีวันหยุดยาว 6 วันรวด ตั้งแต่วันที่ 10-15 เม.ย. เพื่อให้ประชาชนได้ออกเดินทางท่องเที่ยว เป็นการมอบความสุขให้ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย
สำหรับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ได้หารือเพื่อกำหนดโครงการรับรองการท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์อย่างต่อเนื่อง โดย ททท.ได้ออกหลายแคมเปญ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ขณะที่ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการทัวร์เที่ยวไทย สนับสนุนการสมทบเงินให้ประชาชนรับสิทธิเพื่อเดินทางท่องเที่ยว รวมถึงโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส3ภายหลังที่ประชุมครม.มีมติให้นำกลับไปทบทวน อุตช่อง ป้องกันการทุจริต โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คาดว่า ทั้ง 2 โครงการจะเสนอที่ประชุม ครม.ได้ในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ รัฐบาลไม่ได้มีมาตรการจำกัดการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่สนับสนุนให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวตามแบบชีวิตวิถีใหม่ หรือ new normal พร้อมอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อพบปะครอบครัว รดน้ำดำหัว ขอพรผู้ใหญ่ สืบสานประเพณีปีใหม่ไทย โดยหวังให้ช่วงสงกรานต์ปีนี้ ซึ่งมีวันหยุดยาวรวม6วันเกิดการจับจ่ายใช้สอยเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจและเชื่อว่า มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายที่กำลังดำเนินการอยู่ ไม่ว่าจะเป็น โครงการเราชนะ โครงการม.33เรารักกันฯลฯ จะตอบโจทย์ประชาชนเป็นอย่างดีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news