เครือข่ายธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา ยื่นกมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ -สาธารณสุข คัดค้านติดฉลากเป็นรูปน่ากลัวบนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม. พรรคก้าวไกล นำตัวแทนเครือข่ายธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา นักวิชาการ รวมถึงสมาคมผู้ประกอบการนำเข้าและผลิตสุราแห่งประเทศไทย ผู้ผลิตไวน์ภายในประเทศ ยื่นหนังสือต่อนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลในฐานะประธานกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร และนายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เพื่อคัดค้านและเรียกร้องให้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง กรณีการติดฉลากเป็นรูปน่ากลัวบนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
โดยนายเท่าพิภพ กล่าวว่า เรื่องการติดฉลากเป็นรูปน่ากลัว เพื่อควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นประกาศของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข ที่รับฟังความคิดเห็นอยู่ ถือเป็นประเด็นสำคัญในสังคม
ทั้งนี้ มีโฆษกพรรคการเมืองและโฆษกของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กรมควบคุมโรค ก็ไปบอกว่า ตนบิดเบือนข้อมูลเรื่องนี้ จึงขอชี้แจงว่า หากไปดูตามมาตรา 26 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คณะกรรมการก็คือนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นั่งหัวโต๊ะ จะหาว่าตนบิดเบือนได้อย่างไรก็ไม่ทราบ
ขณะที่ ผศ.ดร.เจริญ เจริญชัย ตัวแทนของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มสุราพื้นบ้าน และนักวิชาการ กล่าวว่า การที่ผู้ประกอบการไม่ค่อยจะกล้าออกมาพูด เพราะว่าส่วนมากทำงานเกี่ยวกับการผลิตเครื่องดื่ม ที่อยู่ภายใต้หน่วยงานราชการที่ควบคุม เพราะฉะนั้น นักวิชาการก็ต้องเป็นหัวหอกนำหน้าให้ มองว่ามาตรา 26 ของ พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นปัญหา และมองว่าหน่วยงานราชการที่ดูแลกฎหมายเรื่องนี้ไม่ได้สนใจเลยว่าประชาชนจะได้รับผลกระทบอย่างไร ผู้ประกอบการจะได้รับผลกระทบอย่างไร
โดยที่ผลักดันกฎหมายออกมาอย่างสุดโต่ง เข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็น ถึงแม้จะอ้างว่าเป็นเพียงการรับฟังความคิดเห็น แต่เราก็เชื่อว่าในการรับฟังความคิดเห็นของก็จะมีเครือข่ายสายต้านเหล้าระดมกันมาให้ความเห็นสนับสนุน ถือเป็นการโยนหินถามทางว่ารัฐบาลปัจจุบันนี้จะเห็นกับกฎหมายเหล่านี้อย่างไร
เป็นการทดลองว่ารัฐบาลจะเอาด้วยหรือไม่ ตนประเมินว่าจะผู้ผลิตจะหายไปครึ่งหนึ่ง เพราะจะต้องเปลี่ยนฉลากใหม่ รวมถึงมีภาพที่เกิดผลกระทบต่อลูกค้า ที่จะนำสินค้าขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ทั้งนี้ บางทีก็อาจจะลือไปทั่วโลกว่าไม่ต้องมากินเหล้าที่เมืองไทยแล้ว เพราะมันน่าเกลียด อยากให้กรรมาธิการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือ เพื่ออยากทราบวัตถุประสงค์ของการของกฎหมายฉบับนี้
ด้านนายสิทธิพล กล่าวว่า กรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจมีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงในการตรวจสอบติดตามในเรื่องนี้ ซึ่งตนจะนำไปประชุม เพื่อเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำมาชี้แจง อยากฝากไปถึงรัฐบาลว่าอุตสาหกรรมผลิตเหล้าเบียร์ เป็นอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ ที่ช่วยสร้างงานสร้างรายได้ และที่สำคัญหากกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ต้องไปดูว่ากระทบกับเศรษฐกิจในระดับชุมชนหรือไม่
ผู้ประกอบการรายย่อยจะแข่งขันได้ยากขึ้น นำเสนอสินค้าได้ยากขึ้นหรือไม่ และประการสำคัญที่สุดสำหรับรัฐบาลชุดนี้ซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ตนคิดว่าประเด็นการกำกับด้วยฉลากรูปแบบต่างๆ จะต้องคำนึงถึงว่าส่งไปกระทบต่อซอฟต์พาวเวอร์ที่รัฐบาลพยามผลักดันหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เป็นการสื่อสารไปในลักษณะตรงข้ามกับที่รัฐบาลจะผลักดันเรื่องซอฟต์พาวเวอร์หรือไม่ ตนเชื่อว่าหากมีเหตุผลที่ดีพอ รัฐบาลจะรับฟังและไปปรับปรุง การรักษาสมดุลของการรักษาสุขภาพ การคุ้มครองผู้ประกอบการ การคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ก็เป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องคำนึงถึง
จากนั้น นายแพทย์ทศพร ระบุว่า ตนจะพยายามเข้าไปดูสร้างความสมดุลกับเรื่องเศรษฐกิจกับสุขภาพของประชาชน อย่างไรก็ตาม ต้องให้เกิดความสมดุลระหว่าง 2 ทาง และตนจะนำเรื่องนี้ไปทำงานกับรัฐบาล
ขณะเดียวกัน นายเท่าพิภพ ยังกล่าวทิ้งท้ายการแถลงด้วยว่า นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ดูแลกำกับข้าราชการได้ดีแค่ไหน การปรับคณะรัฐมนตรีก็ใกล้เข้ามาแล้ว ซึ่งเดือนหน้าจะมีกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าสภา ตนและพรรคก้าวไกลได้เสนอร่างยกเลิกร่าง พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับนี้ ตนคิดว่าข้าราชการออกกฎ ใช้กฎหมายเอง เป็นเรื่องไม่ถูกต้องตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม ดังนั้น ถ้ารัฐมนตรีที่เป็นเจ้ากระทรวงเอง มีความรับผิดชอบ มาจากการเลือกตั้ง มาจากฝั่งการเมืองต้องคำนึงถึงเรื่องนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews