นายกรัฐมนตรี ยันไม่ได้จมปรักลดดอกเบี้ยนโยบาย บอกส่งสัญญาณหลายครั้ง แต่ไม่มีการตอบรับ ชี้ ลดสลึงเดียว ก็ช่วยบรรเทาภาระประชาชนได้ พร้อมแจง GDP ทั้งปีโตไม่ถึง 2% เหตุไม่มีเม็ดเงินในระบบ ยันพยายามเร่งดิจิทัลวอลเล็ตให้ทัน พค.นี้
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่ขณะนี้ตัวเลข GDP ประเทศตกต่ำโดยรวมโตทั้งปีเพียง 1.9% ซึ่งต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทุกคนทราบความต้องการของตนเองอยู่แล้วว่า รัฐบาลนี้เข้ามายังไม่สามารถใช้งบประมาณได้แต่ทุกกระทรวงได้ใช้นโยบายเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น
แต่วันนี้ต้องยอมรับว่าไม่มีเม็ดเงินใหม่เข้าไปในระบบเลย ซึ่งหลายสำนักมีการปรับประมาณการณ์จีดีพีลงอย่างต่อเนื่องทุกเดือน ซึ่งรัฐบาลได้พยายามดำเนินการทุกมาตรการที่มีอยู่ ส่วนตัวขอฝากไว้ว่านโยบายดอกเบี้ยไม่ต้องใช้งบประมาณ ซึ่งขณะนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2.5 %หากลดลงเหลือ 2.25 %เพียงสลึงเดียวก็จะช่วย บรรเทาภาระของพี่น้องประชาชนทุกคนได้แต่เค้าไม่ลดกัน
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีได้พูดเรื่องนี้มาตลอด แต่ไม่ได้รับการตอบรับจากธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น นายกรัฐมนตรี ถามกลับสื่อว่า ดอกเบี้ยนโยบายใครเป็นคนควบคุม ก็คือธนาคารแห่งประเทศไทย ตนพูดคุยกับเลขาธิการสภาพัฒน์ ก็บอกว่าเราได้ทำทุกวิถีทางแล้ว และมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ย
ซึ่งเลขาธิการสภาพัฒน์ระบุว่าได้คุยกับผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทยว่า ถึงเวลาที่จะต้องรถ ตนจึงบอกว่าทำไมไม่พูดคุยต่อหน้าสาธารณะชนบ้าง และพูดคุยในภาษาที่ชัดเจน ซึ่งเลขาสภาพัฒน์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยและตนเอง ก็จบเศรษฐศาสตร์มา ตรงนี้เราไม่ได้มาเอาชนะกัน แต่ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่จะมีการลดดอกเบี้ยเกิดขึ้น เพื่อรองบประมาณที่จะคลอดออกมา
ตนก็ได้สอบถามกับเลขาธิการสภาพัฒน์ว่า สามารถทำอะไรได้อีก หากมีอะไรที่ทำได้ก็ขอให้เสนอมา ตนไม่ได้จมปรักอยู่กับการลดดอกเบี้ยอย่างเดียว แต่การลดดอกเบี้ยเป็นการแบ่งเบาภาระของประชาชนคนไทยทุกคน ซึ่งเห็นอยู่แล้ว สำหรับตัวเลขที่ออกมา อย่างเช่น นโยบายดิจิทัล วอลเล็ต ก็พยามที่จะออกมาให้เร็วที่สุด
กรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่า การเติมเงินเข้าไปในระบบจำนวน 500,000 ล้านบาท จะทำให้เงินเฟ้อ นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า ปัจจุบันนี้ตัวเลขเงินเฟ้อติดลบอยู่แล้ว หากจะบอกว่าติดลบจากการที่รัฐบาลช่วยเหลือประชาชนผ่านมาตรการลดราคาน้ำมัน หรือพยุงราคาไฟฟ้า ซึ่งหากถอดดัชนีตรงนี้ออกไป เงินเฟ้อขึ้นมาไม่ถึง 1% ยังไม่ถึงกรอบต่ำสุดด้วยซ้ำ
ซึ่งหลายเรื่องที่รัฐบาลทำต้องใช้เวลารวมไปถึงโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ด้วย หากทุกคนเห็นด้วยและพิสูจน์ให้ได้ว่าไม่มีการทุจริต และประพฤติมิชอบ ก็จะพยายามทำให้เร็วที่สุด อยากจะให้เกิดขึ้นภายในเดือนพฤษภาคม และนโยบายอื่นก็พยายามดำเนินการอยู่ ซึ่งรัฐบาลพยายามดำเนินการทุกอย่างที่สามารถทำได้ ณ วันนี้ ยินดีรับฟังว่าอยากให้รัฐบาลทำอะไร แต่ต้องคำนึงว่างบประมาณสามารถใช้ได้หรือไม่ อย่างเร็วที่สุด 1 เมษายน ซึ่งพยามเร่งอยู่แล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews