นายกฯ วางนโยบายเร่งส่งเสริมความแข็งแกร่ง SMEs ไทย พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรม MICE เชื่อ กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ สร้างงาน รายได้-อาชีพให้ท้องถิ่น รวมถึงยกระดับให้ไทยเป็นจุดหมายสำคัญ MICE ของโลก
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำหนดนโยบายในการส่งเสริม SMEs และ อุตสาหกรรม MICE ด้วยตระหนักดีว่าเป็นภาคส่วนที่มีศักยภาพ และมีความสำคัญ กระจายความเจริญทางเศรษฐกิจ สร้างงาน อาชีพ กระจายรายได้ และเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ
ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ประกาศเป้าหมายซึ่งเป็นเป้าหมายที่รัฐบาลร่วมมือกับทุกภาคส่วนกำหนด รวมทั้งกรอบระยะเวลาดำเนินงาน ผ่านมาตรการส่งเสริม SMEs 9 ด้าน ที่จะผลักดันให้ GDP ของ SMEs ไทยเพิ่มจาก 35.2% เป็น 40% ได้ภายในปี 2570 โดยมาตรการทั้ง 9 ประกอบด้วยการบูรณาการระหว่างหน่วยงานเพื่อแลกเปลี่ยนและสนับสนุนองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับ SMEs, สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย, บริหารจัดการสินค้าเกษตร
เพื่อรักษาสมดุลของอุปสงค์และอุปทานในท้องตลาด, พัฒนาร้านค้าโชห่วยด้วยระบบการค้าสมัยใหม่ที่นำเทคโนโลยีมาปรับใช้, ส่งเสริมการเติบโต SMEs ในท้องถิ่นให้เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐผ่านระบบ Thai SME-GP ทาง www.Thaismegp.com, สนับสนุนและสร้างมาตรฐานธุรกิจ e-Commerce, ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก, สร้างอาชีพผ่านระบบธุรกิจแฟรนไชส์ และ SMEs และเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศด้วยการกระตุ้นให้แรงงานต่างด้าวในไทยซื้อสินค้าและส่งกลับภูมิลำเนาแทนการส่งเงิน พร้อมกันนี้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ เป็นอีกภาคส่วนที่มีศักยภาพรัฐบาลต้องการผลักดันเพราะเป็น อุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเพื่อใช้เป็นปัจจัยสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว เป็นจุดเชื่อมต่อเที่ยวบินระหว่างประเทศจากทั่วโลก และการอำนวยความสะดวกเรื่องการขอวีซ่าและสถานที่ ในการจัดแสดงสินค้าของประเทศในการยกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจสำหรับการจัดประชุมและแสดงสินค้าที่มีศักยภาพ
และพร้อมรองรับนักเดินทาง MICE ต่างชาติซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ ทั้งนี้ ได้กำหนดเป้าหมายว่าจะผลักดันให้มีนักเดินทาง MICE จากต่างประเทศ จำนวน 23.2 ล้านคนเดินทางเข้ามายังประเทศไทยในปี 2567 โดยใช้กลยุทธ์การผสมผสานอัตลักษณ์ความเป็นไทยผ่านการใช้นวัตกรรมสร้างสรรค์ในการสร้างความแตกต่างที่โดดเด่นให้กับไทยในฐานะพื้นที่เป้าหมายของนักเดินทาง MICE จากทั่วโลก
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี พิจารณาถึงภาคส่วนที่ไทยมีศักยภาพ พร้อมให้การสนับสนุน เพื่อสร้างโอกาส ทั้งผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งมีศักยภาพ ทั้งความสร้างสรรค์ และคุณภาพ พร้อมการแข่งขันกับทุกตลาด และการขับเคลื่อน MICE ไทยให้เป็นอีกจุดหมายสำคัญของการจัดประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เป็นจุดหมายปลายทางของ MICE โลก ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าทั้งสองอุตสาหกรรมจะเป็นเครื่องจักรสำคัญที่จะสร้างงานผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews