“จุรินทร์” ชี้ นักโทษเทวดา ซ้ำเติมความเสื่อมรัฐบาล ผสมกับการไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน ขณะ 20 สส.ปชป. ยื่นรายชื่อ ขอแก้พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ปี 60 ให้กรรมการอิสระชี้เรื่องลดโทษและพักโทษแทนกรรมการราชทัณฑ์
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการพักโทษของนายทักษิณ ชินวัตรว่า กรณี”นักโทษเทวดา” จะกลายเป็นจุดซ้ำเติมความเสื่อมของรัฐบาล โดยต้องยอมรับว่า หลายเดือนที่รัฐบาลเข้ามาบริหารราชแผ่นดินดิน นอกจากจะไส่มีผลงานเป็นรูปธรรสแล้ว ยังเกิดกรณีนักโทษเทวดา ยิ่งซ้ำเติมความเสื่อมของรัฐบาล
โดยเฉพาะการรู้เห็นเป็นใจ ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี จนถึงเจ้าหน้าที่รัฐ จึงสะท้อนปรากฏการณ์ให้เห็น และที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ นายทักษิณทจะกลายเป็นการส่งสัญญาณ ทำให้คนไทยเกิดความเข้าใจว่า โกงแล้วได้ดี เพราะฉะนั้น ในอนาคตหากใครคิดจะโกงได้ไม่เป็นไร สุดท้ายแล้วหากมีปัญหา ถูกลงโทษแลัว ก็อาจกลายเป็นนักโทษเทวดาก็ได้ เพราะฉะนั้น มันเป็นเรื่องที่ตนคิดว่า เป็นการส่งสัญญาณที่เป็นตาบาป สำหรับรัฐบาล ในการที่จะต้องรับผิดชอบ และจะติดตังรัฐบาลตลอดไปต่อไปในเรื่องนี้
ส่วนการพักโทษนายทักษิณจะส่งผลอย่างไรต่อรัฐบาลที่เป็นอำนาจซ้อนอำนาจนั้น นายจุรินทร์ เห็นว่า ความจริงมีมาตั้งแต่ตั้งรัฐบาลแล้ว ซึ่งตนก็เติสไปว่า อย่าให้ถึงปับมี 3 คนก็แล้วกัน อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ สิ่งนี้ทุกคนก็เห็นอยู่สำหรับผู้ที่ติดตามการเมืองว่า เมื่อเกิดกรณีที่รัฐบาลมีรูปแบบนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีเกิน 1 คนเสมอ ซึ่งอดีตมันสอนเราอยู่แล้ว ไม่ต้องย้อนว่ารัฐบาลไหนอย่างไร ส่วนที่เปรียบเทียบกับรัฐบาลกัมพูชา ความจริง กุมพูชา ก็เคยมีนายกรัฐมนตรี 2 คน แต่ถ้าเรามีเกิน 2 คนก็จะล้ำเกินกว่ากัมพูชา
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงการเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ ของพรรคประชาธิปัตย์ เหี่ยวกับการพิจารณาพักโทษทโดยมีคณะการอิสระว่า พรรคประชาธิปัตย์ มีมติจะเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งปัจจุบันอำนาจการพักโทษเป็นอำนาจกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม เป็นกลไกหลัก แต่ร่างกฎหมายที่พรรคปรถชาธิปัตย์ จะเสนอแก้ไข จะวห้เป็นหน้าที่ของคณะการอิสระ ที่ประกอบด้วยผู้แทนศาลยุติธรรม ศาลปกครอง อัยการสูลสุด ผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะกรรมการรสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. มเพื่อให้การบังคับใช้คำพิพากษาของศาลมีความเข้มแข็ง เป็นไปตามหลักกระบวนการยุติธรรมให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช เข้าชื่อสส.พรรคประชาธิปัตย์ 20 รายชื่อ เพื่อยื่นขอแก้ไขร่างพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560
โดยนายพิทักษ์เดช ยืนยันว่า ไม่ได้มีความขัดแย้งกับใคร แต่เมื่อกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นปลายทางของกระบวนการยุติธรรม ใช้อำนาจในลักษณะที่ทำให้เกิดความสงสัย กับสังคม ขัดกับหลักบ้านเมือง หลักนิติรัฐนิติธรรม จึงจำเป็นต้องยื่นขอแก้ไขพระราชบัญญัตินี้ เพื่อให้มีการถ่วงดุลอำนาจมากยิ่งขึ้น โดยที่สภาฯชุดที่แล้ว พรรคประชาธิปัตย์เคยยื่นเสนอแก้ไขกฎหมายฉบับนี้มาแล้ว แต่เมื่อสภาฯหมดวาระไป จึงทำให้เรื่องตกไป
ทั้งนี้ เหตุผลในการยื่นแก้กฎหมายดังกล่าวเนื่องจากมีบทบัญญัติบางประการไม่สอดคล้องกับหลักการทางอาญาตามมาตรฐานสากล ทำให้สังคมตั้งข้อสงสัย เกี่ยวกับกระบวนการภายในของกรมราชทัณฑ์ เช่นรูปแบบและโครงสร้างของคณะกรรมการราชทัณฑ์ หลักการและเงื่อนไขการพิจารณาลดวันต้องโทษ จำคุก การพักการลงโทษของผู้ต้องขัง ดังนั้นจึง ควรแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดกระบวนการรัดกุมโปร่งใส
โดยการขอแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายจะกำหนดให้มีคณะกรรมการที่มีความอิสระโปร่งใส และมีความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง เป็นผู้พิจารณาขั้นต้นเกี่ยวกับการลดวันต้องโทษจำคุก การพักการลงโทษของผู้ต้องขัง และให้ศาลที่คดีถึงที่สุดเป็นผู้พิจารณาวินิจฉัย และมีคำสั่งในการลดวันต้องโทษจำคุก การพักการลงโทษ ลงโทษของผู้ต้องขังในแต่ละคราวไป รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขขึ้นใหม่ ให้พิจารณา การลดวันต้องโทษจำคุก การพักการลงโทษของผู้ต้องขัง โดยเฉพาะคดีทุจริต คดีอาญา คดียาเสพติดที่ร้ายแรง และคดีอื่นๆที่เป็นภัยต่อสังคมอย่างร้ายแรง
นอกจากนั้น นายพิทักษ์เดช ยังกล่าวว่า จากกรณีที่เป็นข่าวอยู่ถือเป็นบาดแผลของกระบวนการยุติธรรมหากต้นน้ำซึ่งเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรมไม่ใสสะอาดรอบคอบในการพิจารณา น้ำที่ลงสู่อ่าว สู่ทะเลก็จะสกปรก
ทั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นบาดแผลสำคัญของกระบวนการยุติธรรมที่กระทบต่อหลักบ้านเมือง ที่ประชาชนพึ่งหวัง หลักนิติธรรมที่ รัฐบาลเคยให้คำมั่นต่อพี่น้องประชาชน เป็นเพียงแค่ลมปากเท่านั้น เชื่อได้ว่ากรณีเช่นนี้ เป็นการใช้บรรทัดฐานที่มีความแตกต่างกัน จะทำให้บุคคนที่หนีคดีอีกหลายคน ใช้กรณีแบบนี้เป็นตัวอย่างเพื่อหลบเลี่ยงในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม“
อย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดทั้งในและนอกสภา ยืนยันว่าประชาธิปัตย์ไม่มีความขัดแย้งกับใคร เป็นการส่วนตัวแต่การขัดแย้งการละเมิดหลักการของบ้านเมืองและความยุติธรรม จึงเรียกร้องให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร่วมกันผลักดันการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ให้เกิดผลสำเร็จ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews