Home
|
ข่าว

“ชัยธวัช” ชี้ ก่อนนิรโทษกรรมต้องสร้างกระบวนให้เกิดการยอมรับก่อน

Featured Image
“ชัยธวัช” ชี้ ก่อนนิรโทษกรรมต้องสร้างกระบวนให้เกิดการยอมรับก่อน มองสถานการณ์ความขัดแย้งต่างจากอดีต หากเร่งเสนอนิรโทษกรรมคดี ม.112 อาจเป็นอุปสรรคไปต่อไม่ได้

 

 

 

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และผู้นำฝ่ายค้านฯ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมกรรมาธิการฯ ว่า การพิจารณาเรื่องของเป้าหมายในการนิรโทษกรรม ครั้งนี้ จะแตกต่างจากการศึกษาการสร้างความปรองดองและความสมานฉันท์ทุกชุดที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ต่างกัน โดยเฉพาะความขัดแย้งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พร้อมเปิดเผยถึงสาระสำคัญข้อเสนอให้กรรมาธิการการพิจารณา

 

 

 

ทั้งนี้ ตนได้เสนอว่า การนิรโทษกรรมในครั้งนี้ จะต้องไม่ใช่การพิจารณาเรื่องนิรโทษกรรมเพียงอย่างเดียว ต้องมองในภาพรวม การสร้างความสมานฉันท์ การสร้างความปรองดองทางการเมือง ซึ่งเรื่องนี้ นิรโทษกรรมทางการเมืองเป็นหนึ่งในนั้น ไม่ควรมองแค่เรื่องนี้ นิรโทษกรรมและการนิรโทษกรรมในครั้งนี้ อยู่ในสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ที่ยังไม่ได้ยุติลง

 

 

ดังนั้น เป้าหมายควรจะเป็นการนิรโทษกรรมเพื่อหยุดขยายความขัดแย้ง เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์หรือความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในอนาคต และเปิดทางเพื่อให้สามารถหาข้อตกลงที่ยอมรับร่วมกันได้ทางการเมืองในอนาคต

 

 

นายชัยธวัช ย้ำด้วยว่า การสร้างความสมานฉันท์ ไม่ใช่แค่เพียงการตรากฎหมายนิรโทษกรรมเท่านั้น ส่วนกระบวนการที่จะทำให้ข้อขัดแย้งต่างๆ สามารถทำความเข้าใจลดการเผชิญหน้า ลดความหวาดระแวงลง และสร้างข้อตกลงร่วมกันร่วมกัน ซึ่งกระบวนการนี้มีความสำคัญและอาจกลายเป็นกระบวนการที่เป็นเงื่อนไขที่ต้องทำให้เกิดขึ้นก่อนจะเสนอให้มีการนิรโทษกรรม ซึ่งเนื้อหาจะไม่ได้จำกัดว่าจะนิรโทษกรรมให้กับใครบ้างหรือครอบคลุมแค่ไหน หรือนิรโทษกรรมอะไร แต่ต้องมีกระบวนการให้เกิดการยอมรับก่อนที่จะเริ่มนิรโทษกรรม

 

 

ขณะเดียวกัน ทุกเรื่องจะต้องทำให้เกิดกระบวนการยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนิรโทษกรรมเกี่ยวกับคดีมาตรา 112 ซึ่งเป็นหลักที่สำคัญ ที่วันนี้ได้เสนอในที่ประชุม ซึ่งยอมรับว่า ประเด็นนี้เป็นรายละเอียดที่ยังคงมีความเห็นต่างกัน แม้จะเห็นร่วมกันในหลักการใหญ่ ซึ่งบางคนเห็นว่า อาจรวมการนิรโทษมาตรา 112 ด้วย อาจกลายเป็นเป็นอุปสรรคที่ไม่สามารถจะนิรโทษกรรมใครได้เลย หรือหากไม่รวมการนิรโทษในคดีมาตรามาตรา 112 อาจจะไม่ตอบโจทย์การที่จะระงับการขยายตัวของความขัดแย้งในปัจจุบัน

 

 

ซึ่งแนวโน้มอาจจะมีหลายตัวเลือก แนวทางการสร้างความสมานฉันท์และการนิรโทษกรรมแล้วนำไปเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย หรือการนิรโทษกรรมในบางเรื่องบางคดีที่มีความเห็นแตกต่างกันเยอะ อาจจะมีการวางเงื่อนไขว่า จะต้องมีกระบวนการอย่างไรบ้าง เพื่อสร้างการยอมรับและนำไปสู่ข้อตกลงร่วมบางอย่าง จากนั้นถึงจะสามารถเสนอเรื่องนี้ ให้ไปสู่การนิรโทษกรรมได้

 

 

 

ส่วนกรณีที่มีภาพ”ตะวัน” นักเคลื่อนไหว ถูกหามส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ หลังอดอาหารนานกว่า9 วัน และยังมีนักเคลื่อนไหวหลายคนใช้วิธีการนี้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม นายชัยธวัช กล่าวว่า ตอนนี้พรรคไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องอะไรได้ และไม่ได้มีการส่งใครไปดูกรณีดังกล่าว ตอนนี้ให้เป็นกระบวนการของเจ้าหน้าที่ แต่เราก็มีความเป็นห่วง เพราะเรื่องนี้เป็นรูปธรรมที่สะท้อน

 

 

เรื่องของการนิรโทษกรรม ถ้าคิดจะนิรโทษกรรมแล้วเว้นฐานความผิดบางอย่างไว้แล้ว อาจจะไม่ตอบโจทย์ในสถานการณ์แบบนี้ เพราะสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ไม่อาจละเว้นคดีการเมืองบางอย่างได้ แต่ตนก็เข้าใจความเห็นที่แตกต่างกันว่า ถ้านิรโทษกรรมคนกลุ่มนี้ไปแล้ว จะนำไปสู่สภาวะแบบเดิมอีกหรือไม่ ตนเข้าใจความกังวลนี้ จึงเสนอให้ใช้คณะกรรมาธิการชุดนี้ลองศึกษาสร้างกระบวนการที่เป็นที่ยอมรับซึ่งกันและกันได้ หรือสร้างข้อตกลงร่วม ที่จะนำไปสู่สังคมในอนาคต ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ และเป็นเงื่อนไขหนึ่งในการนิรโทษกรรม

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube