Home
|
ข่าว

ปธ.กกต.เผยไม่อำนาจพิจารณาดิจิทัลวอลเล็ต-ดูอยู่ยุบกก.

Featured Image
ปธ.กกต.เผยไม่อำนาจพิจารณานโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรบ.จะเดินหน้าได้หรือไม่ – ส่วนความคืบหน้า พิจารณายุบพรรคก้าวไกล ตามที่มีผู้ร้อง อยู่ระหว่างการพิจารณาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างละเอียด

 

 

 

 

หลังจาก สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ให้ข้อเสนอแนะไปยังรัฐาลที่มีต่อโครงดิจิทัลวอลเล็ต และมีข้อเสนอให้ทางกกต. พิจารณาด้วยว่ามีการกระทำความผิดหรือไม่ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. เปิดเผยว่า เรื่องนโยบายหาเสียงมีบทบัญญัติใน พ.ร.บ. พรรคการเมือง มาตรา 57 หากพรรคการเมืองมีหาเสียงด้วยนโยบายที่ต้องใช้เงิน

 

 

ต้องส่งเอกสารให้กกต. แสดงถึงวงเงินและที่มาของเงินประโยชน์ความคุ้มค่าความเสี่ยงผลกระทบ หน้าที่ของกกต.ก็ต้องดูว่าพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้มีการส่งเอกสารตามมาตรา 57 ครบหรือไม่ หากยังไม่ครบก็สามารถทวงได้และหากช้าก็มีค่าปรับ แต่ไม่ได้บอกให้เราต้องไปดูว่านโยบายที่เสนอมาถูกต้องหรือทำความเสียหายหรือไม่ ไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกกต.

 

 

แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่า นโยบายการหาเสียงของพรรคเพื่อไทยไม่ตรงปก นายอิทธิพร กล่าวว่า ในประเด็นนี้ยังไม่ได้ข้อยุติในการดำเนินการของรัฐบาลเมื่อมีข้อเท็จจริงปรากฏแล้วก็อาจจะเป็นประเด็นที่เข้าสู่หน้าที่ของกกต.ก็ได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น โดยต้องดูข้อเท็จจริงสุดท้ายในการดำเนินนโยบายว่าสอดคล้องกับที่หาเสียงไว้หรือไม่อย่างไรต้องดูข้อเท็จจริงที่จะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

 

 

 

ซึ่งกระบวนการทำงานของกกต. ถ้ามีผู้ร้องก็สามารถตรวจสอบได้ แต่ต้องดูให้กระบวนการดำเนินการของรัฐบาลตามที่หาเสียงไว้ ได้ข้อเท็จจริงปรากฏชัดเจนก่อน ตอนนี้ยังเป็นเรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินการของรัฐบาล เวลานี้ไม่อยากพูดอะไรที่เป็นการคาดคะเน เมื่อถามถึงบทบาทหน้าที่ของกกต.ที่เวลานี้มองว่า กำลังมีคนใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของผู้มีอำนาจในการกำจัดคนเห็นต่าง โดยเฉพาะการยื่นยุบพรรค นายอิทธิพร กล่าวว่า กกต. ไม่ได้คิดแบบนั้นถ้าใครมีความคิด คงห้ามผู้คิดไม่ได้ แต่กฎหมายบัญญัติไว้เสมอว่ากกตมีหน้าที่อะไรบ้างเมื่อถึงเวลาทำหน้าที่ กกตก็ต้องทำคงไม่ได้เป็นเครื่องมืออะไร

 

 

 

เมื่อถามย้ำว่ามีคนมอง กกต. มักจะอยู่คนละฟากกับรัฐบาลซึ่งมีการยุบพรรคในอดีตคือพรรคอนาคตใหม่และปัจจุบันคือก้าวไกล นายอิทธิพร กล่าวว่า จริงๆแล้วการยุบพรรคหรือไม่ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ไม่ได้ดูชื่อพรรคเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏการกระทำของพรรคการเมืองพรรคใดเป็นอย่างไรแล้วเมื่อเรื่องมาถึงอำนาจหน้าที่ของกกตก็ทำตามนั้น ที่ผ่านมาพยายามทำกฎหมายใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการทำงานโดยแท้

 

 

สำหรับเรื่องพรรคก้าวไกลเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย และต่อมาเมื่อมีคนมาร้องต่อกกต. ก็ต้องมีการ ทำงานตามปกติในส่วนของสำนักนายทะเบียนกกต. ไปศึกษาคำวินิจฉัยศาลเท่าที่มีอยู่และไปศึกษาตามพรบพรรคการเมืองจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้างตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ในนั้น และเพื่อให้การ ทำงานเป็นไปอย่างรอบคอบอาจจำเป็นต้องศึกษาคำวินิจฉัยกลางซึ่งศาลรัฐธรรมนูญกำลังทำออกมา ภายใน 2 สัปดาห์หลังจากนั้น ซึ่งก็อาจจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ และเมื่อกกต.มีคำวินิจฉัยกลางแล้ว

 

 

ได้ข้อมูลและเอกสารครบถ้วนถึงเวลาต้องวินิจฉัยก็จะวินิจฉัยตามนั้นแต่ในส่วนของกกต.จะวินิจฉัยเสร็จสิ้นเมื่อไหร่นั้นขึ้นอยู่กับข้อมูลเอกสารประกอบ ดูว่ามีเหตุอันควรเป็นการกระทำที่ผิดหรือไม่ โดยไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจนแต่เรื่องดังกล่าวก็ไม่สามารถดำเนินการ อย่างชักช้าได้เพราะมีคำวินิจฉัยชัดเจนอยู่แล้ว แต่ด้วยกระบวนการทำงาน หากทำละเอียดครบถ้วนได้ก็จะเป็นประโยชน์

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube