“กิตติศักดิ์” มี 36 สว.ร่วมลงชื่ออภิปรายรัฐบาล

 

 

 

“กิตติศักดิ์” มี 36 สว.ร่วมลงชื่ออภิปรายรัฐบาล ยันทุกคนพร้อมมาก มีประเด็น”ทักษิณ”พร้อมแซะ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ย้อน นายกฯคนไหนไปเชียงใหม่

 

 

 

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมวุฒิสภา ถึงการอภิปราย ทั่วไปตามมาตรา 153 ของสมาชิกวุฒิสภา ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ ว่า สมาชิกที่เข้าชื่อไว้ตอนนี้ 36 คน มีความพร้อมมาก ยกเว้น “กิตติศักดิ์” ที่ทำหน้าที่เป็นกรรมการพิจารณาเวลาผู้ที่จะอภิปราย ส่วนจะอภิปรายด้วยหรือไม่ ขอให้ติดตามดูถ้าคนที่อภิปรายเก่งๆ ดังนั้น ตนก็ไม่ต้องอภิปราย

 

ทั้งนี้ การที่มี สว.อภิปรายเพียง 36 คนนั้น นายกิตติศักดิ์ ชี้แจงว่า ด้วยเวลาที่จำกัด ตั้งแต่ 09.00-24.00 น.เท่านั้น การแบ่งเวลาตอนนี้ สว.ได้อภิปรายทั้งหมด 12 ชั่วโมง และฝ่ายรัฐบาลขออภิปราย 3 ชั่วโมง

 

ขณะในการอภิปรายจะมีประเด็นของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายกิตติศักดิ์กล่าวว่า “ก็มีอยู่เยอะ แต่ตนไม่ทราบว่าผู้ที่จะอภิปรายจะกลัวนายทักษิณฟ้องหรือไม่ แต่คิดว่าเราทำงานตรงนี้ ทุกคนคงต้องพร้อม โดยเฉพาะ “กิตติศักดิ์” พร้อมมาก เพราะสิ่งที่ไม่ถูก ไม่ต้องปล่อยกันอย่างนี้ จะไปสอนลูกหลานอย่างไร ถ้าหากละเมิดกฎหมายทุจริตกัน แล้วกลับบ้านหน้าตาเฉย และยังให้ลูกน้องส่งสัญญาณว่า ถ้าใครพูดเรื่องนี้จะฟ้อง ตนคิดว่าจากความกลัว ก็จะกลายเป็นไม่กลัวแล้ว

 

ซึ่งขณะนี้มีการฟ้องเรียบร้อยแล้ว เท่าที่ทราบมีอดีต สส.คนหนึ่งลงภาพ นายทักษิณเตะกระสอบทราย แล้วกลับมาถึงไทยก็ป่วย ตนไม่ทราบว่านายทักษิณ หรือลูกน้องนายทักษิณที่เดือดร้อนแทนนาย ดำเนินการฟ้องร้องกันแล้ว

 

สำหรับกรณีที่นายทักษิณมีกำหนดการเดินทางไปที่จังหวัดเชียงใหม่ มองว่า นายทักษิณเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก การแสดงแบบนี้ได้ไปไหนต่อไหนได้ ตนไม่ทราบจริงๆ ว่า มีการพูดคุยกับใคร ตกลงกับฝ่ายไหนหรือไปดีลกับใคร ตนไม่ทราบจริงๆ แต่เราในฐานะที่เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยก็ต้องเอาความจริงบอกพี่น้องประชาชน และคิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลก ความจริงก็คือต้องบอกความจริงกับประชาชน

 

ส่วนกำหนดการของ นายเศรษฐาทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไปเชียงใหม่ในช่วงเวลาเดียวกับนายทักษิณด้วยนั้น นายกิตติศักดิ์ ถามกลับว่า “นายกคนไหน” เห็นเขาว่ามีตั้งหลายคน นักข่าวจึงตอบกลับไปว่านายกเศรษฐา นายกิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ ความบังเอิญมันไม่มี มีแต่การวางแผนกันไว้ทั้งนั้น แต่ก็ต้องเห็นใจนายกเศรษฐา ที่ตะเวนไปรอบโลกสื่อมวลชนหรือประชาชน ก็เห็นมาว่าเอาสาระไม่ค่อยจะได้ เป็นประโยชน์อะไรกับประชาชนในการที่ใช้งบประมาณไปรอบโลก ซึ่งใช้งบประมาณมาก แต่ผลงานที่จะได้นั้นยังจับต้องไม่ได้

 

นายกิตติศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกองเชียร์จะไปต้อนรับนายทักษิณที่เชียงใหม่ ว่า เป็นเรื่องธรรมดา กิตติศักดิ์ไป ก็มีคนชอบไปรับ แต่การที่ไปอย่างนั้น ก็ไม่รู้สึกแปลก เพราะมี FC ไม่ว่าจะเป็นนายกทักษิณหรือ นายกเศรษฐา หรือว่าที่นายกอุ๊งอิ๊งค์( นางสาวแพทองธาร ชินวัตร )ไปก็ต้องมี FC เป็นเรื่องธรรมดา แต่ผู้ที่ไปที่มีตำแหน่งนั้น มีความละอายใจหรือไม่เหมาะสมหรือไม่ ตรงนี้ต้องคิดและพิจารณา

 

“กิตติศักดิ์” ห่วง”ยิ่งลักษณ์”ใช้โมเดลเดียว”ทักษิณ” จะเป็นฟางเส้นสุดท้าย ชี้ควรหยุดควรพอ ต้องรับโทษ ใช้เกณฑ์พักโทษ ไม่ได้ อายุไม่ถึง

 

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงกระแสข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับประเทศไทยโดยใช้โมเดลเดียวกับนายทักษิณ ชินวัตรว่า “เป็นห่วง” ถ้าหากว่าเป็นจริง หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับมาจริงๆ ตนเกรงว่าจะเป็นฟางเส้นสุดท้าย สำหรับประเทศไทย อะไรจะเกิดตนไม่ทราบ แต่คิดว่าควรหยุดควรพอได้แค่นายทักษิณ หากว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะกลับมาโดยไม่ต้องรับโทษ ตนเกรงว่า ความอดทนของคนจะสิ้นสุด

 

ส่วนความเป็นห่วงในเรื่องอะไรนั้น นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า เป็นห่วงในเรื่องความขัดแย้ง ซึ่งตนต้องขอบอกว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นของพี่น้องประชาชนคนไทย ต้นตอมาจากนายทักษิณ ถ้าตนพูดไปแล้ว นายทักษิณจะฟ้องก็ฟ้องได้เลย ถ้านายทักษิณสร้างความแตกแยกของคนไทยแล้ว ยังมาซ้ำเติมโดยการที่นำผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้จำคุก ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกศาลพิพากษาให้จำคุก 5 ปี และยังมีคดีอื่นๆ ที่รอคำพิพากษาเดินทางกลับประเทศมาโดยไม่ต้องติดคุก ขอย้ำว่า “กลัวจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ประชาชนจะสิ้นสุดความอดทน”

 

สำหรับโอกาสการเดินทางกลับประเทศไทยของ น.ส.นางสาวยิ่งลักษณ์เป็นไปโดยง่ายหรือไม่ หากใช้เกณฑ์พักโทษเช่นเดียวกับนายทักษิณ ที่ยังอายุไม่ถึง นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ตนมองว่าไม่ง่าย นายทักษิณก็ยังพอกล้อมแกล้ม เอาสีข้างเข้าถูไปได้ แต่สำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตนมองไม่ออกว่า เข้ามาแล้วไม่ติดคุก จะเอาเหตุผลใดมา และยังมองไม่ออกว่านางสาวยิ่งลักษณ์จะไม่ติดคุกได้อย่างไร ถ้ากลับมา

 

ทั้งนี้ หากจะใช้ช่องทางนิรโทษกรรม นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ใครจะทำ พรรคการเมืองไหนจะทำ โดยในปี 2557 ก่อนที่จะเกิดการปฏิวัติ ก็มีการนิรโทษกรรมสุดซอย ดังนั้น ตนคิดว่าตรงนั้นไม่ใช่หลักของกฎหมาย ถ้าทุกคนทำผิด สมมุตต่อไปใครไปฆ่าคน ค้ายาบ้า ก็นิรโทษกรรมให้หมด และถ้าทุจริตซึ่งไม่ใช่ทุจริตธรรมดา รวมถึงการทำผิดกฎหมายเล็กๆน้อยๆ ศาลตัดสินจำคุก 3 เดือน 6 เดือน ยังติดคุกจริง แต่ถ้าหากกรณีของนักการเมืองและอดีตนายกรัฐมนตรี กระทำผิดโดยศาลพิพากษาแล้ว ถ้าจะนิรโทษกรรม ตนขอเสนอนิรโทษกรรมให้กับนักโทษกว่า 200,000 คน หรือนักโทษทั้งหมดทั้งประเทศ ตนจะเป็นคนเดียวและเป็นคนแรก

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews