Home
|
ข่าว

ไทย-ศรีลังกา มุ่งพัฒนายกระดับความร่วมมือเศรษฐกิจ

Featured Image
ไทย-ศรีลังกา มุ่งพัฒนาความสัมพันธ์ ยกระดับความร่วมมือเศรษฐกิจ เชื่อมโยง ผ่าน FTA ไทย-ศรีลังกา MOU การเดินอากาศ และการพัฒนาอัญมณี

 

 

 

 

 

 

ณ ห้อง Chamber Hall สำนักประธานาธิบดีศรีลังกา กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นสักขีพยานร่วมกับนายรานิล วิกรมสิงเห (H.E. Mr. Ranil Wickremesinghe) ประธานาธิบดีศรีลังกา ในการลงนาม 3 ฉบับ ได้แก่ ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-ศรีลังกา

 

 

โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย และนายกัจจกธุเค นลิน รุวันชีวะ เฟอร์นานโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ การค้า และความมั่นคงทางอาหาร เป็นผู้ลงนามฝ่ายศรีลังกา

 

 

ร่างความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศฉบับใหม่ระหว่างไทยและศรีลังกา ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อแทนที่และยกเลิกความตกลงฯ ฉบับที่ลงนามเมื่อวันที่ 24 กพ. 2493 โดยจะลดอุปสรรคและอำนวยความสะดวกด้านการค้า การบริการทางอากาศระหว่างทั้งสองประเทศ สิทธิทางการบิน ความปลอดภัย ศุลกากรฯลฯ ให้สอดคล้องกับมาตรฐานขององค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) โดยฝ่ายไทยมีนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ลงนาม และนายนิเลตตี นิมัล สิริปาละ เด ซิลวา (Hon. Niletthi Nimal Siripala De Silva)

 

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่าเรือและการขนส่งทางทะเล เป็นผู้ลงนามฝ่ายศรีลังกา, บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กับ The Gem and Jewellery Research and Training Institute of Sri Lanka เพื่อความร่วมมือด้านการพัฒนาอัญมณีและส่งเสริมการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ

 

 

ซึ่งไทยสามารถเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบและแหล่งอัญมณี รวมทั้งการแลกเปลี่ยนและฝึกอบรมบุคลการที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย โดยมีนายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย และ นาย บี. จี. อาร์. ดับเบิลยู. กัมลัต (Mr. B. G. R. W. Gamlath) ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและฝึกอบรมอัญมณีและเครื่องประดับแห่งศรีลังกา เป็นผู้ลงนามฝ่ายศรีลังกา

 

 

โดยนายกรัฐมนตรีรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประธานาธิบดีและรัฐบาลศรีลังกา โดยการหารือระหว่างกันวันนี้ ไทยและศรีลังกาต่างยืนยันความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและใกล้ชิดในทุกระดับ ซึ่งมีรากฐานความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านพระพุทธศาสนา

 

 

ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำถึงศักยภาพมหาศาลระหว่างกัน โดยไทยเชื่อว่าการลงนาม FTA จะกระตุ้นการค้าและการลงทุนให้มากขึ้น และการลงนาม MOU อีก 2 ฉบับ ทั้งด้านการบินและการพัฒนาอัญมณี จะช่วยส่งเสริมความเชื่อมโยง การท่องเที่ยว และการขนส่ง ในอนาคต นอกจากนี้ การประชุม Sri Lanka – Thailand Business Forum จะเป็นการเวทีในการสร้างโอกาสทางธุรกิจที่จะตามมาอีกมากให้กับภาคเอกชนของทั้งสองฝ่าย ซึ่งผู้นำไทยและศรีลังกาต่างสนับสนุนให้ภาคเอกชนขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้นในอนาคต

 

 

ด้านการลงทุน ไทยมีเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยโครงการ Landbridge ซึ่งเชื่อมโยงทะเลอันดามันกับอ่าวไทย และลดระยะเวลาการขนส่งระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย โดยไทยและศรีลังกาสามารถร่วมมือกันในการเสริมสร้างความเชื่อมโยง และโครงสร้างพื้นฐาน ผ่านโครงการ Landbridge ของไทย และท่าเรือโคลัมโบของศรีลังกา

 

 

ด้านการท่องเที่ยว ไทยยินดีที่การบินไทยจะกลับมาให้บริการเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ระหว่างกรุงเทพฯ และโคลัมโบ ทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.67 ซึ่งจะทำให้ทั้งสองประเทศใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ไทยยังเสนอความร่วมมือไตรภาคีเกี่ยวกับการท่องเที่ยวทางเรือสามประเทศ ระหว่างอินเดีย ศรีลังกา และไทย รวมทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและพุทธศาสนาระหว่างกัน

 

 

ด้านการพัฒนา ไทยสนับสนุนการสร้างขีดความสามารถ และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของศรีลังกา โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรมและการประมง และยินดีที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำเร็จของการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญในด้านการเพาะเลี้ยงปลาการ์ตูน และโครงการในด้านสวัสดิภาพและถิ่นที่อยู่ของช้างระหว่างกัน โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมการอำนวยความสะดวกของศรีลังกาในการส่งพลายศักดิ์สุรินทร์กลับประเทศ และขอบคุณการดูแลช้างไทยอีกสองเชือก ซึ่งช้างนับเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพและความสัมพันธ์อันใกล้ชิด2ประเทศ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube